หลังจาก "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประมุขลูกหนังไทย ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ปลด มิโลวาน ราเยวัช ออกจากตำแหน่งหอบัญชาการทัพ "ช้างศึก" แม้จะพาทีมตกรอบรองชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2018 ก็ตาม และขอประเมินผลงานกุนซือเซอร์เบีย หลังจบฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 ที่จะบรรเลงแข้งในเดือนมกราคม ศกหน้า ที่ประเทศ ยูเออี

นอกจากนี้ประมุขลูกหนังไทยยังสะกิดกุนซือเลือดเซิร์บปรับวิธีการเล่นของทีมไทยให้ไฉไลกว่าเดิม โดยเฉพาะ "เกมรุก" ให้มันจัดจ้านขึ้นหน่อย ซึ่ง "โค้ชมิโล" ยืนยันแล้วว่าจะมีปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์และใส่่ชิ้นอะไหล่เพื่อเติมให้ "ช้างศึก" แล่นฉิวกว่าเดิม

ดังนั้นทีมงาน SS Ballthai จึงคัด 5 อะไหล่ชั้นดีมาให้ มิโลวาน ราเยวัช เลือกไปใช้งาน เพื่อให้ "ช้างศึก" เดินพุ่งชนเป้าหมายที่วางไว้ให้ได้



1. มาร์โก บัลลินี

ในศึกชิงแชมป์อาเซียนที่ผ่านมาจะเห็นชัดเจนว่า พรรษา เหมวิบูลย์ และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กองหลังคู่ขวัญของ ราเยวัช ฟอร์มดร็อปลงไป เมื่อเมียงมองคู่ต่อสู่ร่วมสายในศึกใหญ่ระดับทวีปเอเชียต้องบอกว่า กองหลังลูกครึ่งไทย-อิตาเลียน จาก ชัยนาท ฮอร์นบิล น่าจะถูกหนีบติดทีมไปลุยศึกที่ดินแดนตะวันออกกลางด้วย

เพราะด้วยรูปร่างที่สูงกว่า 2 เมตร น่าจะช่วยป้องกันการโจมตีลูกกลางอากาศของทั้ง ยูเออี หรือ อินเดีย ได้เป็นอย่างดี ประกอบกับ มานูเอล ทอม เบียร์ห กองหลังลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ มาร์โก้ บัลลินี จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับ ราเยวัช นอกเหนือจากกองหลังที่มีอยู่ในขณะนี้



2.รัตนากร ใหม่คามิ

ในทัวร์นาเมนต์ ชิงแชมป์อาเซียน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ฟอร์มตกและพลังงานในการไล่บอลแดนกลางเหือดหายไปอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น "เกม" รัตนากร ใหม่คามิ กองกลางวัย 20 ปี จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะด้วยสไตล์การเล่นแบบ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางทีมชาติผรั่งเศส และ เชลซี ที่วิ่งไล่บอลได้ตลอด 90 นาทีไม่มีหมด น่าจะช่วยให้การเพรสซิ่งเกมในแดนกลางดุดันขึ้น ซึ่งจะช่วยแบ่งเบางานของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และทำให้กองกลางตัวรุกอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือ สรรวัชญ์ เดชมิตร สร้างเกมรุกให้กองหน้าทำประตูโดยไม่ต้องระแวงเกมรับ

นอกจากนี้แม้จะอายุเพียง 20 ปี แต่ประสบการณ์ของ รัตนากร นั้นมีมากโข ทั้งการเป็นตัวหลักของทีม "ปราสาทสายฟ้า" ลงเล่นในฟุตบอลโตโยต้าไทยลีกและฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก มาตลอด 2 ฤดูกาล รวมไปถึงประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลระดับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในซีเกมส์ และชิงแชมป์เอเชียมาแล้ว




3. เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์

น่าเสียดายที่ "เจ้าก้อง" หลุดโผทีมชาติไทยชุดชิงแชมป์อาเซียน เพราะฤดูกาลที่ผ่านมาปีกจรวดจากทีม ชลบุรี เอฟซี กลับมาท็อปฟอร์มเหลือเกิน เมื่อยิงและจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูกระจาย ซึ่งเขาน่าจะเติมเต็มเกมรุกทางกราบซ้ายของทีมซึ่งเป็นจุดบอดมาในยุค ราเยวัช ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

โดยเฉพาะการเล่นที่เข้าขารู้ใจกับ ธีราทร บุญมาทัน น่าจะทำให้ฝั่งซ้ายของทีม "ช้างศึก" ดูดีขึ้นทั้งเกมรุกและรับ เพราะปีกวัย 28 ปี รายนี้ นอกจากมีจุดเด่นในเกมรุกแล้ว วินัยในเกมรับของเขายังยอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร นอกจากนี้จะทำให้ ศุภชัย ใจเด็ด ที่ถูกโยกไปเล่นปีกซ้าย สามารถกลับไปเป็นตัวเลือกในแดนหน้าให้ ราเยวัช มีตัวเลือกในการปรับแท็คติคการเล่นเกมรุกมากขึ้นในระบบ 4-4-2 หรือ 4-3-1-2 ยามที่ทีมต้องการประตูเพิ่ม




4. ทริสตอง โด

แบ็คซ้ายของทีมชาติไทยตอนนี้มีตัวเลือกมากมายทั้ง กรกช วิริยอุดมศิริ ที่ผลงานยอดเยี่ยม และ ธีราทร บุญมาทัน ที่มากด้วยประสบการณ์และชั้นเชิงลูกหนังระดับเจลีก ขณะที่แบ็คขวายังคงไม่นิ่งเอาเสียเลย ดังนั้น ทริสตอง โด น่าจะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมของ ราเยวัช

แม้แบ็คขวาจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะมีจุดเด่นเรื่องการเติมเกมรุกที่ดุดัน แต่เมื่อสภาพร่างกายของเขาฟิตเต็มร้อย เกมรับของ โด ก็ไม่เป็นรองใครเช่นกัน ด้วยความเร็วที่จัดจ้าน และลูกบู๊ที่ดุดันถึงพริกถึงขิง ซึ่งเขาพิสูจน์ตัวเองมามากมาย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ราเยวัช จะกวักมือเรียกดาวเตะรายนี้คัมแบ็คสู่ทำเนียบทัพ "ช้างศึก" อีกครั้ง




5.ธีรเทพ วิโนทัย

กองหน้าทีมชาติไทยตอนนี้มีความคมของ อดิศักดิ์ ไกรษร, ความเก๋าของ ธีรศิลป์ แดงดา และความสดของ ศุุภชัย ใจเด็ด ซึ่งที่ขาดหายไปนั่นก็คือความกระหายและดุดัน แน่นอนว่าด้วยคาแรกเตอร์ดังกล่าวแฟนบอลส่วนมากคงนึกถึง "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย

กองหน้าวัย 33 ปี ยังคงไม่หมดไฟ และมีความต้องการรับใช้ชาติเสมอและเขาบอกว่าอายุไม่ใช่ปัญหา เพราะเขาดูแลตัวเองเป็นอย่างและมีความฟิตกว่านักเตะวัยรุ่นบางคน ในฤดูกาล 2018 เขาเป็น "กองหน้า" สัญชาติไทย ที่ยิงประตูในฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก มากที่สุดจำนวน 9 ประตู ที่สำคัญดาวเตะรายนี้มักมีลูกบ้า ยิงประตูสำคัญๆ ได้เสมอ ไม่แน่ว่าหาก ราเยวัช หนีบเขาไปยูเออีด้วย "ลีซอ" อาจเป็นไพ่เด็ดของทีม "ช้างศึก" ก็เป็นได้

เห็นด้วยทั้ง 5 ตำแหน่ง

เกมเจอมาเลย์ถ้าจุดโทษเปลี่ยนคนยิงเป็นลีซอเชื่อว่ายิงหายแน่นอน ไม่ได้โทษ AK แต่เกมสำคัญในจังหวะกดดันสูงๆแบบนี้ บางทีการได้ลูกบ้าและความความมั่นใจสูงๆแบบลีซอโครตมีประโยชน์

เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะ โด และลีซอ

บัลลินี ควรได้โอกาสaffมากที่สุดในตำแหน่งกองหลัง เพราะจะได้เห็นว่าดีพอจะติดชุดใหญ่หรือไม่

สุพรรณ ก็เป็นอีกคนที่ควรได้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง


รัตนากร คนนี้ก็น่าเสียดายที่ไม่ติด การไล่ตัดเกมของรัตนากรผมว่าช่วยให้ธนบูรณ์คืนฟอร์มได้ดีขึ้น เพราะสไตล์ของธนบูณ์จะเป็นประเภทคอยเก็บบอล ดักทาง ชึ่งธิติพันธ์เน้นบุกมากเกินไป วิ่งพล่นไปทั่วแต่เหมือนไร้ประโยชน์

ธีรเทพ เหมาะที่จะเป็นอะไหล่ ในเอเชี่ยนคัพเพราะประสบการณ์สูง


เกริกฤทธิ์ ไม่ใช่ตัวทะลุทะลวง ไม่มีสกิลเลี้ยงกินตัว แต่เป็นประเภทสอดไปยิง แนวเดียวกับจ่าเย็น เอาไปได้แหละ เพราะตัวอื่นที่ติดaffก็เล่นไม่ดี

ส่วน โด เพราะถอนตัวจากคราวก่อน อย่าว่าแต่ราเยวัชเลย แฟนบอลก็ไม่พอใจ
18มีนาเตะกับอุบลทั้งเกม
19มีนาประกาศถอนตัวโดยมีใบรับรองแพทย์ให้พัก7วัน 19-25
28มีนาลงเล่นทั้งเกมกับการไปเยือนโคราช มันติดตรงนี้แหละ พักหลายวันแต่ฟิตมาก ชึ่งผิดวิสัยของคนที่เจ็บจนต้องพัก ถ้าให้พักก็ห้ามซ้อมน่ะ ซ้อมวันเดียวเอง

ผมว่า กองหลังตัวยักษ์ลูกครึ่งอิตาเลียน กับ โดช์ น่ะ ควรติด

เพราะแทคติกของแกก็น่าจะเหมาะกว่าด้วย เน้นรับ และเล่นลูกนิ่ง ลูกโยน

โดช์ ยังไงซะเกมรับก็ดีกว่า โรเลอร์ นะ

เห็นด้วยทุกคนเลย เอาตรงๆถ้าบุงราไม่ปลับนักเตะแล้วเรียกชุดเดิมไปเราจะโกรธมาก นักเตะชุดaffหลายคนโครตหมดอะ ขืนลุงไม่เรียกตัวใหม่ๆมากดดันบ้างแย่เลย

โดนิที่ไม่ติดไม่ใช่เพราะฟอร์มหรือระบบนะ การเมืองล้วนๆ

1 ไม่เห็นด้วยเท่าไรนะ
2,3 โอเค
4 เห็นด้วยอย่างแรง
5 ไม่ต้อง

1+2+5

ควรเรียกมา

ลีซอนี่ลืมไปได้เลยครับ ฟอร์มไม่ได้ดีขนาดนั้น เล่นกับแบงค็อกบางเกมนี่หายไปเลย ขนาด 50 คนแรก ที่ราเยวัชเรียกมาสแตนด์บาย ยังไม่มีชื่อเลย ก้อง เกริกฤทธิ์ก็ไม่น่าเบียดเข้ามาได้ บัลดินี่ก็ยังไม่นิ่งพอ

ผมว่า จักรพันธ์ เป็นตัวที่น่าเรียกเข้าไปติดสุดละ ยังงงอยู่เลยว่าทำไม อาเซียนคัพถึงไม่หนีบไป ถ้านึกเหตุผลที่พอจะเข้าใจได้มากสุดก็น่าจะอยากให้เก็บความสดไว้เล่นเอเชียนคัพ

4 ตัวที่สอบตกใน aff และคงหลุดแน่ ๆ เพราะการมาของ 4 จตุรเทพ
โกล์ : อานนท์
หลัง : เควิน
กลาง/หน้า : สุมัญญา ปกรณ์

4 ตัวที่มีแววว่าอาจจะหลุด
สุพรรณ, นูรูล, มงคล, ศศลักษณ์

ที่เหลือผมว่าน่าจะยังได้ไปต่อครบทุกคน

ดังนั้นก็จะมี 4 ตัวที่อาจจะได้โควต้าเข้ามาแทรก ผมว่าไม่หนี 8 คนนี้

หลัง : ทอมเบียร์ (ถ้าหายเจ็บทัน)
กลาง : จักรพันธ์, โด, พิธิวัฒธ์, อานนท์, ชัปปุยส์, รัตนากร
หน้า : สุรชาติ

ธนบูรณ์ ฟอร์มดรอปลงไปเยอะเลย เหมือนทำอะไรก็ช้าไปหมด

ลิซอนี่ ยังรับงานคอมเมนเตเตอร์ฟุตบอล จนเที่ยงคืนตีหนึ่ง เนี่ยนะ นักฟุตบอลอาชีพ

เห็นด้วยครับ ผมมองว่า ลีซอ คือตัวโจ๊กเกอร์ ที่พร้อมจะทำประตูในช่วงเวลากดดันได้ดีคนหนึ่งทีเดียว เห็นแบบนี้เค้ารับแรงกดดันได้ดีคนหนึ่งเลยนะ
คิดเหมือนกัน จุดโทษเกมนั้นหากเป็นลีซอ ได้เฮแน่นอน