ซูโซ่ แข้งจอมแอสซิสต์ของเอซี มิลาน เชื่อว่าตอนนี้ต้นสังกัดกลับมาเป็นระเบียบอีกครั้ง หลังจากที่ หลี่ หย่งหง อดีตเจ้าของชาวจีนเข้ามาทำซะเละเทะ

'ปีศาจแดงดำ' อยู่ภายใต้การบริหารของซิลวิโอ้ แบร์ลุสโคนี่มากว่า 30 ปี แต่เขาได้ตัดสินใจขายหุ้นให้กับ หย่งหง ในเดือนเมษายน ปี 2017 ซึ่งเงินส่วนใหญ่เป็นการกู้ยืมมาจาก เอลเลียต เมเนจเมนต์ กองทุนเฮดจ์ฟันด์ของสหรัฐ

เมื่อ หย่งหง ไม่สามารถจ่ายเงินค่าดอกเบี้ยได้ทำให้ มิลาน ตกอยู่ภายใต้ความควบคุมของเอลเลียต

"ทุกอย่างสงบลงหลังจากความเละเทะที่เกิดขึ้นโดยการเทคโอเวอร์ของชาวจีน" ซูโซ่กล่าวกับ Marca

"ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปด้วยฝีมือของผู้บริหารชาวอเมริกัน พวกเขาได้นำตำนานของทีมอย่างเลโอนาร์โด้ และ เปาโล มัลดินี่กลับมา

"คนพวกนี้คือคนที่รู้เรื่องฟุตบอล และรู้เรื่องราวของเอซี มิลาน"

ลี หย่งหงมันพลาดตรงที่ยังใว้ใจมอนเตลล่านั่นแหละเพราะถ้าตัดไฟแต่ต้นลมตอนนั้นแล้วจับพลัดจับผลูเข้าเป้าธุรกิจที่วางใว้ขึ้นมา ลี หย่งหงก็ Win สโมสรก็ Win แต่ดันเทงบลงทุนนักบอลอย่างเดียวไม่สนหัวเรือเลยว่าจะทำได้ไหมทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้มีเวลาหรือ Buffer มากพอ อย่างน้อยการลงทุนกับโค๊ชที่มีชื่อไปเลยยังทำให้มีโอกาสที่โปรเจคของจีนจะเข้าป้ายมากกว่าซะอีก

ผู้บริหารทั้งทีมก็เหมือนไม่เก่งพอที่จะรันสโมสรให้กลับมาได้ แต่เหมือนไปเน้นเรื่องธุรกิจเต็มๆมากกว่า

แต่ก็ขอบคุณสำหรับงบ 200 กว่าล้านล่ะนะ
แล้วก็ขอบคุณที่เลือกไปกู้ Elliot ไม่งั้นถ้าไปกู้ บ.อื่นมิลานจะเป็นยังไงก็ไม่รู้

แต่ถ้ามองแบบหนังหักมุม กลุ่มทุนจีนคือนอมินีของใครซักคนที่วางเกมเอาใว้แบบนี้ นี่น่าจะดูหนังเยอะไปหน่อย 55

ต้องขอบคุณเขาสิ 200 ล้าน ถ้าหลีมันไม่บ้าจี้ทุ่มคงไม่มีทีมอย่างวันนี้ (ขอบคุณที่ยืมเจ้าหนี้ดีๆแบบเอลเลียตด้วย ใจนี่อยากให้เอลเลียตทำมิลานยาวไปเลย)

ไม่รู้ผมคิดเล็กคิดน้อยไปรึป่าว แต่ซูโซ่ควรให้สัมภาษณ์แบบกล่าวเป็นตัวบุคคลหรือนิติบุคคลไปดีกว่า

ดีกว่าเอาสัญชาติมาพูด แฟนมิลานในจีนยิ่งเยอะอยู่ จะเป็นผลเสียทั้งตัวสโมสรและตัวซูโซ่เอง

ไม่ได้ครับ Suso มีสิทธิโดนฟ้องยับเลย สิ่งที่ทำๆได้คือเลี่ยงการระบุชื่อแต่ก็นั่นล่ะจะมีประเด็นอื่นเข้ามาแทน