10 เรื่องต้องจับตาลีกใหญ่ยุโรปหลังเกมทีมชาติ
กลับเข้าสู่รูปรอยเดิมอีกครั้ง เพราะหลังจากเบรกทีมชาติไป 1 สัปดาห์ เกมลีกใหญ่ของยุโรปก็กลับมาทวงความสนใจจากแฟนบอลอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดย มีโปรแกรมบิ๊กแมตช์ให้จับตามองมากมาย ทั้งอังกฤษ,อิตาลี ที่มีซูเปอร์บิ๊กแมตช์ ขณะเดียวกัน ทางสเปน และ เยอรมนี ก็น่าติดตามไม่แพ้กัน
#พรีเมียร์ลีก
1.เริ่มต้นที่บิ๊กแมตช์ของเวทีฟุตบอลเมืองผู้ดีที่คู่แรกวันเสาร์ เวลา 18.30 น. เชลซีจะได้เปิดบ้านสแตมฟอร์ด บริดจ์ ดวลกับ แมนฯยูไนเต็ด ของโจเซ่ มูรินโญ่ เกมนี้ประเด็นที่ต้องจับตา คือฟอร์มของผีแดงที่แม้นัดล่าสุด จะแซงชนะนิวคาสเซิลแบบโกงนรกหนีความตายตายเกม 3-2 แต่หากเกมนี้ผีแดงมาพลาดอีกครั้ง สถานการณ์ของทีมอาจจะกดดันเหมือนเดิม
สำหรับสถิติการเจอกันของคู่นี้ในสแตมฟอร์ด บริดจ์นับเฉพาะเกมลีก ...เชลซีดูดีมีชาติตระกูลกว่า เพราะ แพ้แมนฯยูไนเต็ด แค่ 1 เกม จาก 16 เกมหลังสุด , นอกจากนี้ 8 นัดล่าสุดที่เจอกันในทุกรายการ ณ เดอะบริดจ์ เชลซี สามารถส่งผีแดงลงหลุมได้ถึง 7 เกม ,ส่วนเรื่องตัวผู้เล่น เชลซีสมบูรณ์กว่ามาก ขณะที่แมนฯยูไนเต็ด ต้องลุ้นให้นักเตะอย่าง มารูยาน เฟลไลนี่,อันแดร์ เอร์เรร่า ,เนมานย่า มาติช ,ลุค ชอว์ , อเล็กซิส ซานเชส , เจสซี่ ลินการ์ด และ มาร์กอส โรโฮ ฟิตทัน
2. ด้านจ่าฝูงลีกอังกฤษอย่าง แมนฯซิตี้ มีคิวเปิดบ้านพบเบิร์นลี่ย์ อันดับ 12 โดยแมนฯซิตี้ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีสถิติสุดหรูเมื่อเล่นเกมเหย้าในลีก เพราะชนะ 20 จาก 22 เกมหลังสุด นอกจากนี้การเจอกันของแมนฯซิตี้ - เบิร์นลี่ย์ ใน 3 เกมหลังสุดในทุกรายการ ที่เตะ ณ เอติฮัด สเตเดี้ยม ฝ่ายเรือใบสีฟ้าเป็นฝ่ายเก็บชัยได้แบบเรียบวุธ
แต่แมนฯซิตี้ ก็มีข่าวร้ายอยู่บ้างที่ ดานิโล่ แบ็กขวาที่เจ็บไปนาน และเพิ่งจะกลับมาเรียกความฟิตได้ แต่เขาก็มาซวยซ้ำในเกมทีมชาติบราซิล เขาเกิดมีอาการบาดเจ็บซ้ำอีกแล้ว
3. ด้าน ลิเวอร์พูล อันดับ 3 ของตาราง จะไปเยือนฮัดเดอร์สฟิลด์ ในคู่สุดท้ายของเกมวันเสาร์ โดยเยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องปวดหัวกับปัญหานักเตะบาดเจ็บผลพวงจากเกมทีมชาติ อาทิ เวอร์จิล ฟาน ไดค์,โมฮาเหม็ด ซาลาห์,ซาดิโอ มาเน่ และนาบี เกอิต้า รวมถึงเจมส์ มิลเนอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บมาอยู่ก่อนแล้วด้วย , แต่แม้หงส์แดงจะมีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่น แต่สถิติเก่าเวลาเจอฮัดเดอร์ฟิลด์ยังดูดี เพราะเก็บชัยได้ 3 นัดรวดที่เจอกันหลังสุด , ขณะที่ เจ้าถิ่นเองก็เป็นทีมจอม "ปืนฝืด" เพราะยิงประตูไม่ได้ในบ้านตัวเอง 6 เกมแล้ว
4. ขณะที่สเปอร์สจะทำศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ด้วยการบุกไปเยือนเวสต์แฮม โดยหากนับรวมจากท้ายฤดูกาลที่แล้ว สเปอร์สเก็บชัยในลีกมาได้ 8 จาก 10 เกมหลังสุด ขณะที่ขุนค้อนของมานูเอล เปเยกรินี่ ยังหาความคงเส้นคงวาไม่ได้เลย แพ้-ชนะ-เสมอ สลับกันตลอดในช่วงหลัง
5. ปิดท้ายลีกอังกฤษที่อาร์เซน่อล ทีมฟอร์มแรงเกินห้ามใจ จะเตะมันเดย์ไนต์ เปิดบ้านเจอเลสเตอร์ ซึ่งจิ้งจอกน้ำเงินจะขาดกัปตันทีม เวสต์ มอร์แกน ที่ติดโทษแบน , ขณะที่ลูกทีมของอูไน เอเมรี่ก็ฟอร์มดีทะลุปรอทจริงๆ เพราะเก็บชัยในลีกมา 6 นัดซ้อนๆแล้ว ตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ขาดปีเตอร์ เช็ก ด้านแบรนด์ เลโน่ ก็ทำหน้าที่ป้องกันประตูได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง และ อเล็กซานเดร ลากาแซตต์ ก็ประสานงานเกมรุกกันไหลลื่น ซัดกันไปแล้วคนละ 4 ประตูในลีก
#กัลโช่ เซเรีย อา
6. บิ๊กแมตช์ เป็นเกมมิลาน ดาร์บี้แมตช์ ซึ่งการันตีสมรภูมินี้จะลุกเป็นไฟ เมื่ออินเตอร์ มิลานจะได้สิทธิ์เป็นเจ้าบ้านดวลกับเอซี มิลาน ในคู่ดึกคืนวันอาทิตย์ เวลา 01.30 น. ก่อนแข่ง งูใหญ่ อินเตอร์อยู่อันดับ 3 และเพิ่งเก็บชัยในลีกมา 4 นัดซ้อนๆ , แต่ขณะเดียว เอซี มิลานก็ไม่แพ้ที่จูเซปเป้ เมียซซ่า มา 6 นัดซ้อนๆในลีกเช่นกัน ส่วนเรื่องตัวผู้เล่นทั้ง 2 ทีมเกือบจะร้อยเปอร์เซนต์ เพราะฝั่งปิศาจแดงดำ ขาดแค่แกนหลักอย่างอิวาน สตรินิช คนเดียว
7. ด้าน ยูเวนตุส จ่าฝูง ที่เก็บชัยมารวด 8 นัด ที่มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งกำลังปรับตัวได้ดีขึ้นตามลำดับกับการเล่นในอิตาลี เพราะสังหารไปแล้ว 4 ประตู จะเปิดบ้านพบกับ เจนัว ที่ มีกองหน้าฟอร์มพุ่งที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป อย่างเคอร์ซิสตอฟ เปียเท็ค กองหน้าโปแลนด์ที่ตอนนี้นำเป็นดาวซัลโว ซัดไปแล้ว 9 ประตูในลีกแดนมักกะโรนี
#ลาลีกา
8. บาร์เซโลน่า รองจ่าฝูง จะเปิดบ้านเจอกับ เซบีย่า จ่าฝูง ในคู่ดึกของคืนวันเสาร์ ซึ่งบาร์ซ่าของเออร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ สถิติข่มกว่ามากเพราะชนะเซบีย่า 7 จาก 8 เกมหลังสุดที่เจอกันในทุกรายการ นัดนี้ขาดแค่ซามูเอล อุมติตี้ คนเดียวที่เจ็บยาว , แต่ในขณะเดียวกัน เซบีย่า ตอนนี้กำลังแรงที่สุดในลีกกระทิง เพราะเก็บชัยมา 4 นัดซ้อนๆในลีก หากเกมสัปดาห์นี้บุกปราบบาร์ซ่าได้ถึงถิ่น พวกเขาจะการันตีจ่าฝูงอีกหนึ่งสัปดาห์
9. เรอัล มาดริด ที่กำลังวิกฤตในเกมรุก เพราะยิงไม่ได้ 4 เกมติดต่อกันในทุกรายการ จะได้เปิดซานติอาโก้ เบอนาเบว พบกับ ค้างคาวน้อย เลบันเต้ ทีมอันดับ 11 โดยสถิติของคู่นี้ ราชันชุดขาวเหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะ 11 เกมหลังสุดที่คู่นี้เจอกัน ราชันไม่แพ้เลย แต่สิ่งที่ทุกคนต้องตามลุ้นคือเมื่อไรแนวรุกเรอัล มาดริดจะหายฝืดเสียที
#บุนเดสลีกา
10 . ชีวิตการเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนบาเยิร์น มิวนิคของนิโก้ โควัช กำลังแขวนอยู่บนเส้นดาย เพราะตอนนี้อันดับรูดกราวลงไปอยู่ที่ 6 แล้ว โดยบาเยิร์นไม่ชนะในทุกรายการ 4 นัดติดต่อกัน และสัปดาห์นี้ต้องไปเยือนโวล์ฟสบวร์ก ของบรูโน่ ลาบบาเดีย ที่กำลังระส่ำระส่ายใกล้เคียงกันเลย เพราะไม่ชนะใครมาแล้ว 6 เกมติดต่อกัน งานนี้หากทีมใดแพ้ขึ้นมา กุนซือของทีมอาจมีสิทธิ์กระเด็นหลุดจากตำแหน่ง
ด้าน จ่าฝูง ดอร์ทมุนด์ ต้องไปเยือน สตุ๊ตการ์ท ที่เพิ่งเปลี่ยนกุนซือใหม่ มาใช้บริการของมาร์คุส ไวน์ซีเริลและเกมนี้จะเป็นเกมแรกของเขาที่คุมทีมเต็มตัว ส่วนดอร์ทมุนด์ตอนนี้มีอาวุธอันตรายของใหม่ที่ทุกทีมต้องยำเกรง นั่นคือ ปาโก้ อัลคาเซร์ กองหน้าทีมชาติสเปน ที่ซัดไปแล้ว 6 ประตู นำเป็นดาวซัลโว แถมเกมที่เสือเหลืองชนะเอาก์บวร์ก 4-3 อัลคาเซร์ยังทำแฮตทริกได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี จาดอน ซานโช่ ดาวรุ่งอังกฤษที่หลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปกำลังจ้องตาเป็นมัน
เกมเดือดคู่นี้มีให้ชมกันแบบชัดที่สุดเต็มอรรถรสในระบบ 4K ทาง “ทรู วิชั่นส์” ช่อง 400 วันเสาร์ที่ 20 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 18.30 น. นอกจากนี้ยังมีฟุตบอลลาลีกา บิ๊กแมตช์ บาร์เซโลน่า ปะทะ เซบีย่า และรถแข่งสูตรหนึ่ง ฟอร์มูลาวัน ที่กำลังบี้ลุ้นแชมป์กันอย่างสุดเดือดด้วยเช่นกัน ข้อมูลเพิ่มเติมรายละเอียดลองคลิ๊กดูนะครับ https://bit.ly/2yu6Qs6
แก้ไขล่าสุดโดย Narueta เมื่อ Sat Oct 20, 2018 11:41, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ