แกเร็ธ เซาธ์เกท กุนซือทีมชาติ อังกฤษ เปิดเผยสาเหตุที่เปลี่ยนมาใช้ระบบกองหลัง 4 คนรวมถึงชื่นชมดูโอดาวรุ่ง เจดอน ซานโช ตัวรุก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เบ็น ชิลล์เวลล์ แบ็คซ้าย เลสเตอร์ ซิตี้

เทรนเนอร์วัย 48 ปีปรับหมากจาก 3-5-2 ที่ใช้มานานมาเป็น 4-3-3 บุกเสมอ โครเอเชีย รองแชมป์โลกไปแบบจืดชืด 0-0 ในศึกเนชั่นส์ ลีกเมื่อคืนวันศุกร์

หลังจบเกม เซาธ์เกท ให้สัมภาษณ์กับรายการวิทยุไฟฟ์ ไลฟ์ของบีบีซี "มันจะน่ากังวลกว่าถ้าเราไม่มีโอกาส"

"เราโชว์ความพยายามและเล่นอย่างสร้างสรรค์ เราต้องหาจังหวะแบบนั้นให้ได้เรื่อยๆ"

"ช่วงเดือนกันยายนเราอยากรักษาความต่อเนื่องไว้แต่มาวันนี้เรารู้สึกว่าระบบนี้แหละเหมาะสุดสำหรับเกมนี้"

"นักเตะทำได้ดี เราบีบกลางพวกเขาได้แน่นขึ้นและดันขึ้นไปได้สูงกว่าเดิม"

"ผมว่าเราไม่ควรตายตัวและเล่นอยู่แบบเดียว ช่วงซัมเมอร์เรามีระบบที่ทำให้นักเตะสู้ในเกมทีมชาติได้แต่ตอนนี้พวกเขาเก๋าขึ้นแล้ว"

"แล้วเมื่อดูจากดาวรุ่งที่กำลังก้าวขึ้นมาและตำแหน่งของพวกเขานั้นการใช้ปีกก็น่าจะเหมาะกับเราเช่นกัน"

นัดนี้คือการออกสตาร์ทตัวจริงให้ อังกฤษ ชุดใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของ ชิลล์เวลล์ ส่วน ซานโช ได้เดบิวต์ช่วงท้ายเกมโดยทั้งคู่ต่างเล่นได้เข้าตา

เซาธ์เกท กล่าวอีกว่า "ไม่ต้องลังเลเลย เราเชื่อว่าเขา(ซานโช)เปลี่ยนเกมได้ เขาอันตรายพอได้บอล"

"เบ็น ชิลเวลล์ก็ยอดเยี่ยม เขาเล่นกับบอลได้ดีและเล่นเกมรับอย่างอดทน เขาควรดีใจกับตัวเองได้มากเลยล่ะ"

"เราเจอปัญหานักเตะหลายคนเจ็บซ้ำแต่ก็มีพวกที่ตอนนี้จะได้โอกาสลงไปเล่น"

เซาท์เกทได้ศึกษาแผนเป๊บมาอย่างแท้จริง
กวาดิโอล่า ตอนมาแมนซิ ใหม่ๆ ติดลูกประมาท เล่นตามแผนที่ครองโลกมานาน คือ 4-3-3 แต่เจอความเคี่ยว ลูกหนัก การเล่นติดต่อกัน ทำให้นักเตะกรอบ เจ็บ สภาพไม่เอื้ออำนวย หลังรั่ว เสียประตูง่าย จึงเกิดตกผลึก เข้าใจ แล้วปรับทีมใหม่
เล่น 3-5-2 ในช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว พอเมื่อทีมปรับเกมรับได้ นักเตะมีความเข้าใจมากขึ้น จึงปรับเปลี่ยนมาเล่น แผนเดิม

เซาท์เกท เช่นเดียวกัน ก่อนไปบอลโลก และบอลโลก เล่น 3-5-2 เพราะสภาพทีมไม่เอื้ออำนวย แต่ตอนนี้ เกมรับทำหน้าที่ได้ดี และมีตัวรุกดาวรุ่งฟอร์มแรงมากขึ้น จึงกล้าเปลี่ยนมาเป็น 4-3-3

ยอดโค้ช คือการสร้างความยืดหยุ่นให้กับทีม และรุ้จักใช้ทรัพยากร กล้าเปลี่ยน กล้าลองของใหม่ๆ

ใช่เลยครัย