เหลือเชื่อว่า “กลุ่ม G” มี 2 ทีมระดับ “Big 8” บอลโลก 2018 อย่างเบลเยียม และอังกฤษ นำระบบกองหลัง 3 คนมาใช้ และทำได้ดีหลังผ่านเกมแรกของตนเองใน “มิติ” ที่แตกต่างกัน
ระบบนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะมีไม่ถึง 5 ทีมที่จะนำรูปแบบการเล่นนี้มาใช้ในบอลโลกที่รัสเซีย
ผลสอบของทั้งคู่ก่อนการเจอกันในเกมสุดท้ายของกลุ่ม 28 มิ.ย.ที่สนาม คาลินินกราด เป็นเช่นไร? หลังเบลเยียม ถล่มปานามา 3-0 และอังกฤษ ทำได้แค่เฉือนหวิว 2-1 เหนือตูนีเซีย
สิงโตมีดี แต่ “ไร้เดียงสา”
ทีมชาติอังกฤษ สร้างสรรค์โอกาสในเกมได้มากพอจะชนะ และยิงได้ไม่ต่ำกว่า 3-4 ลูกหากมี “ความนิ่ง” และเก๋าประสบการณ์ในเวทีฟุตบอลนานาชาติมากกว่านี้
โอกาสยิงเข้ากรอบมีถึง 7 จากทั้งหมด 17 ครั้ง และใน “ภาพรวม” เล่นได้ดีกว่าหลายทีมเต็ง ขาดแต่จังหวะสุดท้าย นิด ๆ หน่อย ๆ และการตัดสินใจในบางจังหวะเท่านั้น
ซึ่งต้องอาศัยการเรียนรู้ สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตวัยเฉลี่ย 26 ปี และติดทีมชาติเฉลี่ย 20 นัด
“ไร้เดียงสา” ที่สุดในบรรดา 32 ทีมบอลโลกหนนี้ ให้เติบโตกล้าแกร่งขึ้นให้ได้
โดยใช้เกมลักษณะนี้กับตูนีเซียเป็นบท “ทดสอบ” ชั้นดีให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต และลูกทีมนำโดยกัปตันทีม แฮร์รี เคน วัยเพียง 25 ปีได้เผชิญ
---------------------------------
ทีมชุดปะทะตูนีเซียประกอบด้วย:
พิคฟอร์ด
วอล์คเกอร์ สโตนส์ แม็คไกวร์
เฮนเดอร์สัน
ทริปเปียร์ ลินการ์ด อัลลี ยัง
สเตอร์ลิง เคน
----------------------------------
เหลือเชื่อว่า หากเทียบกับคู่แข่งร่วมกลุ่ม เบลเยียม ที่ทราบล่วงหน้ายาวนาน 11 คนแรกแบบ “หลับตา” จิ้มได้แล้ว
อังกฤษ 11 คนแมตช์แรก “เวิลด์คัพ 2018” ไม่เคยร่วมเล่นด้วยกันเลย
แต่ขอบอกว่า “คาแร็กเตอร์” กับตำแหน่งของทั้ง 11 คน ถือว่า มีความสมดุลทั้งรับ และรุก รวมถึงมิติการเล่นที่มีสปีด, ความแข็งแกร่ง เทคนิค ทักษะ ในระดับที่น่าพอใจ
แอชลีย์ ยัง วิงก์แบ็คซ้าย แต่ถนัดขวาอาจจะเป็นคนเดียวที่ไม่โดนใจผม แต่หากจะมองว่า ไม่มีใครอายุเกิน 30 ปีมาประคองเลย
ก็ถือว่า เซาธ์เกตได้พยายามทำให้ทีมนี้มีอายุเฉลี่ย และค่าปสก.เพิ่มขึ้น
พิคฟอร์ด ปาดหน้าบัตแลนด์ ในตำแหน่งโกล์ และแม็คไกวร์ เฉือนหวิวเคฮิลล์ ขณะที่ยัง เบียดแดนนี่ โรสส์ และลินการ์ด ก็แทรกเข้ามาในตำแหน่ง “กลาง 3” ที่มี เฮนเดอร์สัน กับอัลลี จองอยู่
เซนเตอร์ฯ 3 ตัวนี้ “ลงตัว” ตามแบบฉบับหลัง 3 คือ วอล์คเกอร์ เร็ว และเติมสูงได้, สโตนส์ อ่านเกมดี และไม่เกรงกลัวจะไปกับบอล
แม็คไกวร์ โหม่งได้ทุกลูกทั้งปากประตูตัวเอง หรือยามเติมไปเล่นเซ็ตพีซ และมีความแข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 3 คน
แดนกลาง จริง ๆ จะบอกว่าเป็น เฮนโด้ กับอัลลี จองไว้ก็ไม่เชิง เพราะก่อนหน้าก็มีการใช้ 2 มิดฟิลด์รับคู่ เฮนโด้ – ดายเออร์ อยู่เนือง ๆ แต่อย่างที่ผมได้เรียนไว้ “บาลานซ์” จะไม่ดีนัก
เพราะ “คาแร็กเตอร์” เหมือนกันเกินไป และไม่ผิดที่นัดนี้จะปรับ
คู่หน้า สเตอร์ลิง – เคน รวมความแล้วไปกันได้โดยมี อัลลี, ลินการ์ด กับวิงก์ 2 ข้างสนับสนุน
ขณะที่ยามเดินเครื่องเต็มสูบก็จะทิ้งเซนเตอร์ฯ ไว้เซ็ตบอลแค่ 2 คน และปล่อยอีก 8 คนสลับกันเข้าทำ
ทั้งหมดนี้ดีมากต้นเกมที่ผ่านทะลุหลัก 30 นาที เล่น “เนียนกริ๊บ” และตูนีเซีย ทำอะไรไม่ได้เลยด้วยการครองบอลมากกว่า 60% กับโอกาสใสกว่า 50-50 หลายครั้ง
เอาแค่ ลินการ์ด พลาดเองเหน่ง ๆ ก็ 2 หนแล้ว (แล้วอีก 2 หนหลังจากนี้ไม่นับ สโตนส์ เตะว่าวหน้าปากประตู และอื่น ๆ อีกมากมาย)
กลับมาเสียจุดโทษแบบน่าเสียดายจากความชะล่าใจนิด ๆ ไม่ละเอียดหน่อย ๆ ของ วอล์คเกอร์ ที่ไปยกแขนดักหน้า เบน ยูเซฟ ในกรอบเขตโทษจนโดนตีเสมอ 1-1
แบบนี้ “วัดใจ” ผู้เล่นอายุวัยรุ่นของอังกฤษเลยครับว่าจะ “ตอบโต้” อย่างไร?
ผมเห็นพฤติกรรมกุลีกุจรรีบคว้าบอลมาเขี่ยเริ่มเล่นใหม่แล้วก็รู้สึก “เบาใจ”
คิดว่า “ใจใหญ่” ใช้ได้ครับ แต่จะมุทะลุไร้ประสบการณ์ไปแค่ไหน คงต้องดูกันต่อไปไม่เฉพาะเกมนี้
เพราะหากไม่ได้ เคน มายิงประตูชัย 2-1 ช่วงทดเจ็บแล้ว Mood and Tone นัดนี้จะเป็นอีกแบบไปเลย
ภาพ ลอฟตัส-ชีค เปิดจากริมเส้นหลังเข้ากลางแต่เหมือน ลินการ์ด เรียกให้แรชฟอร์ดปล่อย แต่สุดท้ายตัวเองก็ไม่ได้ยิง นาทีที่ 80 กว่า ๆ คือ ตัวอย่างคลาสสิคที่สุดถึงความไม่พอดี
ขาด ๆ เกิน ๆ อันเป็น “สตอรี” ของเกมนัดนี้
แต่ทว่าต้องมอง “ให้บวก” เพราะมันคือ เส้นทางการเรียนรู้ของ สิงโตวัยเยาว์ “ไร้เดียงสา” ชุดนี้ครับ
(เพื่ออรรถรสอ่านบทความวิเคราะห์ทีมชาติอังกฤษล่าสุด >>
https://www.facebook.com/khaimukdam/posts/1656179374436928 ประกอบไปด้วยนะครับ)
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
photo hosting sites
“ปิศาจแดงยุโรป” ยังดีไม่พอ!
โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เริ่มต้นแคมเปญ “บอลโลก 2018” รอบคัดเลือกด้วยการเล่นระบบ 4-3-3 ในเกมบุกถล่มไซปรัส 3-0 ทว่าไม่พอใจ
จากนั้นในเกมนัดที่ 2 กับบอสเนีย ถัดมาอีก 1 เดือนกุนซือเลือดสแปนิช ปรับมาใช้ “หลัง 3” และยืนรูปแบบ 3-4-3 หรือจะเรียก 3-4-2-1 ก็แล้วแต่เหมือนกับ เชลซี ชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก 2016/17 ของอันโตนิโอ คอนเต้
บอสเนียโดนถล่ม 4-0 และนับจากนั้น มาร์ติเนซ ก็ใช้ระบบ “หลัง 3” มาตลอด และทำผลงานชนะ 9 เสมอ 1 (กับกรีซ) ในรอบคัดเลือก
-----------------------------------------
โดยที่ 11 นักเตะคนแรก “ในใจ” นิ่งมานานแล้ว
คูร์ตัว
อัลเดอร์ไวเรลด์ กอมปานี แฟร์ตองเกน
มูเนียร์ วิตเซล KDB คาร์รัสโก้
เมอร์เทนส์ อาซาร์
ลูคาคู
-----------------------------------------
และนิ่งกระทั่ง “บอลโลก 2018” รอบสุดท้ายที่หลังจากถูลู่ถูกัง และเข็นกัปตันทีมแวงซองต์ กอมปานี ลงไม่ได้
หวยจึงมาออกที่ดาวเตะเซลติก เดดริค โบยาต้า ลงเล่นแทน
ซึ่งเจ้าตัวไม่ใช่ “คาแร็กเตอร์” ของเซนเตอร์ฮาล์ฟตัวกลางในระบบ 3-4-3 ที่ควรจะ “ฉลาด” สมาร์ต คล่องตัวในยามอยู่กับบอล และสำคัญสุดคือ มีความสามารถลากเลื้อยพาบอลขึ้นมาเลยกึ่งกลางสนามได้
แฟร์ตองเกน และอัลเดอร์ไวเรลด์ ไม่มีปัญหา ในฝั่งซ้าย และขวาตามลำดับ โดยรายแรกเน้นลูกแข็งแกร่ง ดุดัน เสมือนตัวชน ขณะที่รายหลังจะสามารถพาบอลขึ้นสูงมาทำเกมได้มากกว่า
คู่กลาง วิตเซล – เดอบรอยน์ ผมมองว่า “เคมี” อาจไม่ได้ และทั้งคู่ไม่ใช่ว่า ไม่ดี แต่วิตเซล เทียบไปแล้วก็เหมือน ไมเคิล คาร์ริค คือ เล่นบอล “สปีดเดียว” ส่วนเดอบรอยน์ ถนัดไปทางรุกมากกว่าจะ “ครบเครื่อง” อันเป็นคุณสมบัติสำคัญในตำแหน่งนี้
คนที่เหมาะแน่ ๆ 1 คน คือ มุสซา เดมเบเล และอีกคนที่นึกออก (แต่ไม่ได้มา) คือ เนียงโกลัน หากคู่นี้ยืนคู่กันน่าจะเหมาะสม (คหสต.)
ริมเส้น 2 ข้าง: คาร์ราสโก้ และมูเนียร์ มีธรรมชาติเป็นตัวบุกอยู่แล้ว สามารถเล่นได้สบาย ๆ แต่เกมรับอาจมีปัญหา เฉพาะอย่างยิ่งคู่กลางทั้ง KDB และวิตเซล ไม่ใช่ตัวตัดเกมอาชีพ
แดนหน้า 3 คน: อาซาร์ ไม่มีปัญหาทางซ้าย ตรงกลาง ลูคาคู ก็ “ตรงสเปค” กับบทบาทตัวพักบอล ส่วนด้านขวา ดรีส์ เมอร์เทนส์ ก็มีความเร็ว และทำหน้าที่ได้ไม่ต่างจากกัปตันทีม อาซาร์ เพียงแต่อยู่คนละฝั่ง
รวมความแล้ว คหสต. มองว่า ทีมชุดนี้มีนักเตะตัวรุกเพียบ สำรองเด่น ๆ ยังมีอีกเป็นเข่ง แต่อาจจะขาดผู้เล่นตัวรับดี ๆ ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ และฟูลแบ็คโดน ๆ
จุดนี้น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญให้ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ตัดสินใจเล่น “หลัง 3” และขนมิดฟิลด์ แนวรุกอเนกประสงค์เล่นกลางได้, ริมเส้นได้, แดนหน้าได้มาหลายคน
ทีมชุดนี้จะให้ดี คือ ต้องดันสูงครึ่งสนาม และบุกเต็มรูปแบบ 8 ตัว เหลือเซนเตอร์ฯ เซ็ตบอลแค่ 2 คนอันทำให้บทบาทของ วิตเซล และ “แบ็ค 3” ค่อนข้างสำคัญในการรักษาสมดุล
(ตอนนี้กลายเป็น โบยาต้า ยืนห้อยเฉย ๆ เหมือนเสียตัวไปฟรี ๆ 1 คน ณ ในเกมที่ ปานามาก็ไม่ได้มีตัวรุกมาปั่นป่วนใด ๆ)
เฉพาะอย่างยิ่งหากโดนโต้กลับที่มี “หน้าที่” ต้องโคเวอร์ตำแหน่งเพื่อน ๆ โดยเฉพาะริมเส้นหลังฟูลแบ็คเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากองหลังโดนเลี้ยงจี้เข้าหาเอาปืน “จ่อหัว” แบบเยอรมันโดนเม็กซิโก คืนก่อนหน้านี้
ผมประเมินเร็ว ๆ ทีมชุดนี้ แค่ดีในระดับหนึ่ง และ “กุญแจ” แห่งความสำเร็จจะอยู่ที่เกมรับที่ แฟร์มาเล่น-อัลเดอร์ไวเรลด์ ต้องไม่เจ็บป่วย โดนโทษแบน ขณะที่กอมปานี ต้องหายไว ๆ
อีกส่วน (ที่คงเป็นไปไม่ได้) คือ การปรับ หรือสลับคู่กลาง เช่น KDB ไปแทน เมอร์เทนส์ แล้วใช้วิตเซล กับเดมเบเล่ หรือ “False 9” ใช้อาซาร์ ยืนหน้า ขนาบด้วย KDB และเมอร์เทนส์ ที่ยิงเทคนิคใบไม้ร่วงสุดสวย 1-0 ได้
ทั้งนี้ก็เพื่อ “บาลานซ์” คาแร็กเตอร์ของทีมให้เหมาะกับ 3-4-3 เพราะการเจอคู่แข่งอ่อน ๆ เช่นรอบคัดเลือก หรือปานามา
ไม่ได้ “ทดสอบ” ระบบ และบาลานซ์ของทีมปิศาจแดงยุโรป
แต่ในเกมที่เจอคู่แข่งเกรด เอ เชื่อขนมกินได้ว่า จะมีปัญหาดังที่ผมเรียนไว้ข้างต้นแน่ ๆ ดังที่ประสบตอนอุ่นเกือกกับเม็กซิโก หรือญี่ปุ่น
มันจึงเป็นที่มาว่าทำไม ดูเบลเยียมแล้วนึกถึง “ขาโหด” เนียงโกลัน ในตำแหน่งคู่กลาง เหมือนดูเยอรมันแล้วนึกถึง เลอรอย ซาเน่
รวมความแล้ว ผมแอบรู้สึกว่า เบลเยียม ดีจริง แต่ยัง “ดีไม่พอ” ครับ
...ฟุตบอลมันส์ ๆ ครบทุกรสชาติแบบนี้ทั้งที่เริ่มมาไม่กี่วัน จะชมได้มีอรรถรสที่สุดผ่านระบบ 4K นะครับ เพราะหลังจาก VAR, Goal Line Technology ได้ใช้ไปแล้ว
พลิกล็อก, พลาดจุดโทษ, ตัวเต็งบรรเลงครบ ฯลฯ มีไปแล้ว แต่ก็เชื่อเถอะครับ ยังจะมีอีกหลาย “ไคลแม็กซ์” ตามมา
การติดตั้งกล่อง TrueVisions 4K Ultra HD วันนี้ มีโปรโมชั่นสุดเร้าใจมาพร้อมทีวี SAMSUNG 4K UHD 55 นิ้ว ราคาพิเศษ!! รวมเพียง 16,500 บาท (จากปกติ 33,490 บาท) โทร.1242
สมาชิกแพลทินัมที่จองติดตั้งกล่องไปแล้วตั้งแต่ 15 พ.ค. 2561 เป็นต้นมา ขอรับสิทธิ์นี้ และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ได้เช่นกัน โปรโมชั่นตั้งแต่ 12 มิ.ย. 2561 ถึง 30 มิ.ย. 2561 (ของมีจำนวนจำกัด)
เพื่อจะได้ชม “บอลโลก 4K” ครั้งแรกของโลกนะครับ
“ไข่มุกดำ”
+++
https://facebook.com/khaimukdam +++
+++ in partnership with
https://sportdesk.co +++