ใช่ครับ คือ ปีนี้ว่าโหดแล้ว หันไปดูปีที่แล้ว WTF !!! เกินป๊ายยยยย

14 นัด 40 ลูก นัดละเกือบ 3 ลูก เฟ็ดเฟ่

สนุกแบบกดเกมหรือฟังเพลงไปด้วยเลยครับท่าน 55555555

ไม่ไหวจะเคลียร์

เปรียบเทียบ14นัดกับปีที่แล้ว

แมนชิตี้ เชลชี อาร์เซนอล รักษาอันดับตัวเองได้

ลิวเวอร์พูล สเปอร์ พัฒนาขึ้นมา



ปีนี้
แมนชิตี้ทำคะแนนหล่นไป2
ลิเวอร์พูลคะแนนก้าวกระโดดจาก26เป็น36
เชลชีคะแนน+1 แต่ยิงได้เพิ่มขึ้น เสียเท่าเดิม
อาร์เซนอล ก็ใกล้เคียงทุกอย่าง
สเปอร์ส ดีขึ้นชัดเจน
แมนยู ดิ่งธรณีเลย ทุกอย่างแย่หมด
ต้องดูตอนจบว่าใครจะเป็นยังไง ปีที่แล้วเชลชีและอาร์เซนอลที่ฟอร์มแย่ตอนจบ

ชอบ data excel นี่ทำเองป่ะครับ

ทำเองฮะ ตอนแรกกะจะเก็บเข้า Acces แต่มันไม่ไหวครับ มันเยอะเกินไป

ผมขี้เกียจมานั่ง ดีไซน์ ตัว Access แต่ถ้าทำได้นะ บอกเลย บทวิเคราะห์ผมจะสะดวกกว่านี้เยอะ

แต่ก็นะ ไม่ไหวครับ มันเยอะมาก รายละเอียดและตัวข้อมูลมันเยอะ ต้องเอามาคลีนอีก

กว่าจะได้ตัวข้อมูลดิบที่นำมาใช้ได้

ผมรู้สึกว่า จริงๆแล้วความสามารถของนักเตะทีมเรามันไม่ได้ระดับท็อปเทียบเท่าซิตี้ ดังนั้น แผนที่คล็อปป์ใช้ในปีนี้ มันเลยเป็นการตกผลึกที่เหมาะกับทีมแล้ว คือเล่นมันสะใจไป แต่หลังรั่ว ผลการแข่งขันไม่ได้ดั่งใจ มันไม่ได้อะไรขึ้นมา

ระบบการเล่นผมว่าคล็อปป์วิเคราะห์มาจนถูกทางแล้ว แต่เรื่องฟอร์มการเล่น มันเป็นสิ่งที่โค้ชควบคุมไม่ได้ เฟอมีโน่ไม่ใช่ยอดดาวยิง มาเน่ฟอร์มขึ้นๆลงๆ ซาล่าบทจะคมก็คม บทจะฝืดก็อย่างสาก

กองกลาง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นักเตะใหม่ ปรับตัวได้ช้ากว่าที่คิด แต่โชคยังดีที่นักเตะเดิมๆ ยังยืนเป็นหลักให้ได้ โชคดีแค่ไหนที่คล็อปป์ไม่ปล่อยใครทิ้งไป

แนวรับคล็อปป์แก้ไขได้เยี่ยมแล้ว ทีนี้ผมว่า ช่วงปีใหม่นี้สำคัญ ผมว่าถ้าทีมผ่านเข้ารอบชปล.ได้ และตารางคะแนนในลีกก็ยังไล่จี้จ่าฝูงอยู่ อาจจะมีหวังได้เห็นการเสริมแกร่ง อีกสักหนึ่งราย ในตำแหน่งแนวรุกก็ได้ เพราะผมมองว่า สุดท้ายแล้ว หริดไม่ได้ดั่งใจคล็อปป์เท่าไหร่ จนถึงขนาดต้องส่งโอริกี้มาช่วย กองหน้ามันมีปัญหาอยู่จริงๆ (ยกเว้นโอริกี้จะกลายเป็นร่างเทพได้)

สุดท้ายทุกอย่างมันอยู่ที่แนวรุก ขนาดมาดริดมีกลางโคดเทพ แต่เวลาตัวรุกฝืด กลางก็ช่วยไรไม่ได้ ผมมองว่าปีนี้หลังกับกลางไม่ได้แย่ แต่พอแนวรุกแย่ กลางเลยโดนเป็นแพะไป เพราะว่าคนมองว่าชื่อชั้นกลางเราธรรมดา แต่แนวรุกเราฟอร์มเทพปีที่แล้ว

ผมรอนาบี้ เท่านั้นแหละครับ นาบี้ กับ AOC ส่วนถ้าเสริม อยากได้หน้าเป้าไปเลยก็ดี

ขอแบบสร้างความแตกต่างได้ ในแนวทางการเล่นที่แตกต่างพิงกองหลังเปิดช่องให้กึ่งปีกเราเข้าทำมากกว่านี้

เวลาฟีมีโน่เก็บบอลแนวหน้าไม่ได้ พื้นที่เล่นบองปีกมันก็จะน้อยตามไปด้วยนี่สิครับ

ปีก่อน เรือ 5 เม็ด ไก่ 4 เม็ด

ลูกได้เสียติดลบ ยันกลางฤดูกลาง

ไม่นึกไม่ฝัน มีวันที่ นั่งนับสถิติ คลีนชีท

วิเคราะห์ดีเลยครับ

แต่ตอนนนี้ขอสักถ้วยได้ไหม

ไม่ว่าจบนัดที่38 จะเป็นยังไง
ที่ผมอยากเห็นคือ เบียดกับซิตี้ให้ได้มากที่สุด ยื้อให้ซิตี้ยังต้องระแวงทีมตามบ้าง
ไม่ใช่โดนซิตี้ ทําแต้มทิ้งขาดแบบปีก่อน

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะครับ

อ่านเพลินเลย

เป็นกำลังใจให้นะครับ

รออ่านพาร์ท 2

ปล.ถ้าทำเพจบอกมาได้เลยนะครับ

จะไปกดไลค์

คิดเหมือนผมเลยว่า Man City โหดขึ้นกว่าปีที่แล้ว


เป๊ปนี่สุดยอดกุนซือจริงๆ นี่ขนาดไม่มี เดอบรอยด์นะ


ส่วนเราเอาแผนใหม่มาใช้ นักเตะกำลังปรับตัวอยู่


ประสิทธิภาพการบุกลดลงมันก็ไม่แปลก


เน่ / โน่ ปีที่แล้วยืนชนกองหลัง


ปีนี้ลงมายืน แทบจะชนกับ เฮนโด้ ดุม จะให้ยิงเยอะแบบปีที่แล้วมันก็ยาก


ปีที่แล้วบอก JK เอาแต่ยิง หลังรั่วแก้ไม่เป็น


ปีนี้อันดับดีขึ้น คะแนนดีขึ้น รับแน่นขึ้น


ยังไปว่า JK โยงไปถึง บูวัค บ้าบอคอแตกจริงๆ


เป๊ป + เฟอร์กี้ เปลี่ยน ผู้ช่วยมาตั้งกี่คนไม่เคยมีใคร นึกถึงผช สักคน

ถึงแม้ว่าจบนัดที่38ลง แล้วเราไม่ได้แชมป์

ผมก็ถือว่าทีมเรามีพัฒนาการขึ้นมากนะ จนถึงตอนนี้

ผมดีใจสะอีก ทีมเราเล่นรัดกุม เน้นผลได้มากขึ้น

ถ้าเป็นสมัยก่อน ถ้านำ1-0 จะโดนทีมเล็กไล่ตีเสมอประจำ

แฟนคนไหนก็อยากให้เกมรุกกลับมาเหมือนปีที่แล้ว
แต่ถ้าคิดดูดีๆปีที่แล้วก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ จนเกือบจะเป็นปาฏิหารย์เลยนะ

คล็อปป์กำลังหาแผนที่เข้ากับนักเตะอยู่ แต่มันติดตรงที่ตัวเข้ามาใหม่ ยังไม่ซึมซับระบบ

ช่วงนี้ต้องจับตามองเป็นพิเศษ ถ้าอยากลุ้นแชมป์ไปจนท้ายๆ

ตารางตอนนี้ ห้ามหลุดโค้งเด็ดขาด สำคัญมากจริงๆ เอาใจช่วยกันไปครับ

ผมว่าข้อมูลของ City ผิดไปหน่อยนะครับ

ตอนนี้ City ยิงได้ 43 นะครับ ไม่ใช่ 34ลูก , ดังนั้นตอนนี้ผลต่างของลูกได้เสียของ City คือ 34ลูกนะครับ ไม่ใช่ 28

เอาจริงๆภาพรวมของ City ณ ตอนนั้น ที่ตกไปเมื่อเทียบกับปีที่แล้วก็คือ
1. แต้มดรอปไป จากปีที่แล้ว 2 แต้ม
2. ยิงน้อยกว่าปีที่แล้ว 1 ลูก (ปีที่แล้วยิงไป 44 ลูก)

แต่สิ่งที่ต่างคือ ฤดูกาลนี้เจอทีมใน Top6 ไปแล้ว 4 ทีม ในขณะที่ปีที่แล้ว ณ ตอนนี้เจอไปแค่ 3 ทีมเท่านั้น ไอ้แต้มที่บอกว่าหายไป กับ 1 ลูกที่ยิงได้น้อยกว่าก็มาจาก Match ที่เจอลิเวอพูลนี่แหละครับที่เสมอกัน คือถ้านัดนั้นชนะด้วยลูกโทษ แต้มกับลูกยิง ของปีนี้จะเท่ากับปีที่แล้วเป๊ะๆเลย
แต่ในแง่ดีคือ ณ ตอนนี้ ปีที่แล้ว CIty เสียไปแล้ว 9 ลูก ในขณะที่ตอนนี้ เสียไปแค่ 6ลูกเท่านั้น , ส่วนอีกเรื่องคือ ในปีนี้ยังไม่มีแมทไหนที่ชนะแบบดวงล้วนๆ ภาพรวมๆคือตอนนี้ชนะแบบคุมเกมได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดพอสมควรเลยครับ

โดยรวมๆถือว่า City มีพัฒนาการเรื่องเกมรับดีขึ้นครับ แต่เกมรุกยังพอถือได้ว่าอยู่ในมาตรฐานปีที่แล้วอยู่ แต่ถือว่ามีพัฒนาการด้านการเล่นเกมที่ดีขึ้น คงเส้นคงวามากขึ้นในแง่ฟอร์มการเล่น

ผมเอามาจากเวปนี้แหละครับ 55555