โคล้ด ปูเอลผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้เปิดเผยว่าเขาไม่ได้รู้สึกถึงความกดดันอะไรแม้ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องว่าอาจโดนยื่นซองขาวปลดออกจากตำแหน่ง

แม้ทำผลงานไม่น่าเกลียดในช่วงที่เข้ามารับงานตั้งแต่ฤดูกาลก่อนแต่เป็นเรื่องน่าแปลกที่ปูเอลมักมีชื่อติดโผว่าจะโดดเด้งออกจากตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง

เมื่อโดนถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบอร์ดบริหารในถิ่นคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยมในช่วงที่ผ่านมานั้น ปูเอลตอบว่า"เราคุยกัน เราแบ่งปันความรู้สึกมากมายต่อกัน"

"คุณสามารถเปลี่ยนผู้จัดการทีมได้ทุกๆ 4-5 เดือน พวกผู้บริหาร, นักเตะหรืออะไรแบบนั้น"

"ผมก็แค่ลูกจ้างนะ ผมพยายามทำเต็มความสามารถเพื่อสโมสรด้วยรูปแบบที่เหมาะสม ก้าวไปทีละขั้น"

"ผมจะทำแบบนี้ต่อไปไม่ว่ามันจะมีความกดดันหรือไม่มีก็ตามดีนะ"

ถ้าเทียบเป็ยบริษัท

พนักงานเงินเดือนแบบนี้ ไม่มีทางที่จะได้ขึ้นตำแหน่งใหญ่

ทัศนคติการทำงาน แค่มาเช้าเย็นกลับ ถึงเวลารับเงินเดือน

ไล่ออกอย่างเดียวจ้า

ทัศนะคติคล้าย ๆ อันเช่ การทำงานฟุตบอล ความกดดัน ความคาดหวังมันสูง ถ้าทำไม่ได้ตามเป้าหมายก็คือถูกปลด แล้วหางานใหม่ต่อ ยี่ห้อ ปูแอล สบาย ๆ อยู่แล้ว

1 ใน 3 ตัวหลัก โดนขายไปแล้ว 2

ตัวที่ซื้อมา ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับตัวที่ขายออกไป

ปีนั้น ไหนๆก็ได้แชมป์พรีเมียร์แล้ว น่าจะถือโอกาศสร้างทีมให้ยิ่งใหญ่

แต่เจ้าของทีมเลือกที่จะไม่ทำ ไม่อยากเสี่ยง

ไม่อยากทุ่มเงิน ไม่อยากดันให้ทีมไปได้ไกลกว่าเดิมแบบรวดเร็ว

ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่

การได้แชมป์พรีเมียร์กลายเป็นแค่การถูกหวยรางวัลใหญ่เท่านั้น แล้วจบไป...กลับไปสู่วัฎจักรเดิมๆ ไม่ใช่โอกาสในการสร้างความยิ่งใหญ่อะไร

เจ้าของทีมไม่ได้มีความกระหาย ไม่ได้มีความกระตือรือร้น อะไรขนาดนั้นครับ
อันนี้พูดจาก การเสริมทีม การจัดการนักเตะต่างๆ เท่าที่อ่านจากข่าว แล้วคิดตีความเอง


ปลดปูแอลตอนนี้ สถานการณ์ก็ไม่น่าจะดีขึ้นหรอกครับ เพราะตอนนี้อยู่ที่ 11

จะมีเหนือกว่าความคาดหมายก็แค่ วัตฟอร์ด กับ บอร์ทมัน นี้ยังไม่ได้นับพวกที่น่าจะทำได้ดีกว่าเลสเตอร์อีก ที่อยู่อันดับต่ำกว่าตอนนี้

ผมเชื่อมั่นมากๆว่า ไม่เกิน 5 ปี เลสเตอร์จะเป็นได้แค่ทีมลุ้นรอดตกชั้น แค่นั้น นอกจากว่าระหว่างนี้ จะฟลุ้คมี นักเตะแบกทีมได้ขึ้นมาใหม่อีก

ดีครับคิดแบบนี้ไม่กดดันตัวเอง

ผมว่าเค้าทำเลสเตอร์ดูดีออกนา

นัดล่าสุดที่แพ้เอฟเวอตัน ก็แพ้เพราะเหลือสิบตัว แถมลูกที่แพ้ก็ไม่ได้พลาดอะไร กิลฟี่ยิงดีมากต้องยอม

ลองมองกลับ

1. เลสเตอร์ มีสนามฟุตบอล จุคนได้ 30000 กว่าคน จะยักษ์ใหญ่ต้องปรับสนาม
2. ถ้าบ้าคลั่งเลือดขึ้นหน้า เคยเห็นลีดส์ไหม กว่าจะได้ลืมตาอ้าปาก ใช้เวลา
3. จบนะ คนมีเงินระดับนั้น เค้าน่าจะมีมันสมองมากกว่า... อย่าไปคิดแทนเค้า

คิดอย่างคุณไม่เผื่อแบบเป็นลีดส์ หรือ PQR หรือ ปอร์ทสมัธ เลย บทเรียนมาตั้งเยอะ

กว่าจะขึ้นทีมชั้นนำได้ต้องใช้เวลามาก (แนวทางประมาณสเปอร์ นี่ขนาดทีมรวยแล้วนะ ยังต้องค่อย ๆ สร้างจนเล่น ชปล ได้)

ปีที่ได้แชมป์มันโอเวอร์จริง ๆ ไม่มีใครเจ็บยิง เฉือนตลอด ได้ตอนท้ายเกมส์ โอกาสแทบจะหนึ่งในร้อยที่จะเกิดขึ้นอีก

เจ้าของทีมทำได้ขนาดนี้แล้วควรชื่นชมนะ ไม่ใช่ไปตำหนิเขา

อันอื่นเฉยๆนะ เพราะแต่ละคนล้วนมีความคิดของตัวเอง แต่มาเจอประโยคว่า

"3. จบนะ คนมีเงินระดับนั้น เค้าน่าจะมีมันสมองมากกว่า... อย่าไปคิดแทนเค้า "

คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหนถึงมาพูดจาหมาๆแบบนี้

ผมวิจารณ์อย่างสุภาพ เพราะเป็นแฟนบอล หรือ ดูบอลได้อย่างเดียวไม่สิทธิ์วิจารณ์อะไร แล้วผมไม่ได้บอกเลยเขาคิดผิดหรือคิดถูก หรือโง่

แล้วตรรกะ "คนมีเงินระดับนั้น เค้าน่าจะมีมันสมองมากกว่า..."
พูดแบบนี้แปลว่าชีวิตไม่เคยมีปัญญาได้ไปสัมผัสกับคนมีเงินขนาดนั้นแน่นอน...
การจะมีเงิน การจะประสบความสำเร็จ มันไม่ได้มาจากมันสมองอย่างเดียวครับ



อย่าใช้คำพูดหมาๆ พูดจาหาเรื่องแบบนี้อีกนะครับ เหมือนคนพ่อแม่ไม่เคยสั่งสอน

ไม่พอใจ บอกกัันได้ครับ อยู่ กทม สะดวกมาก