ยกฟ้อง คิง เพาเวอร์ คดี ทอท. เอื้อประโยชน์สัมปทานดิวตี้ฟรี ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ จะอุทธรณ์



ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพิพากษาวันที่ 18 ก.ย. ยกฟ้องคดีที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ กล่าวหาว่า ผู้บริหารของบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เอื้อประโยชน์ให้คิง เพาเวอร์จ่ายค่าตอบแทนไม่เป็นไปตามสัญญา

ภายหลังศาลมีคำพิพากษาดังกล่าว นายชาญชัย อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์บอกกับบีบีซีไทยว่า ศาลให้เหตุผลว่า "เขาไม่มีอำนาจฟ้อง" และไม่ใช่ผู้รับผลกระทบจากเหตุการณ์และจึงไม่สามารถที่จะทำการฟ้องคดีนี้ได้

"คำพิพากษายกฟ้องวันนี้ มาจากศาลวินิจฉัยว่าผมไม่มีอำนาจฟ้อง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของจำเลย ซึ่งศาลได้กล่าวถึงในการอ่านคำพิพากษาวันนี้" เขากล่าว

นายชาญชัย มีเวลาในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 30 วัน ซึ่งเขาบอกว่าหากได้รับเอกสารคำพิพากษาแล้ว จะดำเนินการอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ และดำเนินการไปจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน เพื่อเป็นบรรทัดฐานของสังคม

ในขณะเดียวกัน นายชาญชัยเตรียมเข้ายื่นเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ทอท. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล

บีบีซีไทยพยายามสัมภาษณ์ฝ่ายประชาสัมพันธ์คิง เพาเวอร์ เพื่อสอบถามความเห็นและปฏิกิริยาต่อเรื่องดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

อะไรคือที่มาของคดีนี้

คดีนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ นายชาญชัย เชื่อว่า คิง เพาเวอร์ ซึ่งได้รับอนุญาตให้เปิดร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินตั้งแต่ปี 2549 จ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐบาลไม่ตรงตามสัญญาร้อยละ 15 ของรายได้ โดยจ่ายเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น

โดยปีที่แล้ว นายชาญชัย ซึ่งเป็นอดีตรองประธานอนุกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 18 คน คดีร่วมกันทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐกว่า 1.429 หมื่นล้านบาท

โดยบริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด, บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท คิง เพาเวอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด คือ 3 ใน 18 จำเลยที่นายชาญชัยกล่าวหา

อย่างไรก็ตาม ทั้ง ทอท. และคิง เพาเวอร์ต่างก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวมาโดยตลอด

ภายหลังศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ตัดสินใจรับสำนวนคำฟ้องเมื่อ 13 พ.ย. 2560 ในคดีหมายเลขดำที่ อท. 352/2560 และกลายเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกเนื่องจาก นายวิชัย ศรีวัฒนาประภา เจ้าของธุรกิจคิง เพาเวอร์ เป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ชื่อดังของอังกฤษ

สำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยครั้งที่ท้าทายกับมหาเศรษฐีชั้นนำที่มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นทางธุรกิจ

https://www.bbc.com/thai/thailand-45560944

คิงเพาเวอร์นี่มันคิงเพาเวอร์จริงๆ

พลังของท่านวิชัย เยี่ยมจริงๆ

คำร้องของประชาชนไม่มีน้ำหนักเพราะไม่ใช่ผู้เสียผลประโยชน์

ถึงว่าเอาตังไหนไปซื้อจิ้งจอก

ตามรูปเลยครับ

วิเคราะห์ได้โคตรตรงเลยครับ

แต่ก็ยังมีคนใช้บริการเขา
เขาไม่มาแคร์เราหรอก
พูดไปก็เศร้า
ถือว่าเช่าเขาอยู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน

ยุคนี้ วินิจฉัย แบบนี้ก็แย่สิครับ ประชาชน ความมีสิทธิร้องเรียน เกี้ยวกับลประโยชน์ของชาติ ไม่ว่าคือกิจการไหน ฟังแล้วอยากให้มีการเลือกตั้งไวๆๆ

งั้นใครมีสิทธิฟ้องได้ล่ะ แล้วหน่วยงานที่มีสิทธิฟ้องทำไมเค้าไม่ฟ้อง

หาเกมเล่นดีกว่าครับ

ต้องไปยื่นเรื่องที่ ปปช ครับ แล้วให้ ปปช ฟ้อง แต่ก็นะ...

King Power

Power ของ King