ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
22 June 2018 03:59 by ไข่มุกดำ
จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”




เสมอ 1 แพ้ 1 และนัดสุดท้ายอาจไม่ได้มี “ชะตาชีวิต” ในมือตัวเอง

ฤาความพ่ายแพ้ต่อโครเอเชีย 0-3 จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของทีมฟ้าขาว อาร์เจนติน่าในบอลโลก 2018?

พร้อม ๆ กับจุดเริ่มต้นสู่ประตูรอบ 2 และต่อ ๆ ไปของ โครเอเชีย ยุคที่ว่ากันว่าเป็น Golden Generation (อีกชุด) ของประเทศ

ก่อนเกม: นี่คือฟุตบอลแมตช์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และน่า “ค้นหา” ที่สุดในบอลโลก 2018 นับจากนัดเปิดสนามเป็นต้นมา

มันคือการเผชิญหน้ากันของ 2 ทีมสุดยอดเรื่อง “แท็คติก” และความความสามารถเฉพาะตัวแบบแพรวพราวรอบด้านหาตัวจับยากอย่าง อาร์เจนติน่า

กับทีมที่น่าจะมี “เทคนิค” เฉพาะตัวของผู้เล่นสูงสุดทีมหนึ่งในทัวร์นาเมนท์นี้อย่าง โครเอเชีย

อาร์เจนติน่า ไม่ได้ “ขี้เหร่” ในแมตช์แรกที่เสมอไอซ์แลนด์ 1-1

หากเพียงแค่ เมสซี่ ยิงจุดโทษเข้าไป ทุกอย่างก็น่าจะจบในเกมที่หากให้เตะ 10 ครั้งก็น่าจะชนะ 8 ครั้งขึ้นไป

ส่วนโครเอเชีย โชว์ฟอร์มได้เนียนตาในเกมชนะเหนือไนจีเรีย 2-0

กับระบบ 4-2-3-1 เกมดังกล่าว ความสัมพันธ์แดนกลางโดยเฉพาะ โมดริช เจ้าของฉายา “โครแอต ครอยฟ์” กับราคิติช ถือว่า สมบูรณ์แบบที่สุด

ไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่ง ดุดัน แต่เต็มไปด้วย “เทคนิค” และความเข้าใจอันลึกซึ้นอย่างยิ่ง

---

เริ่มเกม:

แมตช์นี้ โครแอตมีสลับเล็กน้อยด้วยการใส่ โบรโซวิช ลงมาช่วยกลางตัวรับ “เป็นหลัก” ร่วมกับราคิติช โดยเปิดโอกาสให้โมดริชมี “อิสระ” มากขึ้น

ฉะนั้น นี่จึงถือเป็นชุด “แดนกลาง” ที่ดีมากโดยมี เปเรซิช กับเรบิช ทะลุทะลวงริมเส้นสนับสนุนมานด์ซูคิชในเกมที่ปรับผู้เล่นจากเกมแรก 1 คน

ทางด้านอาร์เจนติน่า “ปรับใหญ่” โดยฮอร์เก้ ซัมเปาลี เลือกใช้ระบบ 3-4-3 แทนที่ 4-2-3-1 และปรับตัวผู้เล่นถึง 3 คนจากเกมแรก

ถอด ดิมาเรีย, โรโฮ และบิญ่า โดยดันเมสซี่ไปยืนสูงริมเส้นด้านขวา เพื่อลดภาระหน้าที่ในแดนกลาง หรือลงต่ำมากไปของกัปตันทีมคนสำคัญ

---

ครึ่งแรก:

ถือว่า ไม่มีใครเพลี้ยงพล้ำมากนัก โดยจังหวะเสียว ๆ ที่เกมรับทั้ง 2 ฝ่ายมี “ทำหลุด” บ้าง เฉพาะอย่างยิ่งที่ลอฟเรน สับสนกับนายทวาร ซูบาซิช แล้วเอนโซ่ เปเรซ แปรโล่ง ๆ ออกไป

แต่โดยรวมไม่ว่าจะหลัง 3 หรือ 4 ทั้ง 2 ทีมทำได้ดี

เกมรับก็ทำได้ “เป็นทีม” โดยเฉพาะการ “เพรสซิ่ง” แดนกลางในจังหวะรุกเป็นรับที่จะมีการตัดเกม หรือกดดันฝ่ายตรงข้ามอย่างทันช่วงที

โอกาสในการใช้เวลา build up เกมจึงไม่ง่าย เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการช่วงชิงความได้เปรียบ หรือ take initiative ตลอดเวลา

หาใช่เกมที่ฝ่ายหนึ่งเตรียมมารับ อีกฝ่ายต้องการรุก เหมือนทีมใหญ่ เจอทีมเล็กที่เรา “คุ้นชิน” และมีภาพจำการรับแล้วโต้ ในเวลาที่อีกฝ่ายพยายามเริ่มต้นรุกก่อนแล้วโดนกดดันให้เสียบอลระหว่างทาง

ดังนั้นโอกาสจาก Open Play จึงมีไม่มาก

การต่อสู้ ช่วงชิงความได้เปรียบนี้ จะตัดสินที่ “เมจิต โมเมนต์” ที่ครึ่งแรก ทีมตราหมากรุกในเสื้อสีดำทำได้ดีกว่า

3 จังหวะเริ่มจาก เปเรซิช ทักทายก่อนตั้งแต่นาทีที่ 4 ที่หลุดไปยิงจากฝั่งซ้ายนับเป็นการส่ง “สัญญาณ” ไซเรนเตือนอย่างแรง

กลางครึ่งแรก มันด์ซูคิช หลุดกับดักล้ำหน้าไปโหม่งเสาสองเหน่ง ๆ แต่พลาดไป

และก่อนหมด 45 นาทีแรกแบบสวย ๆ จากการผ่านทะลุไลน์หลังทั้งแผงของโมดริชให้ เรบิช หลุดไปยิงข้ามคาน

ครึ่งแรกจึงน่าจะเป็นครึ่งที่ สลัตโก้ คาลิช พอใจมากกว่าซัมเปาลี แม้จะน่าเสียดายที่ลูกทีมควรจะได้สัก 1 ประตูก็ตาม

---



ครึ่งหลัง:

โจทย์หลักของโครเอเชียอยู่ที่ต้อง “จบ” โอกาสเป็นประตูให้ได้ นอกนั้นถือว่า น่าพอใจ

ขณะที่ทัพฟ้าขาวมีหลาย “คำถาม” ต้องตอบโดยเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ กับตำแหน่งริมเส้นตัวบนด้านขวาที่มีบทบาทกับเกมน้อยมาก

เช่นกัน “หลัง 3” กับจุดอ่อนของระบบบริเวณหลังวิงก์แบ็ค: ซัลวิโอ และอคูญ่า ที่ต้องระวัง เพราะเปเรซิช กับเรบิช นั้นจ้องอยู่

และแน่นอน อย่างที่ผมแตะไว้ในครึ่งแรก ความ “ผิดพลาด” จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญเช่นกันหลังมีสัญญาณบ่งบอกจากกองหลังทั้ง 2 ฝ่าย

สุดท้าย “หวยออก” ที่อาร์เจนติน่า และนายทวารคาร์บาเญโร่ ก่อนเรบิชจะวอลเลย์ซึ่งไม่ง่ายให้ทีมตราหมากรุกดำออกนำ 1-0 ในช่วงนาที 53

ถึงเวลานั้น งานอาร์เจนติน่าที่ว่าหนักแล้ว ยิ่งหนักขึ้น และการเปลี่ยนตัวเร็ว 2 คนโดยส่ง ฮิกัวอิน กับปาวอน ลงมาจึงจำเป็นทันที

ตามการได้เห็น ดิบาล่า ลงเล่นพร้อมหน้าพร้อมตากับเมสซี่ ที่หวังจะเป็นความ “มหัศจรรย์” ที่แฟนฟ้าขาวอยากเห็นมานานแล้ว

เกมฟ้าขาวดูดีขึ้น ก่อนที่จะโดน “หมัดน็อค” อย่างจังของโครเอเชียจากคนคนนั้น...ลูก้า โมดริช ก่อนหมดเวลา 10 นาที

ขยี้ด้วยการ “โรยเกลือ” บนบาดแผลที่เจ็บอยู่แล้วให้ยิ่งแสบจากจังหวะสวนกลับที่ไปจบตรง ราคิติช ด้วยการประสานกันอย่าง “เลือดเย็น”

ราวกับ “สคริปต์” ได้ถูกเขียนไว้แล้ว A night of history for Croatia! ทะลุรอบ 16 ทีมสุดท้าย

พร้อม ๆ กับภาพใบหน้า เมสซี่ ผิดหวังอันคุ้นเคยในสีเสื้อ อาร์เจนติน่า!



...ฟุตบอลมันส์ ๆ ครบทุกรสชาติ มาตรฐานสูง 4 ปีมี 1 ครั้งแบบนี้จะชมได้มีอรรถรสที่สุดผ่านระบบ 4K นะครับ เพราะจะได้ภาพคมชัดกว่าปกติ 20 เท่า และชัดกว่า Full HD ถึง 4 เท่าครับ

พลิกล็อก, พลาดจุดโทษ, ตกรอบ, เข้ารอบ, ประตูสุดงาม, own goals, VAR, Goal Line Technology และอื่น ๆ อีกมากมายมีมาแล้ว และการันตียังจะมีอีกหลาย “ไคลแม็กซ์” ตามมาครับ

การติดตั้งกล่อง TrueVisions 4K Ultra HD วันนี้ มีโปรโมชั่นสุดเร้าใจมาพร้อมทีวี SAMSUNG 4K UHD 55 นิ้ว ราคาพิเศษ!! รวมเพียง 16,500 บาท (จากปกติ 33,490 บาท) โทร.1242 หรือ https://bit.ly/

สมาชิกแพลทินัมที่จองติดตั้งกล่องไปแล้วตั้งแต่ 15 พ.ค. 2561 เป็นต้นมา ขอรับสิทธิ์นี้ และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ได้เช่นกัน โปรโมชั่นตั้งแต่ 12 มิ.ย. 2561 ถึง 30 มิ.ย. 2561 (ของมีจำนวนจำกัด)

เพื่อจะได้ชม “บอลโลก 4K” ครั้งแรกของโลกด้วยกันนะครับ


“ไข่มุกดำ”

+++ https://facebook.com/khaimukdam +++

+++ in partnership with https://sportdesk.co +++
แก้ไขล่าสุดโดย Narueta เมื่อ Fri Jun 22, 2018 11:07, ทั้งหมด 5 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
กรรมกรข่าว
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2009
ตอบ: 203
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 05:28
Top Comment [RE: จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”]
สงสารเมสซี่ ผิดหวังตั้งแต่การเลือกนักเตะมาติดทีมของซามเปาลีแล้ว

โกลดีๆก็มีอย่างรูญี่มือหนึ่งโซเซียดาด ทำไมต้องไปใช้โกลสำรองที่แทบไม่ได้เล่นอย่างกาบาเญโร่?

กลางรับอย่างปาเรเดสที่ฟอร์มสดกับโรม่าเรื่อยยาวไปจนตอนอยู่กับเซนิตซีซั่นนี้ก็ไม่เรียก ยังใช้งานมาสเชราโน่ที่ขาลงแบบสุดๆ

ดาวซัลโวเซเรีย อาอย่างอิคาร์ดี้ก็ไม่ได้โอกาส แบบนี้บอกมาตามตรงเลยก็ได้ว่าเพราะแย่งเมียเพื่อน เลยไม่ติดทีม

ส่วนแท็คติกเกมนี้ก็ประมาทฝั่งโครเอเชียมากไป หลังสามคนก็จริง แต่มีเซนเตอร์แบ็คอาชีพแค่โอตาเมนดี้ แม้คิดว่ามาสเชราโน่สามารถถอนตัวมาเสริมได้ แต่ก็อย่างที่เห็นว่าเอาไม่อยู่ แถมกลายเป็นเปิดพื้นที่ด้านข้างให้เปริซิชกับเรบิชโจมตีสบาย

แดนกลางเป็นจุดแข็งของโครเอเชีย​เพราะมีทั้งโบรโซวิช, ราคิติชและโมดริช แต่ซามเปาลีกลับใช้แค่เปเรซกับมาสเชราโน่รับมือ สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว

เป็นแบบนี้เมสซี่เลยได้บอลน้อย สร้างสรรค์เกมอะไรก็ไม่ค่อยได้

จริงๆถ้าจะสร้างทีมโดยใช้เมสซี่เป็นแกนหลัก ใช้ 4-3-3 แบบบาร์เซโลน่าอาจดีกว่า แล้วตัวฟอร์มดีแบบโล เซลโซ่หรือบาเนก้าควรได้ลงมาสร้างสมดุลแดนกลางสักคน
ออฟไลน์
กรรมกรข่าว
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2009
ตอบ: 203
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 05:28
[RE: จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”]
สงสารเมสซี่ ผิดหวังตั้งแต่การเลือกนักเตะมาติดทีมของซามเปาลีแล้ว

โกลดีๆก็มีอย่างรูญี่มือหนึ่งโซเซียดาด ทำไมต้องไปใช้โกลสำรองที่แทบไม่ได้เล่นอย่างกาบาเญโร่?

กลางรับอย่างปาเรเดสที่ฟอร์มสดกับโรม่าเรื่อยยาวไปจนตอนอยู่กับเซนิตซีซั่นนี้ก็ไม่เรียก ยังใช้งานมาสเชราโน่ที่ขาลงแบบสุดๆ

ดาวซัลโวเซเรีย อาอย่างอิคาร์ดี้ก็ไม่ได้โอกาส แบบนี้บอกมาตามตรงเลยก็ได้ว่าเพราะแย่งเมียเพื่อน เลยไม่ติดทีม

ส่วนแท็คติกเกมนี้ก็ประมาทฝั่งโครเอเชียมากไป หลังสามคนก็จริง แต่มีเซนเตอร์แบ็คอาชีพแค่โอตาเมนดี้ แม้คิดว่ามาสเชราโน่สามารถถอนตัวมาเสริมได้ แต่ก็อย่างที่เห็นว่าเอาไม่อยู่ แถมกลายเป็นเปิดพื้นที่ด้านข้างให้เปริซิชกับเรบิชโจมตีสบาย

แดนกลางเป็นจุดแข็งของโครเอเชีย​เพราะมีทั้งโบรโซวิช, ราคิติชและโมดริช แต่ซามเปาลีกลับใช้แค่เปเรซกับมาสเชราโน่รับมือ สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว

เป็นแบบนี้เมสซี่เลยได้บอลน้อย สร้างสรรค์เกมอะไรก็ไม่ค่อยได้

จริงๆถ้าจะสร้างทีมโดยใช้เมสซี่เป็นแกนหลัก ใช้ 4-3-3 แบบบาร์เซโลน่าอาจดีกว่า แล้วตัวฟอร์มดีแบบโล เซลโซ่หรือบาเนก้าควรได้ลงมาสร้างสมดุลแดนกลางสักคน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Oct 2009
ตอบ: 2090
ที่อยู่: บนโลกใบนี้
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 06:12
[RE]จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”
สงสารเมส ยังไงนัดสุดท้ายขอให้มีปาฏิหาริย์ได้เข้ารอบหน่อยก็ยังดี
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ตบเด็ก เตะหมา ท้าหญิงต่อย ถ่อยกับคนชรา
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2013
ตอบ: 3032
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 07:17
[RE]จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”
เอาจริง ผมสงสารเมสซี่นะ และเชื่อว่าบอลโลกครั้งนี้ อาจเป็นครั้งสุดท้ายของแกด้วยจริงๆ เหลืออีกนัด หวังว่าจะมีปาฏิหารย์นะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: FCB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jan 2011
ตอบ: 6246
ที่อยู่: Camp nou
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 09:42
[RE]จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”
มันจบแล้วล่ะ โทษซามเปาลีอย่างเดียวก็ไม่ถูกหรอก ความหวังคงไม่หมดถ้าเมสเองไม่พลาดจุดโทษเกมที่แล้ว แต่ยังไงก็ยังลุ้นให้ผ่านเข้ารอบนะ ส่วนซามเปาลีจบทัวร์นี้ก็ออกไปเถอะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะอบจ.
Status: once blue always blue
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 8735
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 09:54
[RE: จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”]
ผม งง ดีบาล่าทำไมไม่เป็นตัวจริง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
(ทัณฑ์บนครั้งที่ 1)

นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 6117
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 11:56
ถูกแบนแล้ว
[RE: จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”]
ชอบแบกคนเดียวก็ช่วยไม่ได้
แก้ไขล่าสุดโดย METHANOL เมื่อ Fri Jun 22, 2018 11:56, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กรรมกรข่าว
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2009
ตอบ: 203
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 12:13
[RE: จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”]
เคืองซามเปาลีมากอคือถ้าต้องเล่นมิดฟิลด์ตัวกลางแค่ 2 คนแบบเมื่อคืน การใช้บาเนก้าคู่โล เซลโซ่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะมีีทั้งความสดและฟอร์มที่ดีกว่าเปเรซและมาสเชราโน่มาก

แต่เมื่อคืนมันพังเพราะแท็คติกโค้ชล้วนๆ เล่นหลัง 3 คน แต่มีเซนเตอร์แบ็คอาชีพแค่รายเดียว ซึ่งปกติอย่างน้อยต้องมีสักสองคนแบบที่อังกฤษทำ

พอส่งไลน์อัพแบบเมื่อคืนลงมา มาสเชราโน่เลยต้องถอยมาช่วยแดนหลังเยอะ เพราะตัวกองหลังด้านข้างอย่างตาลยาฟิโก้กับแมร์คาโด้ต้องถ่างไปรับมือการโจมตีริมเส้นจากเรบิชและเปริซิชเป็นระยะ

แล้วด้วยวัย 34 ปีของมาสเชราโน่ มันเป็นภาระงานที่หนักเกินไปกับการดูแลทั้งเกมรับแดนกลางและแดนหลัง สุดท้ายเปเรซเลยเจอโมดริชกับราคิติชรุมเล่นงานสบาย

มิดฟิลด์ตัวกลางที่ซามเปาลีเรียกมามี มาสเชราโน่ (34), บิเกลีย(32), เปเรซ(32), โล เซลโซ่(22), บาเนก้า(29)

จากรายชื่อตรงนี้ เมื่อดูจากประสบการณ์ ความพร้อมของร่างกายและฟอร์มการเล่น ยังไงบาเนก้าก็ต้องเป็นตัวยืน

และถ้าจะทำให้เมสซี่เล่นง่ายขึ้น ดูจากนักเตะที่เรียกมาตอนนี้ ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก ใช้ 4-3-3 แบบบาร์ซ่าคงเหมาะสุด กองหน้าเลือกมา 2 คนจากอิกวาอิน, อเกวโร่, ดีบาล่า ใครลงก็ได้ โดยมีเมสซี่เป็นตัวฟรี

มิดฟิลด์คู่กลางโล เซลโซ่กับบาเนก้า มีมาสเชราโน่ปักหลักตัดเกม เพราะยังไงก็ยังดีกว่าบีเกลีย (เสียดายไม่เรียกปาเรเดสมา)

แนวรับก็ใช้แบ็คโฟร์ แต่แปลกใจที่โค้ชเรียกกองหลังอาชีพติดทีมแค่ 6 ราย ถือว่าเสี่ยงมาก ถ้าเจ็บ ถ้าแบนขึ้นมาคืองานเข้า แต่ตัวที่เรียกมาถือว่าระดับแนวหน้าของชาติในยุคนี้แล้ว ซึ่งถ้ามีมาสเชราโน่ยืนปักหลักนิ่งๆหน้าแบ็คโฟร์คงพอต้่านทานไหว เพราะทางบอลยังเหลือกิน แต่ถ้าโค้ชให้วิ่งขึ้นลงแบบเมื่อคืน ก็เหมือนกับเอามาสเชราโน่มาเชือดในสนาม
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 18
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 19:23
[RE: จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”]
2 นัด เล่นเอาสายเสี่ยงดวงแอ๊บเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: รักเธอเสมอ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 34188
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 19:59
[RE: จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”]
ว่าไป
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Feb 2010
ตอบ: 5760
ที่อยู่: Dream World
โพสเมื่อ: Fri Jun 22, 2018 21:18
[RE: จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”]
ผมไม่เข้าใจตรง GK เนี่ย ทำไม Rulli ไม่ติด ดูยังไงก็ดีกว่าไอที่แกเรียกมาทั้งหมด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 3588
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jun 24, 2018 21:27
[RE: จุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของ “เมสซี่”]
พิษโค้ชเหมือนบราซิลเมื่อ 4 ปีที่แล้วเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"We have to change from doubter to believer" JK
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel