จากคนสู่หุ่นยนต์ : การดูแลนักเตะให้เอาชนะสังขารได้อย่าง ‘โรนัลโด้’
หัวหน้าฝ่ายการดูแลฟอร์มการเล่นของเวลส์อย่าง โทนี่ สตรั๊ดวิค ที่เคยทำงานกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะอธิบายถึงการใช้เครื่องจีพีเอสเพื่อวัดผลการฝึกซ้อม รวมถึงเปิดเผยถึงความสุดยอดทางสรีระร่างกายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และความยากลำบากในการทำงานจากการเป็นโค้ชด้านการดูแลนักเตะให้กับทีมชาติ
การใช้เครื่องจีพีเอสสำคัญต่องานของคุณขนาดไหน?
มันสำคัญมาก ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีการใช้เครื่องจีพีเอสช่วยเก็บผลการฝึกซ้อมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราต้องดูแลเรื่องนี้เยอะมากๆ เราต้องคำนวณว่าวันหนึ่งผู้เล่นสามารถทำงานได้มากขนาดไหน เราต้องการให้เขาแสดงศักยภาพออกมาให้ดีที่สุดในทุกๆ เกม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรานำระบบนี้มาใช้ ทุกๆ สโมสรในระดับอาชีพ หรือแม้แต่ทีมนอกลีกบางทีมก็ใช้ระบบนี้ นักเตะต้องใส่เครื่องจีพีเอส เพื่อเป็นการเก็บสถิติในการเล่นของเขา ทีมในระดับพรีเมียร์ลีกต้องมีนักวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างน้อย 1-2 คน เพื่อที่จะสามารถรับมือในการทำงานกับผู้เล่นเป็นรายบุคคลได้
ความยากของการทำงานนี้กับทีมชาติเวลส์ เมื่อเทียบกับการทำงานให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความต่างกันขนาดไหน?
การทำงานในระดับสโมสรผู้เล่นจะมีการฝึกซ้อมที่สอดคล้องกัน และฝึกในรูปแบบที่คล้ายกัน แต่กับทีมชาติ คุณต้องพบเจอกับความหลากหลายของผู้เล่นจากต่างสโมสรที่มารวมตัวกัน ซึ่งมีปรัชญาในการฝึกซ้อมที่ต่างกันออกไป รวมไปถึงรูปแบบการเล่นที่ต่างกันด้วย สิ่งเหล่านี้คือความยากของงาน และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมคุณต้องการทราบข้อมูลเหล่านี้จากจีพีเอสเมื่อเข้ามาเก็บตัวที่แคมป์ฝึกซ้อม เราต้องสร้างแนวทางของการทำงานที่เหมือนๆ กัน ให้พวกเขาภายในสัปดาห์หนึ่ง, หนึ่งวันก่อนลงแข่ง หรือตามระยะเวลาที่เหมาะสม เราต้องการให้นักเตะทุกคนตอบสนองกับการฝึกซ้อมเราให้มากที่สุด ส่วนกุนซือของทีมก็ยังต้องการให้เราเอาแนวทางการเล่นที่เขาต้องการ ซึ่งเราก็ต้องทำตาม และเรื่องนี้ก็ส่งผลให้แรงกระตุ้นที่เกิดขึ้นกับนักเตะจะเปลี่ยนไปด้วย
คุณมีวิธีอย่างไรกับการทำงานเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ และทีมต้องลงเล่นที่ต่างแดน?
ที่จีน เวลาเดินทางเร็วกว่าประเทศเราถึง 8 ชั่วโมง และเราก็ต้องวางแผนในสถานที่ที่มีเวลาต่างจากเรา เราต้องหาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดต่อการนอนหลับ หรือการฝึกซ้อม เมื่อคุณไปที่ประเทศทางตะวันออก คุณต้องพักผ่อนให้เพียงพอ และไม่จำเป็นต้องรีบเริ่มการฝึกซ้อมนัก ขณะที่ช่วงเวลาที่ลอส แอนเจลิส ก็ตรงข้ามกับจีน เวลาที่นั่นช้ากว่าเรา 8 ชั่วโมง เราควรจะเริ่มการฝึกซ้อมตั้งแต่หัววัน การนำหลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ในการฝึกซ้อมถือเป็นสิ่งสำคัญ เรื่องของเวลาที่ไม่ตรงกันของแต่ละประเทศ กับเรื่องความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ก็เป็นประเด็นสำคัญสำหรับสโมสรที่ลงแข่งในแชมเปี้ยนส์ ลีกเช่นกัน เพราะฉะนั้น การวางแผนและการจัดการในเรื่องของการเดินทาง อาหารการกิน หรือเรื่องอื่นๆ ล้วนมีความสำคัญที่จะชี้ขาดว่าคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่ในการแข่งขัน
หน้าที่ของคุณกับทีมชาติเวลส์ คือการทำให้ผู้เล่นพร้อมที่จะลงสนามมากที่สุดใช่หรือไม่ หรือมันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น?
มันก็แล้วมุมมองของคนอื่นนะ คุณอาจจะเข้ามาที่แคมป์ฝึกซ้อมอย่างเร่งรีบ แล้วบอกให้พวกเขาฝึกซ้อมอย่างหนักก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าคุณแค่ทำให้พวกเขาพร้อมที่จะลงมากที่สุดเท่าที่ทำได้ก็พอ ด้วยเวลาที่คุณมี มันน้อยมากนะ คุณมีเวลา 3-4 สัปดาห์ในแคมป์เก็บตัว ก่อนที่ทัวร์นาเมนท์ใหญ่ๆ จะเริ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นช่วงระหว่างฤดูกาลการแข่งขัน คุณจะมีเวลาแค่อาทิตย์เดียว หรือน้อยกว่านั้น ในการทำให้นักเตะพร้อมที่จะลงเล่น คุณต้องทำให้พวกเขาสดที่สุด และถ่ายทอดแนวทางการเล่นให้กับนักเตะ คุณอาจได้พูดคุยกับนักเตะในวันอาทิตย์ แต่บางครั้งพวกเขาก็ต้องลงเล่นในวันอาทิตย์หรือก่อนหน้านั้น หรือบางทีมันไปตรงกับวันหยุดของพวกเขา และในบางคราว ทีมของคุณอาจมีแข่งในวันพฤหัสบดี ซึ่งระหว่างนั้น คุณจะทำยังไงก็ได้ เพื่อให้มั่นใจว่านักเตะของคุณมีความพร้อมที่จะลงสนาม
คุณมีวิธีการอย่างไรที่ทำให้นักเตะมีความฟิตอยู่ตลอด ในระหว่างการแข่งขันทัวร์นาเมนท์สำคัญๆ?
เรื่องนี้สำคัญมากๆ คุณต้องจัดการกับผู้เล่นเป็นรายบุคคล ตลอดจนถึงการจัดการกับนักเตะทั้งทีม คุณต้องทำให้พวกเขาฟิตอยู่ตลอด บางทีหลังจบเกม พวกเขาก็อาจจะต้องทำบางสิ่งบางอย่างเพิ่มเติมจากเดิม บางการฝึกซ้อมที่เราจัดให้กับบางคน ก็เพื่อทำให้มั่นใจว่านักเตะเหล่านั้นจะพร้อมลงสนามจนจบ 90 นาทีได้ ถ้าเราต้องการ นั่นคือวิธีที่เราจัดการ เราจะเน้นไปที่รายบุคคลมากกว่า คุณอาจจะสามารถส่งนักเตะลงเล่นได้ตลอด 7 เกม จาก 28 วัน ในการแข่งฟุตบอลโลก แต่คุณไม่สามารถใช้ 11 ผู้เล่นชุดเดิมได้ตลอดหรอก การจัดการกับนักเตะเป็นเรื่องสำคัญ เราได้เรียนรู้จากเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขามีผู้เล่นในทีมเป็นจำนวน 26 คน อยู่เสมอ เขาจัดการนักเตะได้ดี มีการหมุนเวียนผู้เล่น ถ้าไรอัน กิ๊กส์ ไม่ได้ลงสนามเป็นเวลา 10 วัน เขาจะถูกฝึกซ้อมเพิ่มเติมเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายพร้อมอยู่เสมอ และการตรวจสอบผลที่ตามมาก็เป็นสิ่งสำคัญ เราต้องทำให้มั่นใจว่าการกระตุ้นของเราสัมฤทธิ์ผล อเล็กซ์จัดการเรื่องนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ในฤดูกาลสุดท้ายของเขา มีค่าเฉ,ยในการหมุนเวียนผู้เล่น 5 คนต่อเกม การจัดการทีมของเขาเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ
ใครเป็นคนที่มีร่างกายสุดยอดมากที่สุดตั้งแต่ที่คุณเคยทำงานด้วย?
เกณฑ์การวัดที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือ ความพร้อมในการลงสนาม ความสามารถที่จะลงเล่นได้ในทุกๆ เกม เราใช้เกณฑ์การวัดว่าผู้เล่นคนหนึ่งมีค่าเฉลี่ยในการลงเล่นเกมได้ทุกๆ กี่วัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงสนามได้ทุกๆ 4.3 วัน มันน่าประทับใจมาก มันหมายความว่า เขาสามารถลงเล่นได้ถึง 90-95 เปอร์เซนต์ จากเกมทั้งหมด เรายังเคยเจอนักกีฬาบางคนที่มีพละกำลังและความแข็งแกร่งในลักษณะนี้อีกเหมือนกัน ซึ่งซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นเจ้าของสถิติสูงสุดในด้านนี้ ซึ่งบางผลการทดสอบนั้นถือเป็นข้อมูลเฉพาะของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นเรื่องของพละกำลังและความสูงในการกระโดด เรามีสถิติของมอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซ่น ซึ่งมีระยะทางการวิ่งต่อเกมสูงถึง 14-15 กิโลเมตร ซึ่งมันน่าเหลือเชื่อมาก เขามีร่างกายที่มีความทนทานเป็นเลิศ เขามีค่า V02 Max(ค่าปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายรับและนำไปใช้ เป็นค่าชี้วัดความฟิตของร่างกาย) มากกว่า 70 มิลลิลิตร และเขาสามารถทำมันได้สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า เขาเป็นคนที่อึดที่สุดที่ผมเคยพบเจอเลยล่ะ
สิ่งใดที่สำคัญที่สุดสำหรับการวัดความฟิตของนักฟุตบอล?
สำหรับผมมันมี 5 ตัวแปรหลักๆ อย่างแรกคือความทนทาน คนบางคนอาจจะฝึกซ้อมร่างกายทุกวันไม่ได้ ซึ่งมันจำเป็นมาก ต่อมาก็คือเรื่องของความเร็วสูงสุด ซึ่งเป็นสิ่งที่แบ่งแยกการเป็นผู้เล่นระดับสูงได้ ไหนจะเรื่องสรีระทางกายบวกกับความเร็วในการคิด ลองสังเกตจากผู้เล่นที่มีความเร็วการวิ่ง 9 เมตรต่อวินาทีดูสิ เขาจะมีพละกำลัง และความสูงในการกระโดดที่สัมพันธ์กับเรื่องของความเร็วด้วย สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องคือความสามารถในการวิ่ง และความอึดของร่างกาย เราจะดูระยะทางการวิ่งต่อนาทีในแต่ละเกม เรามีการทดสอบด้วยการวิ่งในระยะเวลา 5 นาที ซึ่งเราจะหาค่าเฉลี่ยของระยะทางในการวิ่งในเวลา 5 นาทีที่กำหนด ส่วนสิ่งสุดท้ายคือ การเคลื่อนที่ (คริสเตียโน่)โรนัลโด้ กับกิ๊กส์ เป็นคนที่เคลื่อนที่ได้เร็วและมีประสิทธิภาพมาก ส่วนผู้เล่นรูปร่างใหญ่ควรจะมีความเร็ว 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในการฝึกซ้อมเราต้องการให้พวกเขาใช้ความเร็วแค่เพียง 90 เปอร์เซนต์ พวกเขาต้องแสดงให้เราเห็น และพวกเขาต้องสามารถแสดงมันออกมาให้เห็นอีกครั้งในเกมได้
Credit :
https://www.fourfourtwo.com/th/features/cchaakkhnsuuhunynt-kaarduuaelnaketaaiheaachnasangkhaaraidyaang-ornalod#R8s5lx2EcuIXyK7U.99