"สตีเฟน เคอรี่" จากเด็กซนสู่นักบาสระดับโลก!!
"Stephen Curry : แค่เด็กซนธรรมดา (ที่ไม่ธรรมดา)"
นานมาแล้ว...เด็กผู้ชาย 10 คนลงขันพนันกันคนละ 5 เหรียญ ท้าทายกันภายในกลุ่มเพื่อนว่าเจ้า Steve Rossiter จะสามารถย่องเข้าไปในร้านอาหารแล้วกระโดดลงไปในบ่อปลา KOI ที่ตั้งอยู่กลางร้านได้หรือไม่ สำหรับเด็กมหาลัยเงิน 50 เหรียญกับความสนุกแบบแสบๆ ที่จะได้รับมันก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว...แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือ งานนี้มันสายลับระดับ Mission Impossible ชัดๆ ไอ้ครั้นจะทำคนเดียวก็คงจะไม่ไหวแน่ มันต้องมีคนมาช่วยหลอกล่อพนักงานร้านอาหารมันถึงจะทำได้สำเร็จ...และด้วยหน้าตาอันไร้เดียงสา ดูไร้พิษสง พ่วงดีกรีระดับการพาทีมมหาลัย Davison เข้ารอบสี่ทีมสุดท้ายในบาส NCAA ปี 2008 จะมีใครเล่าที่เหมาะกับการรับหน้าที่ไปหลอกล่อเบี่ยงเบนความสนใจพนักงานได้เท่ากับ ‘สตีเฟน เคอรี่’
และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน…เคอรี่เดินเข้าไปคุยกับพนักงานเสิร์พด้วยตาแบ๊วๆ กับ รอยยิ้มใสๆ “ระหว่างที่เค้ากำลังคุยกันอยู่ ผมแอบเข้าไปในร้านสำเร็จ” Rossiter เล่าถึงความทรงจำในครั้งนั้น “ปลาในบ่อว่ายหนีกันใหญ่ พวกมันตัวใหญ่มาก”
การรวมกลุ่มกันวางแผนเพื่อแอบกระโดดลงในบ่อปลาของร้านอาหาร ระหว่างที่แขกของทางร้านกำลังกินมื้อค่ำกันอย่างเอร็ดอร่อย มันเป็นการละเล่นที่ทั้งเกรียนทั้งแสบของกลุ่มเด็กมหาลัยซ่าส์ๆ แม้โดยมากแล้ว เคอรี่จะไม่ไช่ตัวหัวโจกหรือผู้ริเริ่ม แต่วีรกรรมแผลงๆ ของเค้าก็เป็นที่จดจำของบรรดาเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย...และนั่นละคือตัวตนที่แท้จริงของเคอรี่ นักบาสระดับ MVP สองสมัยซ้อน แชมป์ NBA การ์ดจ่ายผู้ทำลายสถิติการยิงสามคะแนนอย่างกระจุยกระจาย พร้อมกับปฏิวัติการยิงแบบที่ลีกไม่เคยมีมาก่อน...ภายใต้ชื่อเสียงและความสำเร็จอันมากมาย นอกสนามบาส ตัวจริงของเค้าก็คือเด็กซนๆ ที่รักความสนุกคนหนึ่ง
“คุณเห็นคลิปของเค้าใน Youtube มั้ย?” Andrew Lovedale อดีตฟอร์เวิร์ดของทีมมหาวิทยาลัย Davidson ถาม “ลองเข้าไปดูเลย”
เคอรี่กับกลุ่มเพื่อนเคยถ่ายร่วมรายการ “Davison Show” ซึ่งเป็นรายการแนวตลกผ่านทางเวปไซท์ของมหาวิทยาลัย ทีมบาสทั้งทีมเข้าร่วมในรายการตอนนั้น และก็เป็นอย่างที่ทุกคนว่า เคอรี่จะเกรียนไม่ไช่น้อยเลยทีเดียว
https://www.youtube.com/watch?time_continue=21&v=iuhNJRaCD9s
ถ้าคลิปแรกยังไม่เกรียนพอ ลองดูที่นาทีที่ 3 ของคลิปนี้สิ เคอรี่ โผล่มาเต้นในคลิปมิวสิกวีดีโอ ประกอบเพลง Kiss Kiss
https://www.youtube.com/embed/UV4VjOIhpxI
“เค้าก็แค่หาอะไรทำสนุกๆ เป็นปกติของเค้า” Lovedale กล่าว
‘เป็นปกติ’ นี่รวมถึงการไปดูหนัง ไปปาร์ตี้ แล้วไปซัดไก่พาร์เมซานของชอบในโรงอาหารมหาวิทยาลัย เขาและเพื่อนร่วมทีมเคยตั้งทีมซอฟท์บอลเล่นในมหาวิทยาลัย หรือ แม้กระทั่งการถูกโค้ชไล่ออกหลังจากที่มาสายสามนาทีจากการซ้อมวันแรก...เคอรี่ คือ ‘เด็กปกติ’ คนหนึ่งจริงๆ ...จนกระทั่งเมื่อเค้าอยู่ในสนามบาส...ที่นั่นละ ที่เค้าดูจะไม่ไช่ ‘เด็กปกติ’ อีกต่อไป ผู้คนที่ Davidson มีโอกาสได้ดูเคอรี่เล่นในช่วงแรกๆ การยิงลูกยากๆ ระยะไกล แสกหน้าตัวประกบ แต่กลับแม่นยำอย่างเหลือเชื่อ
“[ตอนเค้าจะยิง] ผมจะอารมณ์ประมาณ ‘นั่นเค้าจะทำอะไรน่ะ?” John Kilgo นักจัดรายการวิทยุของ Davidson กล่าว “หลังจากนั้นซักพัก อารมณ์ผมเปลี่ยนเป็น “สำหรับคนอื่นนั่นเป็นการเลือกจังหวะยิงที่แย่ แต่ไม่ไช่กับ เคอรี่”
ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของบาส NCAA ปี 2008 Lefty Driesell อดีตโค้ชของทีม Davidson เข้าร่วมบรรยายเกมที่เคอรี่ลงเล่นผ่านทางวิทยุร่วมกับ Kilgo ในขณะนั้น ผู้คนที่วิจารณ์ความสามารถเคอรี่จะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย - พวกแรกจะงงว่า เป็นไปได้ไงที่โรงเรียนหลายต่อหลายโรงเรียนมองข้ามและไม่เรียกตัวเคอรี่ไปติดทีม; กับพวกที่สอง จะปรามาทว่าเคอรี่ยังกระดูกยังไม่แข็งพอที่จะไปเล่นในลีกใหญ่ แต่เมื่อเกมเริ่มไปซักพัก เมื่อเคอรี่เริ่มพาบอลผ่านผู้เล่นตัวใหญ่เข้าไปหาห่วงได้อย่างง่ายดาย Lefty ถึงกับต้องตะโกนออกอากาศว่า
“ลืมลีกระดับ ACC ไปได้เลย เจ้าเปี๊ยกตัวแสบนั่นจะไปเล่นใน NBA ก็ได้” Kilgo เล่าถึงเหตการณ์วันนั้นให้ฟัง
ตอนนี้เคอรี่ไม่ไช่แค่ ‘เล่นใน NBA’ แต่เค้าเป็นผู้เล่นชั้นนำของลีก มันยากเหลือเกินที่เค้าจะเดินบนถนนได้โดยไม่โดนฝูงชนมาขอลายเซ็นหรือถ่ายรูป โทรศัพท์ทั้งสองเครื่องของเคอรี่มันดังตลอดเวลา ข้อความต่างๆ เด้งขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย
“ผมนั่งนึกกับเองว่า...ต่อไปนี้ ผมไม่ควรส่งข้อความหาเค้าบ่อยเกินไป’ Rossiter เล่าให้ฟังหลังจากที่มีโอกาสได้ไปกินมื้อค่ำกับเคอรี่ที่นิวยอร์ค
เคอรี่ ไม่ไช่เด็กปกติอีกต่อไปสำหรับแฟนบาสทั่วโลก ความปกติในชีวิตของเค้ามันหายไป...ยกเว้นที่ Davidson กับกลุ่มเพื่อนเก่าๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน สถานะเค้าจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไร เคอรี่ ยังคงสามารถกลับไปเป็นเด็กปกติ เป็นเด็กจอมซนคนเดิมได้อยู่เสมอ เค้ายังคงทำตัวเหมือนเดิม ชอบแกล้งเพื่อน ชอบมองหาความสนุกแบบเด็กๆ...เรื่องนี้ John Falconi อดีตเพื่อนร่วมทีมของเคอรี่ที่ Davidson สามารถยืนยันได้เป็นอย่างดี
ครั้งหนึ่งกลุ่มของเคอรี่ตกลงที่จัดปาร์ตี้สละโสดให้เพื่อนคนหนึ่ง เมื่อถึงเวลาทุกคนก็มาพร้อมหน้าพร้อมตาเตรียมฉลอง แต่ Falconi ดันเบี้ยวไม่ยอมมาแล้วอ้างกับเพื่อนว่าติดธุระ ข้ออ้างนั้นฟังไม่ขึ้นสำหรับเคอรี่และคนในกลุ่ม ทุกคนเห็นตรงกันว่าจะปล่อยให้ Falconi เบี้ยวไปแบบนี้เฉยๆ ไม่ได้ มันต้องโดนเล่นงานอะไรซักอย่าง...โทษฐานที่เบี้ยวงานแต่งเพื่อน...และแล้วปฏิบัติการเอาคืนก็มาถึง เมื่อทั้งกลุ่มไปดูเบสบอลด้วยกัน มีใครซักคนในนั้นเสนอแผนการเอาคืนโดยให้เคอรี่โพสลง Twitter ว่า
“โย่ [ตอนนี้ผม] อยู่ที่ Cincy (เมืองซินซินเนติ) โทรมาบอกผมหน่อยว่าคืนนี้ผมไปเที่ยวที่ไหนดี?”
และเคอรี่ก็โพสเบอร์โทรศัพท์แนบไปด้วย...ไม่ไช่เบอร์ของเค้า...แต่เป็นเบอร์ของ Falconi…แน่นอน มีคนโทรหา Falconi อย่างไม่ขาดสาย ด้วยความเข้าใจว่าจะได้คุยกับเคอรี่ตัวเป็นๆ ผู้คนกระหน่ำโทรมาจน Falconi ต้องปิดโทรศัพท์หนีไปหลายสัปดาห์ ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนที่เคอรี่อยู่ใน NBA เป็นปีที่สอง แต่จนถึงวันนี้ Falconi ก็ยังคงต้องรับโทรศัพท์จากบรรดาแฟนของเคอรี่อยู่เรื่อยๆ...ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของ Falconi ลูกผู้ชายจะเบี้ยวงานแต่งเพื่อนไม่ได้ เหตุผลก็ไม่มี แค่ขี้เกียจ แบบนี้ต้องโดน...เคอรี่ ชอบใจในผลงานชิ้นนี้มาก
เมื่อสองปีก่อน เคอรี่ทราบข่าวว่า Ray Belz อดีตเทรนเนอร์ของเคอรี่กำลังจะแต่งงาน เคอรี่ก็ควงภรรยาขับรถ 5 ชั่วโมงติดจากรัฐเวอจิเนียไปยังเมืองกรีนวิลล์ เพื่อร่วมงานแต่งโดยทันที ด้วยนิสัยของเคอรี่จะไม่พลาดงานแต่งของคนใกล้ตัวอย่างแน่นอน ทุกคนในงานต่างตื่นเต้นและไม่อยากเชื่อว่าเคอรี่จะมาร่วมงานจริงๆ แต่แล้วเคอรี่ก็มาจริงๆ เค้านั่งร่วมโต๊ะกับคนอื่นๆ อย่างเป็นกันเอง และเมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น...เคอรี่ก็ไม่รอช้า ควงแขนภรรยาเดินไปกลางฟลอร์เพื่อร่วมเต้นฉลองกับแขกคนอื่นๆ อย่างสนุกสนาน
ในสถานที่อื่น...เคอรี่เป็นซุปเปอร์สตาร์ เป็นนักบาสระดับโลก แต่สำหรับสมาชิก Davidson เคอรี่ก็ยังคงเป็นเด็กซนๆ คนเดิม…
“คุณไม่จำเป็นที่จะต้องเดินตามรอยใคร บางครั้งผู้คนทำราวกับว่า การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น คุณจะต้องมีเงื่อนไขในชีวิตอะไรบางอย่าง หรือต้องมีปูมหลังของชีวิตที่เหลือเชื่อ แต่ความจริงแล้ว มันไม่ต้องมีหรอกของพวกนั้นน่ะ มันไม่สำคัญเลยว่าคุณจะมาจากไหน คุณมีหรือไม่มีอะไร คุณขาดอะไรหรือมีอะไรมากเกินไป แต่สิ่งที่คุณต้องมีคือ ศรัทธาในพระเจ้า และความปราถนาอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อสิ่งที่คุณทำและสิ่งที่คุณเลือกที่จะทำในชีวิต ความต้องการอย่างแรงกล้าและความมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ใจคุณต้องการ...ขอให้รู้ตัวอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่และทำมันทุกวันให้ถึงที่สุด ผมหวังว่าผมจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก เลือกที่จะเป็นตัวของตัวเอง ถ่อมตน และ ซาบซึ้งต่อสิ่งดีๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิต” - สตีเฟ่น เคอรี่
Credit - NBA Time
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1017206765120105&id=151726815001442