[CFC]มาทำความรู้จักกับผจก.ทีมคนใหม่กัน
"เมื่อผู้เล่นรู้สึกสนุก เมื่อนั้นแหละพวกเขาจะเล่นดีขึ้นสองเท่า" เมาริซิโอ ซาร์รี่ ผจก.ทีมคนใหม่ของเชลซีกล่าว แล้วตัวเขาเองจะนำความสุขมาให้สแตมฟอร์ด บริดจ์ได้ไหม?
เขารักการเป็นโค้ช
ในปี 2015 เขาถูกถามว่า"รู้สึกไม่พอใจไหมที่เขาเป็นโค้ชใน Serie A ที่ได้เงินเดือนน้อยที่สุด" ซาร์รี่ตอบกลับไปว่า "โกรธหรอ คุณพูดเล่นรึเปล่า สโมสรจ่ายเงินให้ผมเพื่อให้ผมทำบางสิ่งที่ผมสามารถทำมันได้ฟรีๆหลังเลิกงานน่ะนะ ผมโชคดีมากต่างหากละ"มันไม่ใช่คำพูดที่ซาร์รี่พูดออกมาโดยไร้ความหมาย ซาร์รี่เริ่มงานโค้ชในลีคที่ต่ำกว่าในช่วงที่เขาว่างจากการเรียนเศรษฐศาตร์และทำงานธนาคาร ถูกจ้างโดย Sansovino ทีมในลีคระดับ6(น่าจะSerie Dไม่ก็E) เขาให้สัญญาว่าเขาจะออกจากการเป็นโค้ชถ้าไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ และเขาก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทำให้เขาถูกกระตุ้นให้มาทำงานด้านโค้ชเต็มตัว เขาอธิบายว่า "สุดท้ายผมก็ตัดสินใจที่จะโฟกัสกับงานโค้ช ถ้าผมต้องการที่จะบรรลุเป้าหมาย"
เขาถูกครอบงำโดยฟุตบอล
คนบ้างานอย่างซาร์รี่ถูกตั้งฉายาว่า "Mister 33" หลังจากมีข่าวว่าเขาได้เตรียมให้ลูกทีมของเขาฝึกซ้อมลูกตั้งเตะถึง 33 แบบเพื่อไว้ใช้ในขณะที่บอลตายในตอนที่เขาคุม Sansovino "แต่ในสุดท้ายเราก็ใช้แค่ 4 ไม่ก็ 5 แบบ" ซาร์รี่กล่าวอธิบายทีหลัง ซาร์รี่ยังเป็นคนที่เตรียมทีมได้อย่างพิถีพิถันอีกด้วย เขามักจะชอบศึกษาคู่ต่อสู้ในเชิงลึกเพือที่จะค้นหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้
ทีมของเขามักเล่นฟุตบอลเกมรุกที่น่าตื่นเต้น
หลังจากที่ Napoli ของเขาแพ้ให้แก่ Manchester City ไป 2-1 ใน UEFA Champions League ฤดูกาลที่แล้ว เป๊ป กวาดิโอล่าได้บอกไว้ว่า "เราได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่ดี่ที่สุดในอาชีพของผมซะแล้ว ไม่แน่ก็ดีที่สุดเลยละ" ขณะที่ทีมของเขามีเกมรับที่แข็งแกร่งอยู่เสมอ แท็คติคของซาร์รี่ได้มีการพัฒนาอยู่ตลอดจาก 4-2-3-1 ไปเป็น 4-3-1-2 ที่ Empoli(2012-15) และไหลลื่นมากขึ้นตอนเป็น 4-3-3 ที่ Napoli โดยเป็นแผนที่ผู้เล่นสามารถสับเปลี่ยนตำแหน่งกันได้อย่างอิสระโดยเฉพาะ 3 ประสานในแดนหน้า ทีม Napoli ของเขามีรูปแบบการเล่นเพรสซิ่งสูงและเน้นการต่อบอลสั้นๆ ทีมของเขาสามารถทำไปได้ถึง 80 ประตูใน Seria A ฤดูกาล 2015/2016 และทำลายสถิติสโมสรได้ในฤดูกาล 2016/2017 ที่ 94 ประตู และ 77 ประตูในฤดูกาลล่าสุด
เขาไม่เคยคว้าแชมป์สำคัญๆมาก่อน
ใน 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา โค้ชอิตาเลียนวัย 59 ปี นำ Napoli จบอันดับสอง 2 ครั้งและได้อันดับ 3 อีก 1 ครั้ง เขาสามารถพาทีมไปจบอันดับสูงๆได้แต่ไม่เคยพาทีมคว้าสคูเดตโตได้เลย
เขาเคยคุมทีมแทนคอนเต้มาแล้ว
ซาร์รี่เคยถูกเรียกให้ไปคุมทีมบ้านเกิดของเขาอย่าง Arezzo ใน Serie B ในปี 2006/07 หลังจากที่ทีมออกสตาร์ทได้อย่างย่ำแย่ภายใต้การคุมทีมของคอนเต้ ซาร์รี่มีผลลัพธ์ที่ดีอยู่บ้าง เขาสามารถพาทีมยันเสมอทีมอย่าง Juventus ยุคที่มี บุฟฟอน,เทรเซเกต้,เดลปีเอโร่ ไปได้ 2-2, ชัยชนะ 1-0 ใน Coppa Italia ตอนเจอกับ AC Milan แต่สุดท้ายก็เป็นคอนเต้ที่ถูกเรียกกลับมาคุมทีมอีกครั้งเพื่อช่วยให้ทีมหนีตกชั้น
THE TAKE-HOME QUOTES
"เป้าหมายของเราคือการเล่นแบบสวยงาม เราชอบที่จะเล่นฟุตบอลในแบบที่ดี, สนุกไปกับมันและเอนเตอร์เทน"
"ผมเข้มงวดกว่านี้ตอนเริ่มอาชีพโค้ชใหม่ๆ ในตอนนั้นผมคิดว่าแท็คติคเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ในตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันมักจะมีความเป็นเด็กอยู่ในผู้เล่นทุกคนและโค้ชต้องไม่ลืมที่จะมีส่วนสนุกไปกับเกมด้วย เพราะสุดท้ายแล้วฟุตบอลก็คือเกม เมื่อผู้เล่นรู้สึกสนุก เมื่อนั้นแหละพวกเขาจะเล่นดีขึ้นสองเท่า"
source:
https://www.uefa.com/uefaeuropaleague/news/newsid=2255656.html
---------------------------------------------------------------
อาจจะมีแปลผิดบ้างนะครับโดยเฉพาะพาร์ท TAKE-HOME QUOTES(อันนี้หัวข้อไม่รู้จะแปลเป็นไทยว่าอะไรดี โควทกลับบ้านก็ยังไงๆอยู่)ช่วงย่อหน้า2นี่ผมแปลมั่วมากๆโดยเฉพาะช่วงที่มีผู้เล่นทุกคนมีความเป็นเด็กนี่ยังไงๆไม่รู้แต่ก็นึกคำแปลไม่ออกเลยแปลมันไปยังงั้นแหละ