รอบนี้ คนที่ช่วยเหลือได้รับเครดิตมากนะ นึกถึงกันตลอดเวลา
ขนาดว่าพื้นที่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยังถูกปะทะอย่างดุเดือด เช่น คนที่พยายามไปให้เครดิตกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะต้องถูกตอบโต้ในแง่มุมใด แง่มุมหนึ่ง (แต่ในแง่ของขวัญกำลังใจก็อีกเรื่องนึงนะ)

ให้ค่าของจขกท. คงหมายถึงว่า ทำไมต้องสนใจ ทำไมต้องเป็นข่าวมากมาย
ก็เพราะคนกลุ่มนี้เขาเดือดร้อนและประสบภัย ในสถานการณ์ที่ยาก(มาก) จนต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญมากมาย ความยาก(มาก)ของเคส ยิ่งทำให้ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ทั้งในแง่ที่ว่าจะช่วยเหลืออย่างไรดี จะแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้อย่างไร

กลุ่มคนที่ประสบภัยเอง ก็มีแง่มุมให้พูดถึง พูดคุยมากมาย ไปยังไง มายังไง รู้สึกยังไง ทำอะไรยังไงกันบ้าง ติดกันเกือบ 2 อาทิตย์ 10 กว่าคน สามารถเป็นกรณีศึกษาได้


สุดท้าย การช่วยเหลือคนตกทุกข์มันเป็นเรื่องที่ผู้คนแชร์ความรู้สึกร่วมกันได้ไม่ยาก แต่สำหรับเมืองไทย ประเด็นนึงที่ยังไม่ค่อยพูดถึง ไม่ค่อยตระหนักกันเท่าไหร่ คือ เรื่องการเยียวยา

อันนี้มันเป็นเรื่องที่ฟีฟ่าเขาทำหนังสือเชิญมาครับ ถ้าคุณไม่พอใจฟีฟ่าคุณก็ลองทำหนังสือไปหาฟีฟ่าดูซิครับ

เดี๋ยวๆๆ เด็กมันโดนภัยพิบัติเล่นงานนะครับ ส่วนทีมช่วยเหลือ มันเป็นงานของเขาอยู่แล้วครับ

อีกอย่างเขาไม่ได้หวังผลตอบแทนครับ แค่เด็ก และ โคช มีชีวิตรอดออกมา ก็ดีใจและหายเหนื่อยแล้วครับ

แล้วการที่เด็กได้อะไรแบบนั้น แล้วมันแปลกตรงไหนครับ รู้จักคำว่า การเยียวยาหรือเปล่า

แล้วผมจะอธิบายคร่าวๆเพื่อจะได้สะดุ้งอะไรขึ้นมาบ้าง ว่าทำไม FIFA ถึงได้ชวนไปดูบอลโลกนัดชิง

นั้นเป็นเพราะว่า 1. ช่วงนี้กระแสบอลโลก 2. เด็กและโคชเป็นนักฟุตบอล 3. หลายๆคนในนั้นมีคนใส่ชุดทีมชาติในฟุตบอลโลก

แค่นี้ก็น่าจะตอบโจทย์ได้แล้ว ทำไม FIFA ถึงได้ชวนเด็กๆไปดูบอลโลก ฟรีๆ ย้ำว่า ฟรีๆ

ปล. ไม่ควรไปเดือดร้อนเงินของคนอื่นนะครับ FIFA เขายินดีออกเงินเองทุกอย่าง

ทำไมหลายๆ คนต้องไปให้ค่ากับเด็ก 13 คน ..

สำหรับผม มองกลุ่มคนพวกนี้เป็นผู้ประสบภัยครับท่าน ไม่ใช่เด็กซนเล่นพิเรนอะไร

คือเขาก็ไปเที่ยวกันปกตินี่ละ แล้วก็ไปในช่วงที่มันยังไปได้

แต่บังเอิญดวงโคตรซวยที่เข้าไปแล้วฝนตกหนัก ตกติดต่อกัน ตกไม่เลิก น้ำก็ท่วมทางกลับ จะกลับก็กลับไม่ได้

คิดว่าก็คงหนีกันไปเรื่อยๆ จนสุดท้าย จะไม่มีที่หนีกันอยู่แล้ว

ผ่านไป วันแล้ววันเล่า ความหิว ความหนาว ความท้อแท้ ความคิดถึง

มันเหมือนแสงที่ปลายอุโมงค์ไม่มีอีกแล้ว สำหรับพวกเด็กๆ

แต่คนที่จุดความหวังของพวกเด็กๆขึ้นมาอีกครั้งผมว่าคือโค้ชเอกผู้ไม่ยอมแพ้ แกนำพาให้เด็กๆมีใจที่สู้ และรอคอยความหวังอันริบหรี่

สุดท้ายก็เกิดเรื่องราวปาฏิหาริย์ขึ้นแบบ.. ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

นี่ยังไม่เล่าตอนขาดำน้ำกลับออกมาอีกนะต้องใช้ความกล้าหาญขนาดไหนสำหรับเด็กตัวเล็กๆพวกนี้

นี่คือตัวอย่างของความอดทน อดกลั้น ความหวัง ศรัทธา ความเชื่อ ความสามัคคี

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันมีค่ามากๆ เลยนะท่าน คิดให้ดีๆครับ

ผมไม่ได้บอกว่าเด็กไม่ควรได้รับการเยียวยา
ผมไม่ใช่คนใจดำขนาดนั้น
แต่การที่ฟีฟ่าจะให้สิทธิพิเศษเด็กไปดูฟุตบอลโลกรอบชิงเอย

แล้วไหนจะเรื่องการจะให้เด็กได้รับสิทธิพิเศษเข้าไปทดสอบฝีเท้ากับทีมเยาวชนเอย

สิทธิพิเศษพวกนี้มันควรจะเป็นของคนที่ช่วยเหลือมั้ยครับ

ลูกพี่ไม่บอก วันนั้นหวยขึ้นรถน้องครับ 113 อะ เต็มๆเลยครับ

เปลี่ยนหัวมู้ด้วย

นี้สินะ ที่เรียกว่า ไม่พูดมากเจ็บคอ นานๆมาตอบที แล้วตอบแบบมีวุฒิภาวะ สะด้วย

ลอย 2000 เก็บตังค์สิ้นเดือน

นานทีปีหนจะมีเหตุการณ์แบบนี้ซักที
ข่าวก็ขายได้เรื่อยๆ
ผมรู้ว่าท่านเอือมกับข่าวที่ออกมาทุกวันใช่ปะ

เอารึยัง มาทันตอน 34 เรื้อน

กระทู้แบบคุณนี่ผมเจอทุกวัน คำตอบมันก็อยู่ในเม้นของคุณแล้วไงครับ มันคือการเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กๆที่ติดอยู่ในถ้ำ ส่วนไอ้เรื่องรับเด็กเข้าทีมเยาวชนอะไรมันก็เป็นสิทธิของสโมสรเขา มันอาจจะเป็นการ PR สโมสรเขาไปในตัว

น้องๆไม่ผิด คนที่ยื่นข้อเสนอเพื่อเยียวยาจิตใจก็ไม่ผิด ส่วนคนที่มองว่าเยียวยาเกินไปหรือเปล่าก็ไม่ผิด คนที่มองว่าทีมช่วยเหลือควรได้รับสิทธิพิเศษแทนก็ไม่ผิดนะ ต่างคนต่างความเห็นแล้วกันครับ เราจะไปให้คนอื่นคิดเหมือนเราทุกคนนั้นยากครับ

ผมว่ายน้ำเป็นดำน้ำได้ จบหลักสูตรมาแล้ว มั่นใจว่าต้องไปช่วยลอร์ดโมแน่ๆ ผู้มีพระคุณ

พาไปดูบอลนี่คือยกย่องหรอวะ