[RE: ยังมั่นใจ! "เฉลิมพงษ์" วอนแฟนบอลไทยจงเข้าใจ "ราเยวัช" สไตล์]
nui_kmitl พิมพ์ว่า:
dekbom09 พิมพ์ว่า:
ส่วนตัวมองว่าสไตล์ ราเยวัช ต่างจาก มูริญโญ่ แต่ออกแนว เดส์ชองส์ มากกว่า เอาเป็นว่าถ้าอยากดูฟุตบอลที่กดทุกทีม อยากคาดหวังจากทีมชุดนี้ ฟุตบอลมันต้องเล่นหลาย ๆ แทคติค คู่แข่งเขาก็มีวิธีใหม่ ๆ มาหยุดอยู่ตลอด เชื่อว่าที่ ราเยวัช กำลังทำกับเรา นี้แหละถูกต้องแล้ว
ผมว่าตอนนี้แกเน้นแทคติค รับ แล้วสวนอย่างเดียวเลย
เจอติมอ เจออินโด ในบ้าน ลุงแกยังรับ แล้วรอสวนเลย
เอาจริงๆ ถ้าเจอทีมต่ำ กว่า ไม่ว่าจะมาก หรือ น้อย มันควรเซ็ตเกมรุก มากกว่าเกมรับ
ถ้ายังรับสิงคโปร์ในบ้าน ในวันอาทิตนี้ ก็คงชี้ชัดๆ แล้ว ว่ายังไงสไตล์แกมีสไลต์เดียวแน่ๆ
อยากจะแชร์มุมผมนิดนึง คือเท่าที่อ่านคอมเม้นต่าง ๆ มักจากมอง high-level ว่า สไตล์ของผู้จัดการทีมมีแค่ 2 แบบคือ
แบบแรก "ครองเกม เซตเกมส์รุกแล้วบุกใส่"
แบบหลัง "ตั้งรับแล้วสวนกลับ"
แล้วไอประเด็นที่มักเป็นดราม่าทุกเว็บบอร์ดที่ผมเห็นคือ มักมีการเปรียบเทียบว่า โค้ชคนก่อนคือแบบแรก โค้ชคนปัจจุบัน คือแบบหลัง คือแน่นอนครับ แฟนฟุตบอลชอบเกมรุก
"แต่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ" โค้ชคนก่อนก็เคยพยายามเอาแท็กติกเกมส์รับมาใส่ เคยมีบุกออกไปตั้งเกมรับกับเกมส์ในอาเซียนนอกบ้านเช่นกัน ถ้าคุณจำเกมส์ aff 2 ปีก่อนที่เยือนฟิลิปปินส์ พม่าและอินโด เราก็เล่นแท็กติกนี้ ซึ่งก้อโดนสื่อโดนแฟนบอลไม่พอใจ (ไม่แน่ใจว่า 2 ปีก่อนคุณบ่นแบบนี้รึเปล่านะ) โดยเฉพาะเกมส์นัดชิงที่เราบุกไปแพ้อินโด 1-2 ตอนนั้นโดนหนัก เพราะเกมส์รับเราเป็นจุดอ่อนมาตลอดจริง ๆ
ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่สมาคมมองหาคนที่จะมาเติมเต็มในที่สิ่งเราขาดหายไปตลอดคือเกมส์รับ เพราะฟุตบอลสมัยใหม่โดยเฉพาะเกมส์ทีมชาติ ทีนี้ราเยวัชกับทีมงานแกตอบโจทย์ตรงนี้ แล้วผลงานแกจับต้องได้ว่าเกมส์รับแกแน่นจริงพลาดยากขึ้น แต่แน่นอนว่ามันต้องแลกมาด้วยเกมส์บุกที่น้อยลง
แต่ถ้ามองแบบไม่ลงดีเทลคือ เห้ย นี่คือแท็คติกรับแล้วสวนกลับ คือเจอติมอร์ เจอลาว ก็บุกไปตั้งรับเค้าหรือ ขอตอบว่า มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เราบุกเฉพาะโอกาสที่เปิดให้ ซึ่งในเกมส์ฟุตบอลตลอด 90 นาที มันมีจังหวะแบบนั้นเยอะไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง อันนี้อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ของเดส์ช็องส์ (นับเซตพีซทุกลูกรวมเข้าไปด้วย)
ขออธิบายตามความรู้น้อย ๆ ต่อจากที่เคยอ่านบทสัมภาษณ์อื่น ๆ ของเดส์ช็องส์ที่แกก็เคยโดนแฟนบอลวิจารณ์หนักเหมือนกันในระยะหลังที่แกมาปรับสไตล์ของทีมชาติฝรั่งเศสจากที่เคยล้มเหลวมาหลายทัวร์นาเม้นต์จนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะตอนเปิดจุดอ่อนให้โปรตุเกสโจมตีตอนท้ายเกมส์นัดชิงยูโร เป็นการบ้านชิ้นใหญ่ของแกเลย
เพราะศักยภาพนักเตะฝรั่งเศส พวกเอ็มปั๊ปเป้ ป๊อกบา กรีซมันน์ โตแว็ง ปาเยต เดมเบเล่ เกมส์รุกพี่แกกดได้เกือบทุกทีมในยุโรป แต่เดส์ช็องส์ก็ใช้รูปแบบการเข้าทำ เฉพาะตอนโอกาสเปิดเช่นกัน สังเกตเซตพีซฝรั่งเศสคือหวังผลได้มากกว่า 50% ถ้าคุณดูฝรั่งเศสทุกนัดแบบผม จะเห็นว่า ที่ฝรั่งเศสได้ประตูมาจากเตะมุม เซตพีซ เยอะมาก (ลูกโทษก็ไม่เคยพลาด)
อยากให้คุณลองดูพวกบอลทีมชาติที่เค้าประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบันเยอะ ๆ โดยเฉพาะฝรั่งเศสตอนเป็นแชมป์โลก ตอนรอบแรก เจอออสเตรเลีย เปรู เดนมาร์ค พี่แกไม่จำเป็นต้องครองบอลเหนือใครเลยนะ แต่ก็เข้าเป็นที่ 1 มาได้ เกมส์กะอาร์เจนถัดมา หรือกับโครเอเชียรอบชิงก็เป็นอีกแมตช์ที่แท็กติกพี่แกได้ผลอย่างมาก
ทีนี้กลับมาที่บอกว่า เล่นกับติมอร์เล่นกับลาว เราตั้งรับแล้วสวนกลับหรือเปล่า ตอบคือเปล่าเลย เราบุกเฉพาะตอนคู่แข่งอ่อนแอ เล่นให้น้อยจังหวะที่สุดรวดเร็วและแม่นยำ ทุกการบุกต้องมีลุ้น ลูกเซตพีซก็เป็นหนึ่งในโอกาสแบบนั้น หรือพูดง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องไปครองบอลชิ่งไปชิ่งมาแล้วไม่ได้จบ เพราะการที่คู่แข่งไม่เปิดพื้นที่ยังไงก็เข้าไปยิงยากกว่า ตอนคู่แข่งเปิดพื้นที่อยู่แล้ว
ทีนี้มามองเกมส์กับสิงคโปร์ ผมก็ต้องบอกว่า ในแง่ดีเทล เราไม่ได้จะเล่นตั้งรับหรืออุดเพื่อรอสวน แต่ถ้าในแง่ high-level อาจจะใช่ แต่มันคือการเล่นรอจังหวะ ที่สำคัญคือ"ไม่ประมาท" เพราะการมัวแต่ครองบอลแล้วเจาะไม่ได้ พอเอาแบ็กเติมหลังเติม มันก็เหมือนเปิดจุดอ่อนให้คู่แข่งเล่นงานเช่นกัน
ในฐานะศิษย์เก่าลาดกระบังเหมือนกัน(เดาจากชื่อยูส) ผมอยากให้เปิดใจนิดนึง ผมเชื่อว่าคำว่ารับแล้วสวนกลับมันไม่ได้มีแค่มิติที่ว่า "อุด" "รถบัส" อย่างเดียว เพราะไม่งั้นฝรั่งเศสคงไม่เปนแชมป์โลก และโปรตุเกสก็คงไม่เป็นแชมป์ยูโรจากการแค่อุดแน่ ๆ ครับ