ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 10363
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Thu Dec 06, 2018 10:53
[RE: วิเคราะห์ผลงานทีมไทย ตามฉบับโค้ชคีย์บอร์ด]
ส่วนตัวผมคิดว่าจะไปเอาโค้ชที่เล่นเพรสซิ่งมาคุมก็คงยากอะสำหรับทีมชาติ เพราะความฟิตจะไม่ถึง
ความเข้าใจเกม ทักษะนักเตะ สมาคมอาจต้องมุ่งไปที่ลีค อาจเป็นการขอความร่วมมือให้แต่ละทีมเล่นเพรสซิ่งมากขึ้น หรือไม่ก็ออกเงินสนับสนุนให้โค้ชคนไทยแต่ละคนไปสอบเอาโปรไลเซนระดับยูฟ่า เพราะระดับ AFC นี่มาตราฐานมันไม่ได้สูงอย่างที่หลายคนก็รู้ๆกัน
แม้กระทั่ง football school ก็ควรจะต้องกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของอาคาเดมี่ เพราะฟุตบอลไม่ใช่แค่การฝึกซ้อมในสนาม แต่การเรียนรู้ทฤษฏีนั้นทำให้นักเตะยกมาตราฐานขึ้นทั้งระบบ ไม่งั้นเราคงต้องคาดหวังว่าจะมีนักเตะพรสวรรค์สูงลืมตาขึ้นมาดูโลกเยอะๆเอา
นอกจากนี้สมาคมควรเพิ่มมาตราฐานของระบบ Facility ในแต่ละสโมสร ระบุเป็นเงื่อนไขในการผ่านไลนเ์ซ็นไปเลย รวมทั้งเรื่องวิทยาศาสตร์กีฬา แม้แต่ตัวช่วยต่างๆที่จะเพิ่มความสามารถของนักเตะ เหมือนกับที่ดอทมุนท์ลงทุนไปกับ Footbonaut ที่มีผลรับรองแล้วว่าช่วยเพิ่มทักษะและไหวพริบในการรับส่งลูกบอลของนักเตะในทีมให้ดีขึ้น
ในสายตาของผมนักเตะมาเลเซียชุดนี้มีรูปร่างที่ดีกว่านักเตะไทยเยอะ มันไม่ใช่แค่ความสูง แต่ความหนา บาลานซ์มวลร่างกาย มันมีผลมาก.....เอาว่าเขาบังบอลมิด เขาชนเรากระเด็น ไอ้เราก็มัวแต่แก้ตัวว่าเขาเล่นแรง... แต่ถ้าไปดูในรายละเอียดแล้วจะเห็นว่าเมื่อเบียดแย่งบอลกันนักเตะไทยนั้นเสียเปรียบเกือบทุกลูก ไม่ว่าจะร่างกายที่เบียดสู้ไม่ได้ การเข้าหาตำแหน่งสำคัญ
นอกจากนั้นการเลือกสรรค์โค้ช ในระดับสโมสรอาจมีการขอความร่วมมือเรื่องแผนการเล่น และรูปแบบการเล่นเช่นขอให้แต่ละทีมเน้นบอลบนพื้นกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้นักเตะคุ้นเคย แม้กระทั่งการเพรสซิ่งคู่แข่งเพื่อให้นักเตะเคยชินกับวิธีเพรสซิ่งแบบเป็นทีมไม่ใช่การวิ่งขู่แบบที่เราเห็นๆกัน
ในระดับทีมชาติ หาสมาคมเลือกการเล่นบนพื้นเป็นหลัก การคัดสรรค์โค้ชก็ควรจะมองที่วิธีการฝึกสอนของโค้ช ไม่ใช่ชื่อโปรไฟล์ว่าเคยผ่านบอลโลกแล้วมันจะดี ทั้งหมดมันสอดคล้องกัน หากเน้นฟุตบอลบนพื้นแต่ไปจ้างโค้ชบอลโยน มันก็จะเละแบบทีมชาติไทยตอนนี้
แก้ไขล่าสุดโดย saber_mcfc เมื่อ Thu Dec 06, 2018 11:00, ทั้งหมด 1 ครั้ง