กลยุทธ 2 วิธีนี้ต่างกันยังไงบ้างครับ ทีมไหนเด่นๆทึ่เป็นแม่แบบการเล่นสองแบบนี้และปัจจุบันทีมไหนกลยุทธ 2 วิธีนี้บ้างครับที่เด่นๆ

Direct Football คือรูปแบบการครองบอลให้น้อยจังหวะ เน้นทำยังไงก็ได้ให้บอลไปถึงกองหน้าให้เร็วที่สุด โยนยาวก็ใช่ ได้บอลแล้วแทงทะลุช่องก็ใช่ โต้กลับเร็วก็ใช่ ใช้จังหวะให้น้อย แต่เน้นทำยังไงก็ได้ให้สร้างโอกาสจบสกอร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเป็น Basketball ก็เรียกว่า Run & Gun เอาจริงๆ ผมว่า Liverpool ของ Klopp บางเกมที่บุกกระหน่ำใส่ข้างเดียวก็ถือว่าเป็น Direct Football ได้อยู่นะ


ส่วน Total Football นี่อธิบายยังไงดี มันคือระบบที่ทุกคนสามารถทดแทนตำแหน่งของเพื่อนที่เล่นตำแหน่งใกล้เคียงกับตำแหน่งของตัวเองในขณะที่เล่นอยู่ในสนามได้ (แต่คนส่วนใหญ่จะมองว่ามันต้องวนกันทั้งสนาม ผมว่าไม่ใช่ แบบนั้นมันเวอร์เกิน ถ้าเป็น Futsal ว่าไปอย่าง)

เช่น
- กองหน้าสามารถขยับไปเล่น AML/AMR/MC/DMC/AMC ได้
- ปีกซ้ายสามารถขยับไปเล่น ST/MC/AMC/WBL ได้
- เซ็นเตอร์สามารถขยับไปเล่น WBL/WBR/DMC/MC ได้

อะไรทำนองนั้น แบบว่าถ้าเพื่อนเสียตำแหน่ง ก็มีอีกคนไปแทนตำแหน่งนั้นทันที หรือบางทีเพื่อนโยกไปฝั่งซ้าย คนที่เหลือก็วนมาแทนตำแหน่งที่ขาดไปอะไรทำนองนั้น ปัจจุบันไม่มีทีมแบบเป็นทางการที่เล่นแบบนี้บนโลก แต่ถ้าเล่นบอล 7 คน บอล 9 คน กับเพื่อน พี่ น้อง ตามสนามหญ้าเทียม เจอบ่อยๆ

total football สมัยนี้หาไม่ได้แล้วครับ มันอุดมคติเกินไป นักเตะต้อง all rounder ทุกคน

ไดเรคฟุตบอล ชัดสุดสำหรับผม
เลสเตอชุดเเขมป์พรีเมียร์

Direct Football คือรูปแบบการครองบอลให้น้อยจังหวะ เน้นทำยังไงก็ได้ให้บอลไปถึงกองหน้าให้เร็วที่สุด โยนยาวก็ใช่ ได้บอลแล้วแทงทะลุช่องก็ใช่ โต้กลับเร็วก็ใช่ ใช้จังหวะให้น้อย แต่เน้นทำยังไงก็ได้ให้สร้างโอกาสจบสกอร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเป็น Basketball ก็เรียกว่า Run & Gun เอาจริงๆ ผมว่า Liverpool ของ Klopp บางเกมที่บุกกระหน่ำใส่ข้างเดียวก็ถือว่าเป็น Direct Football ได้อยู่นะ


ส่วน Total Football นี่อธิบายยังไงดี มันคือระบบที่ทุกคนสามารถทดแทนตำแหน่งของเพื่อนที่เล่นตำแหน่งใกล้เคียงกับตำแหน่งของตัวเองในขณะที่เล่นอยู่ในสนามได้ (แต่คนส่วนใหญ่จะมองว่ามันต้องวนกันทั้งสนาม ผมว่าไม่ใช่ แบบนั้นมันเวอร์เกิน ถ้าเป็น Futsal ว่าไปอย่าง)

เช่น
- กองหน้าสามารถขยับไปเล่น AML/AMR/MC/DMC/AMC ได้
- ปีกซ้ายสามารถขยับไปเล่น ST/MC/AMC/WBL ได้
- เซ็นเตอร์สามารถขยับไปเล่น WBL/WBR/DMC/MC ได้

อะไรทำนองนั้น แบบว่าถ้าเพื่อนเสียตำแหน่ง ก็มีอีกคนไปแทนตำแหน่งนั้นทันที หรือบางทีเพื่อนโยกไปฝั่งซ้าย คนที่เหลือก็วนมาแทนตำแหน่งที่ขาดไปอะไรทำนองนั้น ปัจจุบันไม่มีทีมแบบเป็นทางการที่เล่นแบบนี้บนโลก แต่ถ้าเล่นบอล 7 คน บอล 9 คน กับเพื่อน พี่ น้อง ตามสนามหญ้าเทียม เจอบ่อยๆ

Direct Football ใช้จังหวะไม่มาก ส่งบอลไปถึงประตูอีกฝ่ายได้เร็ว ง่ายๆก็โยน มีใช้ให้เห็นเยอะแยะ


Total Football มันเกี่ยวกับการยืนนตำแหน่งเปล่า แบบ แต่ละตำแหน่ง สลับทดแทนกันได้หมด ซึ่งสมัยนี้ไม่น่ามมีอะ

แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ไดเร็คฟุตบอลจะได้รับความนิยมสูงในอังกฤษและเยอรมัน จะเห็นได้ว่ามีการสาดยาวกันบ่อยครั้ง โยนแล้ววิ่ง เพื่อความเร็วในการเข้าทำ ลดการเล่นฟุ่มเฟือยออกให้หมดแล้วเน้นน้อยจังหวะที่สุด ยูไนเต็ดของSAFนี่ก็ตัวอย่างไดเร็คฟุตบอล หรือจะบาเยิร์นของไฮย์เกส

ส่วนโททั่ลฟุตบอลคงต้องย้อนไปในยุคที่ajaxครองโลกนั่นเลย ถ้าในยุคปัจจุบันโททั่ลฟุตบอลมันปรับเปลี่ยนตัวเองออกมาหลายแขนงแต่ที่ดังที่สุดก็เห็นจะเป็นแทคติครุ่นหลานอย่างติกิตาก้าหรือในชื่อที่ถูกต้อง"Juego de Posición" ภาษาอังกฤษคือ position play ซึ่งหลักๆแล้วจะตัดการเล่นลูกกลางอากาศและบอลยาวออกไปเกือบหมดเนื่องด้วยแทคติคนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้กับฟุตบอลสเปนซึ่งนักเตะสเปนตัวค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับนักเตะฮอลแลนด์ ซึ่งแทคติคนี้ได้รับความนิยมสูงในสเปน ศาสตร์แห่งการเปลี่ยนตำแหน่งยังเห็นได้บ่อยครั้งในลาลีก้า ปีกไปเล่นแบ็ค แบ็คดันไปยืนปีก เซ็นเตอร์ดันไปยืนdm หน้าถ่างไปยืนปีก อื่นๆ

จุดแตกต่างหลักๆระหว่าง2แทคติคนี้เลยคือจังหวะการเล่น Juego de Posiciónมุ้งเน้นความละเอียด ซึ่งเป็นมรดกตกทอดทางด้านปรัชญาจากแทคติคดั้งเดิมอย่างโททั่ลฟุตบอลที่่มุ่งเน้นความเหนือกว่าในทุกรูปแบบ ขณะที่ไดเร็คฟุตบอลนั้นเรียบง่ายและรวดเร็วกว่าเพราะลดความละเอียดแต่เพิ่มความไว ซึ่งถ้าไปดูเปรียบเทียบกันดีๆ ขณะที่ทีมจากอังกฤษและเยอรมันบอลจะไปไวมากชนิดend to endเลยทีเดียว(ยดเว้นซิตี้ที่ใช้Juego de Posición) แต่ทีมจากสเปนจะค่อยๆเคาะกันไป

ถ้าสนใจแทคติคติกิตาก้าหรือ Juego de Posición ผมเคยเขียนกระทู้อธิบายไว้แล้วลองอ่านดูได้ครับ

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1659665

ไดเรคฟุตบอลที่โหดที่สุดที่เคยดูมาก็

เเมนยู ยุคป๋านี่เเหละครับบอลขึ้นหน้าเร็วมาก เเถมประสิทธิภาพเต็ม100%

ส่วนโททัลที่เห็นชัดๆคือ บอลของบาซ่ายุคเป๊ป

หงส์ผมหลังๆเจเคก็เเอบไดเรคอยู่นะ

เอาจากที่ผมเคยอ่านๆเรื่องแท็คติกฟุตบอล ส่วนใหญ่เขาแบ่งแท็คติกออกเป็น 3 phase ใหญ่คือ attacking transit และ defensive

Direct Football ผมมองว่ามันจำกัดแค่ transition phase เท่านั้นแหละ ภาษาไทยคงเป็นช่วงขึ้นเกม ช่วงเปลี่ยนจากรับเป็นรุกประมาณนั้น รายละเอียดในแท็คติกด้านอื่นๆผู้จัดการทีมต้องเติมเอาเอง ทีมหลายทีมที่ขึ้นบอลแบบนี้อาจไม่มีอะไรเหมือนกันเลยในแง่อื่นๆ อย่างแมนฯยูยุคป๋า ไฮน์เก้ หรือ JK ก็ใช่ มูริญโญก็เคยหยิบมาใช้เป็นนัดๆ ดูเผินๆ 4 ทีมนี้นอกจากบางจังหวะแล้วที่เหลือแทบไม่เหมือนกันเลย ดูลึกๆก็ไม่เหมือน

ส่วน Total football เป็นปรัชญาที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในตัวเอง สมบูรณ์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงประสิทธิภาพนะ หมายถึงมันครอบคลุมทั้งเรื่องเกมรับ การขึ้นเกมและการเล่นเกมรุกในตัวอยู่แล้ว และทีมไหนก็ตามที่รับเอาปรัชญานี้มาเล่น คุณจะเห็นว่ามันจะมีอะไรคล้ายๆกันเสมอไม่ว่าจะเอามาปรับแต่งอย่างไรมันก็จะมีฟีลคล้ายๆกันอยู่ ไม่เหมือน Direct football ข้างบน

ในทางทฤษฎี 2 อย่างนี้ควรใช้ร่วมกันได้ตามโอกาส เนื่องจากมีปรัชญาหรือระบบใหญ่แค่อย่างเดียวอยู่แล้ว เช่นทีมอาจอยากเพิ่มการเล่นสวนกลับเป็นอาวุธทางเลือก และถ้าความจำผมยังดีอยู่ Total football ยุคแรกๆก็ไม่ได้ส่งกันสั้นๆแต่อย่างใดเพียงแต่การขึ้นเกมค่อนข้างช้าถ้าเทียบกับ Direct football สมัยนี้

ปีเลสเตอร์ได้แชมป์อะท่าน โคตรdirect football

และก็สเปอร์ ช่วงเคร้า เดโฟ