สอบถามครับ พึ่งทำงาน อยากเก็บเงิน
นังแฟนผมมันฟังรุ่นพี่ที่ทำงานมาว่า เวลาเงินเดือนแกออก ก็จะซื้อหุ้น
ผ่านธนาคารกรุงฯ แบบซื้อเติมไปเรื่อยๆ ปันผลเดือนละ 3-4000
แบบนี้มีจริงใช่มั้ยครับ ต้องมีสักกี่หุ้น หุ้นละกี่บาทถึงจะได้ปันผลเท่านี้ ถ้าจะเล่นหุ้นเองคงไม่มีเวลาศึกษาแน่ๆ งานก็ทำ เรียนต่ออีก

ถ้าเป็นจริงก็ถือว่าน่าลงทุน ดีกว่าฝากธนาคาร ท่านผู้รู้แนะนำด้วยครับ

ถ้าปันผลทุกเดือน ไม่มีแน่นอนครับ เพราะหุ้นในตลาดหรือกองทุน ปันผลกันเป็นรายไตรมาส ครึ่งปี หรือรายปี

แต่ถ้าบอกว่าเฉลี่ยเดือนละ 3-4 พัน คือคิดว่าต่อปี 48000 มีครับ
ถ้าเงิน 48000 เกิดจากการหักภาษีแล้ว เท่ากับ ปีนั้นต้องได้ปันผล 54000 บาทก่อนหักภาษี (คิดแบบ ณ ที่จ่าย)

Set ให้ปันผลเฉลี่ย 3% ต่อปี ไม่รวมอัตราการเติบโตของราคาหุ้น(ถ้าซื้อถูกจังหวะ จะให้ผลตอบแทบเฉลี่ย 10-13% ต่อปี)

ถ้าคิดจาก 10 % ต่อปี เท่ากับว่าต้องมีเงินต้นลงทุน 540,000 บาท
ถึงจะให้"ผลตอบแทน" ตามที่ต้องการ

หมายความว่าเมื่อราคาหุ้นขึ้นไป 7%+ ปันผล 3%
ท่านจะต้องขายหุ้นออก เพื่อให้เงินเข้าบัญชี 50000 บาทหลังหักภาษี เพื่อนำมาใช้จ่าย

ถ้าท่านเลือกเฉพาะตัวที่ปันผลสูง 5-6% ต่อปี
ท่านต้องลงเงิน จำนวน 1 ล้านบาท เพื่อให้ได้ปันผล 50000 กว่าต่อปีโดยเฉลี่ย
โดยไม่ได้คำนึงถึงเงินต้นว่าจะลดหรือเพิ่มตามสภาพตลาด

ถ้าเลือกลงทุนในกองทุน จะเปรียบกับตัว BBASIC ให้แล้วกันครับ
กองนี้จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง ประมาณเดือน 3 และ 9 ของปี
ในปี 60 ปันผล ผมเฉลี่ยให้คร่าวๆ 6.5 %
เท่ากับท่านต้องลงทุน 870,000 บาทโดยประมาณ
(คิดโดยไม่รวม NAV หรือมูลค่ากองทุนต่อหน่วยที่ขึ้นหรือลงในปีนั้นๆ ถ้าหากจะขายหน่วยลงทุน)
ท่านถึงจะได้ปันผล เดือนละ 3-4 พันตามที่ต้องการ

ปันผลเดือนละ 3 ถึง 4000 12 เดือน 48000 บาท ปันผลเยอะแบบนี้ต้องซื้อหลายแสนบาทเลยครับ

การลงทุนแบบนี้เรียกว่า DCA ครับ ย่อมากจาก dollar cost average

หลักการลงทุนแบบนี้คร่าวๆคือ จะลงทุนจำนวนเงินเท่าๆเดิม ในช่วงเวลาหนึ่ง

เช่น ลงทุน 10000 บาททุกๆเดือน concept ก็คือ

สมมุติว่าช่วงหุ้นลง เงิน 10000 บาทก็จะได้จำนวนหุ้นมากขึ้น

ช่วงที่หุ้นขึ้น เงิน 10000 บาท ก็จะได้จำนวนหุ้นน้อยลง

ซึ่งการลงทุนลักษณะนี้ผมว่าเหมาะกับ มือใหม่ที่ไม่มีเวลาศึกษาหุ้น

เท่าที่อ่านดูผมไม่แน่ใจว่าเลือกหุ้นเอง หรือถ้าให้ผมแนะนำ

ลองศึกษา กองทุนหุ้นดูก่อนครับ กองทุนหุ้นจะมี ผู้จักการกองทุนเป็นคนเลือกหุ้นให้

แล้วผมก็เห็นว่ามีหลายธนาคารเหมือนกัน ที่รับทำ DCA ให้เลย

คือทุกๆเดือนเค้าจะหักเงินออกจาก บัญชี เพื่อไปลงทุนในกองทุนให้เองเลยนะครับ

เรื่องผลตอบแทนก็ high risk high return

ซึ่งก็ในระยะยาว หุ้นจะให้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากธนาคารครับ

แนะนำให้ศึกษาก่อนดีกว่าครับแต่ละคนจะชอบแบบลงทุนต่างกันไป หรือถ้าอยากเล่นจริงๆก็ลงเงินจำนวนน้อยก่อนครับ.......

เลือกกองทุนหุ้น แล้วกรอกความเสี่ยงที่ต้องการเอา

เสี่ยงน้อย ก็ได้ เสียน้อย

แต่มันจะเพื่ม กำไรเรื่อยๆ

ชอบเสี่ยงมากก็ กรอกแบบเสี่ยงมากเลย กำไรเร็ว ขาดทุนก็เร็ว ถ้าทีมไม่เก่ง

คิดว่าตัดเงินเข้ากองทุนมากกว่านะแบบนี้
แต่ปันผลปีละ 48k แบบที่บอกก็คงซื้อเยอะแหล่ะ
หุ้นส่วนมากปันผลเกิน 4% ต่อปีมีไม่เยอะ
พวกกองทุนอสังหาฯประมาณ 6% บ.หลักทรัพย์ก็ 7-8% แต่หุ้นบางตัวไม่จ่ายก็มี

สามารถทำได้ครับ แต่ต้องใช้เวลาพอสมควรและขึ้นอยู่กับหุ้นที่เราซื้อและจำนวนเงินที่เราสามารถแบ่งมาซื้อแต่ละเดือนด้วย

ถ้าจะเน้นแบบนั้นต้องเลือกหุ้นที่มีการปันผลแบบสม่ำเสมอ ค่อยๆ ทยอยเก็บเรื่อยๆ

และถ้าจะเล่นแบบนี้สติต้องแข็งพอสมควร อย่าไปดูราคามันบ่อยๆ เพราะมือใหม่เวลาเห็นราคามันตก จะหวั่นไหวได้ง่ายมาก

และปันผลเดือนละ 3,000-4,000 เนี่ย ต้องมีพอร์ตหลักล้านครับ ถึงจะได้ปันขนาดนั้น

ถ้าปันผลทุกเดือน ไม่มีแน่นอนครับ เพราะหุ้นในตลาดหรือกองทุน ปันผลกันเป็นรายไตรมาส ครึ่งปี หรือรายปี

แต่ถ้าบอกว่าเฉลี่ยเดือนละ 3-4 พัน คือคิดว่าต่อปี 48000 มีครับ
ถ้าเงิน 48000 เกิดจากการหักภาษีแล้ว เท่ากับ ปีนั้นต้องได้ปันผล 54000 บาทก่อนหักภาษี (คิดแบบ ณ ที่จ่าย)

Set ให้ปันผลเฉลี่ย 3% ต่อปี ไม่รวมอัตราการเติบโตของราคาหุ้น(ถ้าซื้อถูกจังหวะ จะให้ผลตอบแทบเฉลี่ย 10-13% ต่อปี)

ถ้าคิดจาก 10 % ต่อปี เท่ากับว่าต้องมีเงินต้นลงทุน 540,000 บาท
ถึงจะให้"ผลตอบแทน" ตามที่ต้องการ

หมายความว่าเมื่อราคาหุ้นขึ้นไป 7%+ ปันผล 3%
ท่านจะต้องขายหุ้นออก เพื่อให้เงินเข้าบัญชี 50000 บาทหลังหักภาษี เพื่อนำมาใช้จ่าย

ถ้าท่านเลือกเฉพาะตัวที่ปันผลสูง 5-6% ต่อปี
ท่านต้องลงเงิน จำนวน 1 ล้านบาท เพื่อให้ได้ปันผล 50000 กว่าต่อปีโดยเฉลี่ย
โดยไม่ได้คำนึงถึงเงินต้นว่าจะลดหรือเพิ่มตามสภาพตลาด

ถ้าเลือกลงทุนในกองทุน จะเปรียบกับตัว BBASIC ให้แล้วกันครับ
กองนี้จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง ประมาณเดือน 3 และ 9 ของปี
ในปี 60 ปันผล ผมเฉลี่ยให้คร่าวๆ 6.5 %
เท่ากับท่านต้องลงทุน 870,000 บาทโดยประมาณ
(คิดโดยไม่รวม NAV หรือมูลค่ากองทุนต่อหน่วยที่ขึ้นหรือลงในปีนั้นๆ ถ้าหากจะขายหน่วยลงทุน)
ท่านถึงจะได้ปันผล เดือนละ 3-4 พันตามที่ต้องการ

ปัน 3000-4000 ต่อเดือน ปีนึงก็ ประมาณ 48000 พอร์ทต้องประมาณ 5 แสนกว่านะเพราะปันผลเสียภาษี และต้องในกรณ๊ที่ตลาดหุ้นได้ผลตอบแทนประมาณ 10% ต่อปีด้วยนะ จริงๆพอร์ทอาจจะหลักล้านเลย แถมยังเป็นการ DCA อีก คือต้องใช้เวลานานมากๆกว่าจะอยู่ตัวกับผลตอบแทนแบบนี้เลยอะ

ลงทุนในความรู้ก่อนครับ

ในความเป็นจริงไม่ง่ายแบบนั้น

ถ้าเลือกDCAในหุ้นที่ไม่ดี ก็มีแต่จะขาดทุน

DCA ผมฝากกับฟิลลิปอยู่ครับมีหุ้นมาให้30ตัวจบใหม่เหมือนกัน ใจแข็งพอหรือป่าวครับผมตัดเดือนละ5พัน ผมรับเงินเดือนที่13K แถมไม่มีภาระในการใช้จ่ายอะไรมากมาย ถ้าคิดจะออมแบบนี้คิดให้ดีนะครับบริหารเงินให้ดีอย่าโลภ

ถ้าไม่มีเวลาเล่นหุ้น ลองหันมาเล่นกองทุนดูก่อนก็ได้ครับ มันน้องๆหุ้นเหมือนกันนะผมว่า เล่นกองทุนมันเปรียบเสมือนมี ผจก ส่วนตัวคอยดูแลเงินเราให้ จะลงตัวไหนเขาจัดการให้หมดเลยครับ

คงออมในหุ้น มั้งครับ ซื้อหุ้นสะสมไปเรื่อย ๆ

กองทุนรวมหุ้นดีกว่าครับ ถ้าไม่มีเวลาดูแล หรือไม่ได้ประสบการณ์ด้านลงทุนมาก่อน เพราะโอกาสที่เราจะซื้อผิดตัวหรือถูกตัวแต่ผิดจังหวะสูงมาก

ปกติผมซื้อกองทุน LTF แบบมีปันผล ข้อเสียคือเวลาปันผลจะถูกหักภาษี 10% แต่สำหรับคนไม่มีเวลามาซื้อๆ ขายๆ ซื้อแล้วถือลืมไปเลยก็ไม่แย่

ปันผลรอบปีล่าสุดจากพอร์ตหุ้นปันผลที่ผมจัดการเอง (4.8%) กับกองทุน LTF ปันผล(3.3%) ก็ต่างกันไม่มาก กองทุนปันน้อยกว่าก็จริงแต่ชดเชยด้วยลดหย่อนภาษี กลายเป็นดีกว่าดูแลเองซะอีก

สำหรับ LTF มันจะนำไปลดหย่อนได้ ไม่เกิน 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 500k ถือครอง 7 ปีปฏิทิน (5 ปีจริง) ผมโดนภาษี 20% หาร 5 ปีก็ตก 4% ต่อปี รวมปันผลก็ 7.3% กลายเป็นว่าหลังๆ ซื้อกองทุนให้ครบโควต้าก่อน ค่อยเอามาซื้อหุ้นกับ btc