นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2009
ตอบ: 1480
ที่อยู่: Old Trafford_D201
โพสเมื่อ: Mon Aug 20, 2018 14:46
[RE: สารคดี All or Nothing Manchester City น่าดูมาก]
นั่งดูอยู่เหมือนกันครับ คือคนทำก็ปูพื้นได้ดีมากในแต่ละตอน แล้วเชื่อมโยงกันหมด ทั้งๆที่เกือบทั้งหมดนี่เป็นฟุตเทจทั้งนั้น และมีสัมภาษณ์เพิ่มภายหลังถึงผู้เกี่ยวข้องในฟุตเทจ...ต้องชื่นชมนักเตะและทีมงานด้วย ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้กล้องตลอดทั้งปี ...สารคดี ALL or Nothing เห็นใน Amazon ทำแนวนี้มา 2 กีฬาแล้วคือทีมรักบี้ออลแบล็ค นิวซีแลนด์ กับทีมอเมริกันฟุบอล NFL 3 ซีซั่น...... คิดว่านี่คงเป็นซีซั่นที่หนึ่ง ไม่แน่ลิเวอร์พูลหรือแมนยูอาจจะสนใจโปรเจคนี้ในซีซั่นต่อ ๆ ไปก็ได้
เราจะเห็นอะไรบ้างในสารคดี
- ทั้งนักเตะและสต๊าฟโค้ชและทีมงานทุกคนนี่คือบรรยากาศแบบครอบครัวจริง ๆ คือทุกคนดีใจเสียใจไปด้วยกันทั้งตัวจริง ตัวสำรองและทีมงาน
- การทำงานเป็นทีมของทุกคน ทุกฝ่ายมีหน้าที่สำคัญหมด กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
- ชีวิต แนวคิด ของนักเตะแต่ละคน นอกสนาม (ชอบแนวคิดบราโว่ คือ แม้จะเป็นสำรอง แต่เขาก็อยู่เพื่อใช้ประสบการณ์ช่วยเหลือเอเดอสันที่ยังหนุ่ม และเอเดอสันก็เคารพบราโว่มากๆ กับ กอมปานี ที่ทุกคนต่างบอกว่าคือกัปตันที่แท้จริง เบอนาโด้บอกว่า กอมคือคนที่จะเป็นประธานาธิดีได้ สุนทรพจน์เก่งมากๆ และชอบหลังตกรอบเอฟเอคัพ คือทุกคนผิดหวัง แต่กัปตันพาลูกทีมไปยิงเพ้นบอลคลายเครียดซะงั้น)
- การประชุม การทำงานของฝ่ายบริหารของสโมสรในตลาดซื้อขาย (ทั้งเฟอราน โซเลียโน่ ซิกี้ เบกิริสไตร์ และ คาดุล อามูบารัก) เราได้เห็นภารกิจการบินไปซื้อลาปอร์ ค ที่คิดว่ามันอินไซด์มากๆ แต่ในสารคดีก็มีให้ดู
- ในทุกตอนนอกจากเรื่องนอกสนามที่จะเกี่ยวกับนักเตะแต่ละคนแล้ว สารคดีก็จะกลับมาที่ส่วนการแข่งขัน(ซึ่งเชื่อมโยงดีกับนักเตะนั้น) ที่เราจะเห็นบรรยากาศห้องแต่งตัวทั้งก่อน พักครึ่ง และหลังเกมส์ ซึ่งเห็นถึงความเอาจริงเอาจังของเป๊บกวาดิโอล่าในแท็คติดวิธีการเล่น ชนิดสอนแบบตัวต่อตัวเลย ในขณะเดียวกันก็มีจิตวิทยาทีึ่จะกระตุ้นลูกน้อง ให้กำลังใจ และปลอบโยนเมื่อผิดหวัง)
ปล. 1 ตอนนี้ดูมา 5 ตอนแล้ว เหลืออีก 3 ตอน มีตอนที่ 7 Welcome to the hell ที่คิดว่าคงเป็นบรรยากาศ fail แน่ เพราะเห็นคำอธิบายตอนว่าเป็นช่วงแพ้ลิเวอร์พูลตกรอบและแพ้แมนยูคาบ้าน
ปล. 2 สำหรับแฟนแมนซิตี้ ดูแล้ว บอกได้คำเดียว เราโชคดีมากที่ได้เป๊บ กวาดิโอล่า สมกับแฟนบอลอังกฤษร้องเพลงเชีียร์ว่า we got Guardiola
แก้ไขล่าสุดโดย deckster เมื่อ Mon Aug 20, 2018 15:01, ทั้งหมด 2 ครั้ง