ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2010
ตอบ: 94
ที่อยู่: The Past/The Love/The Memoires
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 19:10
[REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)



มีเรื่องราว หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับเราอย่างไม่คาดคิด ความสูญเสียก็เช่นกัน

ปีที่แล้วพวกเขาได้จุดเทียนที่แสงที่สื่อถึงใจของเราในOne More Light
และใครเล่าจะล่วงรู้ล่วงรู้ว่าปีนี้เหลือเพียงแค่หยดน้ำตาเทียนที่ร่วงหล่นลงออกมาดั่งน้ำตาของคนที่จุดเทียนและคนที่ได้รับแสงจากเทียนในทุกๆที่เพลงของเขาไปถึง

นับจากปี1998ที่พวกเขาต้องหานักร้องนำคนใหม่เพื่อทำEPอัลบัมชิ้นแรกออกมาจริงๆจังๆ และช่วงเวลานั้นเขาก็ได้พบกับChesterเป็นครั้งแรก
เป็นเวลา20ปีพอดีที่Mikeต้องเผชิญกับสภาวะกดดันครั้งนี้อีกครั้ง

ถ้าหากชีวิตในสายดนตรีของMike Shinodaคือการทดสอบนี่คือบททดสอบครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา

แน่นอนว่าเราอาจจะจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ของตำนานที่ชือว่าLinkinparkออก
แต่เราไม่สามารถจินตนาการถึงความสูญเสียของMikeได้
ทั้งเพื่อนสาวดีเจที่คอยช่วยเหลือพวกเขาเรื่อยมา
Chris Cornellเพื่อนนักดนตรีที่เคยได้ร่วมกันงานกัน
และนักร้องคู่บุญ Chester Bennington กระบอกเสียงผู้ที่สามารถสื่อสิ่งที่Mikeต้องการจะเล่าออกมาได้ดีที่สุด

หลังจากเกิดความสูญเสียครั้งที่ใหญ่ที่สุดของLinkin Park
พวกเขาก็ได้แยกย้ายกันเพื่อใช้เวลาทำใจอยู่พักเล็กๆก่อนที่จะมารวมตัวกันในคอนเสิร์ตLinkin Park & Friends Celebrate Life in Honor of Chester Benningtonในเดือนตุลาคมหลังจากครบ100วันของการจากไป
และได้เล่น "Looking for an Answer" เพลงพิเศษที่ได้แต่งมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ก็ไม่มีข่าวคราวของLinkin Parkอีกเลยลามไปถึงเดือนธันวาคมของทุกปีที่วงจะนำเพลงพิเศษออกมามอบให้กับแฟนๆชาวLPU
และนี่ก็เป็นปีเดียวที่ไม่มีเพลงพิเศษเช่นกัน หลายคนย่อนอดที่จะหวั่นใจไม่ได้

จนกระทั่งได้ข่าวจากปากของMikeอีกครั้ง

Mike Shinodaได้ออกอัลบัมเดี่ยวในนาม Fort Minorมาแล้วในปี2005 ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นการร่วมงานกับพลพรรคนักดนตรี Hip Hopทั้งหลาย
โดยตอนนั้นเขาได้ทำหน้าที่แทบจะทั้งหมดในอัลบัม

เวลาผ่านไปกว่า13ปีในวันที่เขาได้สูญเสียสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งในชีวิต แต่Mikeเลือกที่จะนำเอาสิ่งนั้นแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานลูกใหญ่ๆลูกหนึ่ง
และพลังที่ว่านั้นมีชื่อว่า Post Traumatic

Post Traumatic หรือสภาวะหลังจากการเกิดบาดแผลทางจิตใจ คือAlbumเดี่ยวชุดแรกที่ถือเป็นบททดสอบครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของ Mike Shinoda
โดยMikeนำรวมระยะเวลาแทบจะทุกวินาทีกว่า1ปีหลังการจากไปของChesterมาสื่อถึงทุกคนด้วยตัวเอง

Mikeได้ปล่อยPost TraumaticออกมาในรูปแบบEPก่อนตั้งแต่เดือนมกรา โดย3เพลงที่ว่านี้ประกอบด้วย Place to Start,Over AgainและWatching as I Fall
มาให้ฟังกันแบบฟรีๆ โดยสามเพลงแรกเป็นอารมณ์ด้านลบที่ฟังแล้วจะรู้สึกหน่วงๆอยู่พอควร
ก่อนที่จะประกาศอัลบัมเต็มของ Post Traumaticที่จะเป็นการสรุปทั้งหมดและจุดหมายปลายทางของทั้งสามเพลงที่ปล่อยออกมา

Post Traumatic แนวดนตรีจะเป็น Hip HopและElectronicโดยไส่ความเป็นAlternative เข้ามาบ้าง
และMikeได้เลือกที่จะผลิตผลงานนี้ออกมาแบบไม่มีอะไรจะเสียนำความเศร้าความกดดันและการเติบโตผลิตออมาเปนบทเพลงออกมาถึง16เพลง
เพื่อให้กำลังใจตัวเอง เพื่อนๆและคนทั้งโลก

ในตอนแรกที่เห็นถึงจำนวนเพลงอัดแน่นที่เยอะกว่าOne More LightผลงานของLinkin Park คิดว่าอาจจะเปนเพลงบรรเลงเยอะ
แต่กลับกันเพลงในอัลบัมมีเพลงเต็มถึง15เพลงและเพลงบรรเลงอีก1เพลงเท่านั้นมากกว่าLinkin Parkทุกอัลบัม นับว่าเป็นงานหินที่สุดในการทำเพลงของ
Mike และเขาได้ปล่อยเพลงเรื่อยๆรวมถึง8เพลงก่อนที่วันวางอัลบัมเต็มจะออกเรียกได้ว่าใจเด็ดจริงๆ

การทำงานในอัลบัมเหมือนกับThe Rising Tiedที่เป็นอัลบัมของ Fort Minor ตรงที่Mikeยังทำหน้าที่ทุกอย่างในอัลบัมเหมือนเดิมทั้งร้องนำ,เล่นดนตรีแทบจะทั้งหมดในอัลบัม,ออกแบบงานArtworkด้วยตัวเอง และรวมไปถึงProducedทุกเพลงในอัลบัมด้วยตัวเองเช่นเคย

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดระหว่าง Post TraumaticกับThe Rising Tiedคือการที่Mikeแสดงความกล้าออกมีอีกครั้งด้วยการร้องคลีนด้วยตัวเอง
ต่างจากที่เคยใช้บริการแขกรับเชิญ ซึ่งMikeก็ทำได้ดีออกมาเกินคาด

Linkin Parkไม่เคยปล่อยให้ใครต้องรู้สึกโดดเดี่ยว และแน่นอนเมื่อMikeก็ไม่ได้เผชิญกับอุปสรรคนี้เพียงลำพังPost Traumaticจึงมีเพื่อนๆในวงการ
เข้ามาเป็นแขกรับเชิญในอัลบัมได้แก่ Blackbear,K.Flay,Chino Moreno,Machine Gun KellyและGrandson รวมไปถึง
Rob Bourdon และBrad DelsonสมาชิกของLinkin Parkที่เข้ามาช่วยในเบื้องหลัง
อัลบัมนี้จึงไม่ได้มีเพียงความเศร้าและโดดเดี่ยวเพียงอย่างเดียว
ยังคงมีความอบอุ่นและมิตรภาพเข้ามาด้วย

เราได้บทเรียนที่ยิ่งใหญ่มาหลังจากการสูญเสีย
และหากครั้งนั้นยังจำได้ ณช่วงเวลาที่เราไม่มีใคร
บทเพลงของพวกเขาช่วยมอบพลังและกำลังใจให้เราผ่านช่วงเวลาร้ายๆเหล่านั้นมาได้หลายต่อหลายครั้งแล้ว

พวกเขามอบพลังการเติบโตมาให้เราแล้ว ครั้งนี้ถึงคราวที่เราต้องมอบพลังเป็นแรกผลักดันให้พวกเขาได้ก้าวต่อไป

เชื่อเหลือเกินว่าเราจะผ่านช่วงเวลาร้ายๆแบบนี้ไปด้วยกัน
แก้ไขล่าสุดโดย nuvision เมื่อ Mon Jul 16, 2018 19:12, ทั้งหมด 3 ครั้ง
9
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ


Sleeping With Sirens - Let Love Bleed Red
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2010
ตอบ: 94
ที่อยู่: The Past/The Love/The Memoires
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 19:12
[RE: [REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)]
Track By Track

1.Place To Start
การไม่รู้ที่จะก้าวไปต่อ ถือเป็นสภาวะสับสนที่ใครๆก็ไม่อยากพบอยากเจอ
เพลงแรกเป็นHip Hopหน่วงๆที่ยอมรับว่ากดดันและสับสนมากกว่า Nobody Can Save Me
และเป็นเพลงที่มีเนื้อร้องสั้นๆที่เข้าถึงแก่นของคำว่า Post Traumatic ได้ดีที่สุด

• Place To Startคือเพลงแรกที่ได้เขียนเอาไว้ในอัลบัม
• 1ในสมาชิกของ Linkin ParkRob Bourdon ได้มีบันทึกเสียงกลองเอาไว้เพลงนี้ โดยRobได้เขียนโครงสร้างของกลองเอาไว้ในช่วงที่ทำอัลบัม
One more Light
• เสียงโทรศัพท์ในเพลงนี้ที่Mikeได้ไส่เข้ามาเป็นของ Mark Fiore,Ted StrykerรวมไปถึงPhoenix สมาชิกLinkinPark
ที่ได้โทรเข้ามาแสดงความเป็นห่วงในช่วงที่สูญเสียChester
• MV Place To Startได้ถ่ายทำแบบ Cinema Verite คือการแสดงออกมาแบบธรรมชาติและไม่ได้ฝึกซ้อม โดยใช้การถ่ายทำแบบLongtakeในครั้งเดียว
โดยMikeต้องการที่จะถ่ายทอดอารมณ์ออกมาในขณะที่ฟังและเขียนเพลงนี้อยู่
• Mikeได้เล่นเพลงPlace To Start ในการแสดงสดวันแรกที่ใช้ชื่อว่า Mike Shinoda ที่ Identity LA Grand Park Los Angelesคืนที่12 พฤษภาคมที่ผ่านมาครับ

2. Over Again
การบอกลาอาจเป็น 1นาที 1ชั่วโมง หรือ1วัน เพียงแต่การบอกลาครั้งนี้อาจไม่ใช่การบอกลาเพื่อพบกันใหม่ แต่เป็นการบอกลาครั้งสุดท้ายเพื่อที่จะจากกัน
ตลอดกาลนั่นเอง

แน่นอนเรายังฟังเสียง Mike บ่นยาวๆกับ Hip Hopตามสไตล์พี่แกถนัดเช่นเคย โดยเพลงนี้จะเป็นภาคต่อหลังจาก การสับสนในตัวเองใน
Place To Start แปรเปลี่ยนเป็นความโหยหา

• เพลงนี้เขียนขึ้นมามาตั้งแต่ช่วงการเตรียมงาน Linkin Park & Friends Celebrate Life in Honor of Chester Benningtonในเดือน ตุลาคม
• แน่นอนว่าMV Over Againได้ถ่ายทำแบบ Cinema Verite เช่นกัน
• Mikeได้เล่นเพลงนี้ในการแสดงสดวันแรกที่ใช้ชื่อว่า Mike Shinoda ที่ KROQ Weenie Roastวันที่12 พฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยการแสดงสดในครั้งแรกนั้นได้นำเพลงนี้มาMashupกับPapercut อีก1Singleโด่งดังของLinkin Parkครับ

3. Watching As I Fall

Watching As I Fall คือหลังจากที่ได้สติพอที่จะทรงตัวได้จากการเมาหมัดในหลายกำปั้นและหลายสายตาที่เข้ามาทำร้ายจิตใจ
แน่นอนการทำใจที่จะยอมรับหลายอย่างที่พังทลายลงมาและมันจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปมันไม่ง่ายเลย

• Watching As I Fallเป็นเพลงเดียวใน Post Traumatic EP ที่Mikeเล่นกีตาร์
• ท่อนแรกของเพลง "Excuse me while I kiss the sky"อ้างอิงมาจากเพลง Purple Haze ของJimi Hendrix
• MV Watching As I Fall คือพาร์ทสุดท้ายของ Cinema Verite ที่Mikeได้ทดลองอะไรใหม่ๆเช่นเดียวกับPlace To StartและOver Again
• Mikeได้เล่นเพลงนี้Watching As I Fallในการแสดงสดวันแรกที่ใช้ชื่อว่า Mike Shinoda ที่ Identity LA Grand Park Los Angelesคืนที่12 พฤษภาคมครับ

4. Nothing Makes Sense Anymore

ด้วยเสียงเปียนโนและซินธิไซเซอร์คลอๆมากับการร้องคลีนเต็มๆทั้งเพลงโดยไม่มีท่อนRapแต่อย่างใด
เป็นอีกเพลงที่เป็นเพลงช้าและพูดถึงการสูญเสียเช่นเดียวกัน

โลกที่กำลังพังทลายลงไม่ใช่โลกที่โหดร้าย แต่มันคือโลกที่ไม่มีนายอยู่อีกต่อไปแล้ว

• MV Nothing Makes Sense Anymore Mikeได้ตัดต่อ ถ่ายทำและกำกับเองทั้งหมด
• Footage ในMVนี้เกี่ยวกับการเดินทางเพียงลำพัง ท่ามกลางการเผาไหม้ของภูมิประเทศใน Los Angeles
• เพลงนี้นับเป็Singleในอัลบัม Post Traumaticพร้อมกับCrossing A Lineครับ

5. About You

ที่น่าจะกล่าวถึงคนที่เคยอยู่ข้างๆที่เคยได้พบพา และต้องจากลากันเร็วเกินกว่าจะทำใจได้ทัน
แม้ว่าความลำบากในตอนนี้มันไม่เกี่ยวกับนายก็จริง แต่มันผ่านได้ยากเย็นจริงๆเมื่อนายไม่อยู่

Mike ยังพูดถึงความสูญเสียที่ผ่านมาได้ไม่นานอยู่เหมือนเดิม เป็นเรื่องยากที่จะต้องเขียนถึงคนที่จากไป
และเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าที่จะหักห้ามใจไม่เขียนถึงเพื่อนคนนั้น

ด้วยภาคดนตรีที่ยังคงเป็น Hip Hopเช่นเดิมโดยมีแขกรับเชิญคือ blackbear ที่มาช่วยร่วมร้องในท่อน บริดจ์
โดยMVสื่อถึงการเดินทางไปในที่ต่างๆโดยยังพาความทรงจำ"เกี่ยวกับนาย" ไปด้วย และใช้ภาพส่วนหนึ่งมาจากประเทศจีนที่Mikeได้แวะไปในไม่นานมานี้

• blackbearคือแขกรับเชิญคนแรกที่มาร่วมร้องในอัลบัมPost Traumatic
• นี่คือการร่วมงานกันของ Mikeและblackbearหลังจากที่เคยทำงานเบื้องหลังในเพลง Sorry For Now อัลบัม One More Light
• Mikeได้เล่นเพลงนี้ในการแสดงสดวันแรกที่ใช้ชื่อว่า Mike Shinoda ที่ KROQ Weenie Roastวันที่12 พฤษภาคมที่ผ่านมา
• MVเพลงนี้ถ่ายทำที่ประเทศจีนในช่วงที่Mikeได้มาที่จีนเดือนเมษายน โดยถ่ายทำโดยLorenzo Errico
ตัดต่อโดยAaron FarleyMikeได้กำกับMVด้วยตัวเองเช่นเคยครับ

6. Brooding

Interludeบรรเลง คั่นเพลงเดียวในอัลบัม ที่มีเสียงกีตาร์และดนตรีสังเคราะห์ต่างๆ
ประกอบรวมตัวกันเป็นความสงบเพื่อให้เรารู้ตัวและมีสติ

• เพลงนี้มีความยาวถึง2.32นาที ยาวกว่าเพลงบรรเพลงของLinkin ParkและFort Minorทั้งหมดอีกครับ

7. Promises I Can’t Keep

เป็นอีกเพลงที่มีเมโลดีสวยๆ เน้นเสียงร้องคลีนของMikeโดยไม่มีเสียงRapมาคั่นจังหวะแต่อย่างใด
หลังจากInterludeเพลงที่แล้วที่ทำปลุกจิตสำนึกขึ้นมาทำให้ตระหนักรู้ถึงลมหายใจในอดีตและชีพจรของอนาคต
เพลงนี้พูดถึงศัตรูและอุปสรรคที่เผชิญอยู่ หากแต่สิ่งที่ว่านั้นหาใช่สิ่งที่มองเห็นอยู่ตรงหน้าแต่กลับเป็นที่ตั้งอยู่ภายในจิตใจนั่นเอง

• MVเพลงนี้ได้Mark Fioreเข้ามาหน้าที่กำกับและตัดต่อ
• MVเพลงนี้ปล่อยออมาวันที่29มิถุนายนไม่นานมานี้และเป็นSingleล่าสุดของอัลบัม Post Traumatic

8. Crossing A Line

Single และ MV แรกในอัลบัมเต็ม Post Traumatic
ที่ระเบิดความกดดัน อัดอั้น จากการสูญ สัมผัสถึงอารมณ์ของMikeในช่วงกว่า1ปีที่ผ่านมาได้ดีที่สุดจริงๆ

ถ้าหากจะนับถึงเพลงที่ทำให้คิดถึงLinkin Parkมากที่สุดในอัลบัมนี้ แน่นอนว่าเป็นCrossing A Lineแน่นอน
เพลงมีการใช้เครื่องดนตรีหลากหลายชนิดมาประกอบกันรวมไปถึงริฟฟ์กีตาร์ที่เราคุ้นเคยในช่วงหลังๆของLinkin Park

ความเจ็บปวดในอดีตคือแรงผลักดันให้ก้าวข้ามสู่อนาคต
และในอนาคตเราหันกลับมามองถึงวันเหล่านั้นในอดีต เราจะภูมิใจในตัวเองที่ได้ก้าวผ่านมาได้

• ในวันที่8มีนาคมMikeได้โพสในTwitter ส่วนตัวว่าเขาอยู่ใน Los Angeles และเชิญชวนแฟนๆออกมา
พบปะพูดคุยและถ่ายMVกันที่ Tower Records และแน่นอนว่าเพียงเวลาชั่วอึดใจเดียวกันหลายคนก็ได้ออกมาต้อนรับMikeอย่างอบอุ่น
และได้ไส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีแดงเช่นเดียวกับMikeด้วย!
• Mikeได้เล่นเพลงนี้ในการแสดงสดวันแรกที่ใช้ชื่อว่า Mike Shinoda ที่ KROQ Weenie Roastวันที่12 พฤษภาคมที่ผ่านมา
• เพลงนี้นับเป็นเพลงแรกและ Singleแรกที่ปล่อยพร้อมกับNothing Makes Sense Anymore
• เพลงนี้คือเพลงที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดในอัลบัมPost Traumaticครับ

9. Hold It Together

จังหวะสนุกและผ่อนคลายช่วยปรุงรสความเศร้าในPost Traumaticออกมาให้ซอฟท์ลงมา
ในช่วงเวลาที่อึดอัดกระอักกระอ่วนใจในวันเกิดลูกๆของChester ที่ผ่านมาช่วยจุดประกายให้Mikeได้เขียนเพลงนี้
เพลงนี้พูดถึงตัวละครสองคนโดยคนหนึ่งแน่นอนคือMikeและอีกคนคือ Anna Shinodaภรรยาของเขานั่นเอง

• Hold It Togetherคือการร่วมงานกันครั้งแรกของMikeกับ Darren KingมือกลองBack Upชื่อดังที่เคยมีผลงานกับMutemath และ Twenty One Pilotsครับ

10. Ghosts

แม้ความหมายของชื่อเพลงออกจะมืดหม่นแต่บรรยากาศของเพลงกับสนุกสนาน ก็คือถ้าหากจะเข้าถึงความทรงจำได้ใกล้ชิดมากที่สุด
คือต้องกลายเป็นความทรงจำเช่นเดียวกันนั่นเอง และตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาของMike

ตอนฟังเพลงนี้นึกถึงเพลงBlackbirds Singleพิเศษที่ออกมาในปี2010และชื่อของเพลงก็ความหมายใกล้ๆเคียงกันซะด้วย

• MVคือการเปิดตัวถึงเพื่อนใหม่ของMikeทั้งสองคน BorisและMiss Oatmeaเพียงแต่เพื่อนทั้งคู่ของเขาคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ครับ
• Mikeพึ่งได้เล่นเพลงนี้ในวันเดียวกับที่วางอัลบัมPost Traumatic ที่ Amoeba Music in Hollywood Californiaครับ
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


Sleeping With Sirens - Let Love Bleed Red
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2010
ตอบ: 94
ที่อยู่: The Past/The Love/The Memoires
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 19:12
[RE: [REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)]
11. Make It Up As I Go

การล้มลงนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บแต่การพยุงตัวเองขึ้นเพื่อเดินต่อนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่า
เช่นเดียวกับ Make It Up As I Goที่บรรยายถึงสภาวะเหล่านั้น โดยมีตัวละครในครอบครัวหลายคนคอยเป็นแรงผลักดัน แต่สิ่งที่จะผลักดันให้เราก้าวไปได้
ดีที่สุดนั่นก็คือตัวเราเอง

ด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของK.Flayรวมถึงเมโลดี ที่เหมือนกับเสียงหัวใจเต้นทำให้เพลงนี้ดูมีสีสันและชีวิตชีวามากขึ้น

• Brad Delson มือกีตาร์ และมันสมองซีกซ้ายของ Linkin Park คู่หูที่Mikeเชื่อใจที่สุดได้ร่วมเขียนเค้าโครงของเพลงนี้
• K.Flayคือแขกรับเชิญหญิงเพียงคนแรกที่มาร่วมร้องในอัลบัมPost Traumatic
• Mikeเล่นเพลงนี้ในวันเดียวกับที่วางอัลบัมPost Traumatic ที่ Amoeba Music in Hollywood CaliforniaและK.Flayได้ขึ้นมาร้องด้วยครับ

12. Lift Off

มาถึงเพลงที่ตื่นเต้นที่สุดเมื่อได้เห็นรายชื่อแขกรับเชิญ

MikeและChinoเป็นเพื่อนร่วมวงการที่รู้จักกันมาเนิ่นนานโดยต่างคนก็สูญเสียคนสำคัญทั้งคู่
โดยLift Off ไม่ได้บรรยายถึงผู้ที่ยังอยู่แต่พูดถึงโลกหน้าที่ผู้ที่จากไปต้องเผชิญ
เสียงเปียนโนสวยๆปูพื้น เข้ามากับเสียงอันคุ้นเคยของChino และมีผู้ที่เล่าเรื่องอีกสองคนนั่นก็คือMikeและMGK

• เพลงนี้มีแขกรับเชิญถึงสองคนคือChino Moreno (Deftones)และMachine Gun Kelly
โดยMike ShinodaและChino Morenoเคยร่วมงานกันมาแล้วในเพลงRazors Out จากภาพยนต์เรื่องThe Raid: Redemption
• เช่นเดียวกับMachine Gun Kellyที่เกือบจะได้ร่วมทัวร์กับLinkin Parkในปี2017หากไม่เกิดเรื่องของChesterซะก่อน โดยMachine Gun Kellyได้ขึ้นไปร่วมร้องในเพลงPapercutและBleed it outในงานLinkin Park & Friends Celebrate Life in Honor of Chester Benningtonที่ผ่านมาด้วยครับ
• R.I.P Chi Cheng

13. I.O.U.

Hip Hopจ๋าที่สุด ที่อุดมไปด้วยท่อนRapเพียวๆ ทำให้นึกถึงหลายๆเพลงใน Fort Minor
Mikeนำเอาหลายสิ่งหลายอย่างมายำรวมกันเพลงนี้ โดยเป็นอีกเพลงที่เขียนเอาใจตัวเองได้เมามันส์ที่สุด

• เพลงนี้เพลงที่สองถัดจาก It's Goin' Down ที่แอบเขียนถึงHeroค่ายMarvel

14. Running From My Shadow

Running From My Shadow ต่างจาก Shadow of the dayตรงที่เงาของสนธยาที่เราได้รอคอยเพื่อเป็นร่มเงาที่จะเยียวยารักษาในการเผชิญหน้ากับวัน
กลับกลายเป็นอดีตที่เราต้องหลีกหนีและเงาที่ว่านั้นคือตัวตนที่เกิดจากความด้านลบและความผิดหวังของเราเอง

เสียงสังเคราะห์และจังหวะต่างๆในเพลงนี้นึกถึง Believe Meอีก1Singleสร้างชื่อ Fort Minor

• เพลงนี้เขียนขึ้นโดยMikeและเพื่อนๆอีก4คนได้แก่Brad Delsonที่เรารู้จักกันดี,Kevin Hissink,Ross Golan,และ Grandsonศิลปินที่มารับเชิญในเพลงนี้
• Mikeพึ่งได้เล่นเพลงนี้ในวันเดียวกับที่วางอัลบัมPost Traumatic ที่ Amoeba Music in Hollywood Californiaครับ

15. World’s On Fire

ในตอนแรกเราจะได้ยินเสียงร้องคลีนของMikeและกลองเท่านั้น ก่อนที่จะได้ยินเครื่องดนตรีอื่นๆตามๆมาๆ
เราจะสัมผัสได้ถึงความเบื่อหน่ายและเหน็ดเหนื่อยของMikeได้จากการทำงานดนตรีและสภาวะหลายอย่างที่กัดกินจิตใจ

• ผมคิดว่าเพลงนี้Mikeน่าจะแต่งขึ้นมาเพื่อขอบคุณคนที่อยู่ข้างๆเสมอนั่นคือ Anna Shinoda ภรรยาของเขานั่นเอง

16. Can’t Hear You Now

เพลงสุดท้ายในอPost Traumaticที่รู้สึกได้ชัดเลยว่าเขียนขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเพลงของLinkin Parkและมีความเป็นLinkin Parkมากที่สุดในอัลบัม
กล่าวถึงสภาวะจิตใจของสมาชิกLinkin Parkทั้ง5คนที่ต้องเผชิญกับความคิดถึงในแต่ล่ะวัน
ด้วยเค้าโครงเพลงที่เป็นการRapชูโรงเพื่อโชว์ท่อนฮุคเมโลดีสวยๆและมีท่อนบริดจ์เพื่อสรุปปิดท้ายนี่คือแพทเทิร์นที่เราคุ้นเคยจริงๆ
เพียงแต่เพลงนี้จะออกเหงาๆหน่อยตรงที่เป็นเสียงร้องของMikeเพียงลำพัง

• เครื่องดนตรีที่ใช้ในเพลงนี้ได้แก่ กีตาร์ เบสกลอง ซินธิไซเซอร์ และการร้องทั้งสองรูปแบบตามที่เราคิดถึงกันดี
• Serban Ghenea คือผู้ที่Mixเพลงนี้

เชื่อว่าตอนนี้หลายคนได้ฟังPost Traumatic แล้วด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย จนถึงตอนนี้และในอนาคตอันใกล้นี้
เราไม่รู้ว่าจะมีAlbumต่อไปไหมหรือเกิดเกิดอะไรกับLinkin Parkที่เรารักขึ้นอีก แต่ขอพึงสังวรณ์และรู้ตัวอยู่ทุกชั่วขณะ
จดจำทุกความสูญเสีย โศกเศร้า แล้วก้าวต่อไป
ดั่งที่พวกเขาได้บอกกับเราทุกคนเอาไว้

The hardest part of ending Is starting again............



แก้ไขล่าสุดโดย nuvision เมื่อ Tue Jul 17, 2018 00:46, ทั้งหมด 2 ครั้ง
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


Sleeping With Sirens - Let Love Bleed Red
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2010
ตอบ: 94
ที่อยู่: The Past/The Love/The Memoires
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 19:13
[RE: [REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)]
เปิดเพจแล้วนะครับ ยังไงติดตามผลงานเขียนของผมที่
https://www.facebook.com/neighbormusicreview/


นะครับ ขอบคุณมากแล้วเจอกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


Sleeping With Sirens - Let Love Bleed Red
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 7081
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 19:50
[RE: [REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)]
บั้มนี้น่าสนใจมาก
แก้ไขล่าสุดโดย MK24 เมื่อ Mon Jul 16, 2018 19:58, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: #BLEEDBLUE
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 2843
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 19:52
[RE: [REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)]


ช่วยแปะครับตอนแรกก็เฉยๆ เจอ track นี้ตัดสินใจตีตั๋วไปอย่างไว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Sep 2008
ตอบ: 3890
ที่อยู่: Everywhere
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 20:41
[RE: [REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)]
กลัวฟังเเล้ว อารมณ์ดาวมากๆเลยครับ

ทุกวันนี้ฟังเพลงอัลบั้มหลังๆของ LP นี่บางครั้งต้องนั่งนิ่งๆสักพักค่อยไล่หาเพลงเปลี่ยน

อินกับเชสเตอร์เเล้วก็พาลมาอินกับชีวิตตัวเองอีก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status: I Support LFC.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Sep 2013
ตอบ: 5858
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 16, 2018 20:49
[RE: [REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)]
ชอบหลายเพลงมากอัลบั้มนี้ ค่อนข้างตรงกับชีวิตผมเอง

Watching As I Fall , Promises I Can’t Keep , Hold It Together

Ghosts มวลของอัลบั้มออกมาแบบรู้เรื่อยว่าชายคนนี้แบกรับอะไรไว้บ้าง

ปล.ยังรอ Looking for an Answer ออกมาจริงๆอยู่

มิกซ์นี้ก็ดี ไมค์แกก๊อตจริงๆ


0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2010
ตอบ: 94
ที่อยู่: The Past/The Love/The Memoires
โพสเมื่อ: Tue Jul 17, 2018 00:47
[RE: [REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)]








เทสๆ โพสรูปไม่ติดเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


Sleeping With Sirens - Let Love Bleed Red
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2010
ตอบ: 94
ที่อยู่: The Past/The Love/The Memoires
โพสเมื่อ: Tue Jul 17, 2018 01:19
[RE: [REVIEW] Mike Shinoda - Post Traumatic (2018)]
https://www.picz.in.th/image/N2V9Yl
แก้ไขล่าสุดโดย nuvision เมื่อ Tue Jul 17, 2018 01:19, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


Sleeping With Sirens - Let Love Bleed Red
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel