ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
13 June 2018 09:26 by Narueta
เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018


เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018



1.ถึงเวลา “แซมบา” แชมป์โลก “สมัยที่ 6”

การที่ซุปตาร์ “เนย์มาร์” เจ็บกระดูกเท้าแตกไป 3 เดือนก่อนจะคัมแบ็กกลับมาทันรับใช้ชาติสู้ศึก “บอลโลก 2018” แบบทันเวลาพอดิบพอดี

และทันท่วงทีแบบ “สดชื่น” ไม่ล้าจากการกรำศึกเต็มฤดูกาล รวมกับผลงานช่วงโค้งสุดท้ายอุ่นเครื่องฟอร์มเด็ดดวงที่สุด น่าจะเป็น “เหตุผล” หลักให้ทัพนักเตะ “เซเลเซา” ถูกสถาปนาขึ้นแท่น “เต็ง 1” ในสายตาบริษัทรับพนันถูกต้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ผลงานที่ดีต่อเนื่องของทีมในยุคกุนซือ “ติเต้” ผนวกกับการที่บอลโลกหนนี้ บราซิลไม่ได้มี “อาวุธ” เพียงแค่ เนย์มาร์ เจ้าของผลงานถล่ม 55 ประตูเทียบเท่า โรมาริโอ เท่านั้น

ยิ่งทำให้บราซิลชุดนี้ดูดี หลังผลงานที่ผ่าน ๆ มาดูมองว่า พึ่งเนย์มาร์ให้เป็น “เดอะ แบก” มากไป

นักเตะหลายคนเติบโตขึ้นจากเมื่อ 4 ปีก่อน แถมกุนซือ “ติเต้” นำนโยบายหมุนเวียนกัปตันทีม และใช้ผู้เล่นถึง 16 คนสลับมารับตำแหน่งสำคัญของชาตินับจากเทคโอเวอร์ เดือน มิ.ย.2016

แน่นอนว่า ตำแหน่ง “กัปตันทีม” ได้แบ่งเบาภาระ “ผู้นำ” ทั้งทางพฤตินัย และนิตินัยออกจากเนย์มาร์ได้มาก แม้ดาวเตะเปแอสเช คือ คนที่สวมปลอกแขนพาทีมชาติคว้าแชมป์ “โอลิมปิก 2016” ครั้งแรกได้สำเร็จก็ตาม

การมีนักเตะชั้นดีพุ่งขึ้นมา ผสมผสานกับแนวทางการเล่นบอลรุก ไลน์แนวรับดันขึ้นสูงต่างจากยุค หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี และคาร์ลอส ดุงก้า ทำให้ “สมดุล” ภายในทีมระบบ 4-3-3 (“ติเต้” จะพึงพอใจจะเรียกว่าเป็น 4-1-4-1 มากกว่า) ทั้งเกมรับ และรุกดู “เนียนตา” ในแบบฉบับ บราซิล มากขึ้น

นักเตะตั้งแต่นายทวารระดับ 100 ล้านปอนด์ อลิสซง, เกมรับตรงกลาง เจา มิรันด้า/ติอาโก้ ซิลวา โดยมี คาเซมิโร่ ปกป้องด้านหน้าร่วมกับกลางแกร่ง ๆ อย่าง เฟอร์นันดินโญ่/เปาลินโญ่

กลายเป็น “แพลตฟอร์ม” รากฐานที่แข็งแกร่งของทีม

เกมรุก จึง “รีดพลัง” นักเตะคาแร็กเตอร์ ครีเอทีฟ อย่าง วิลเลียน, คูตินโญ่, เฟียร์มิโน่, ดักกลาส คอสต้า ร่วมกับ กาเบรียล เฆซุส และเนย์มาร์ ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย และมีมิติน่าตื่นตาตื่นใจ

หลัก ๆ แล้ว เนย์มาร์จะเล่นกองหน้าด้านซ้ายเหมือนที่เล่นให้ บาร์ซ่า และเปแอสเช ขณะที่ เฆซุสจะยืนตัวกลาง โดยต้องเบียดตำแหน่งกับเฟียร์มิโน่ ที่โดดเด่นคนละแบบ

ในส่วนมิดฟิลด์ตัวรุก และกองหน้าฝั่งขวาจะสามารถสลับตำแหน่งได้หมดจากรายชื่อข้างต้นที่ถือว่า “อันตราย” และเป็นออฟชั่นที่หลากหลายมาก

นี่ยังไม่รวม “จุดเด่น” ริมเส้นจาก มาร์เซโล่, เฟลิเป้ หลุยส์ หรือดานิโล่

รวมความแล้ว ทีมชุดนี้จะ “ลงตัว”, แข็งแกร่งกว่าชุด “อกหัก” พักบ้านนี้ใน “บอลโลก 2014” และดีพอลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 6 อย่างไม่ต้องสงสัย

โดยที่ “เนย์มาร์” ไม่ใช่ “เดอะ แบก” อีกต่อไป



2. “4 เหตุผล” ทำไมเยอรมันมีสิทธิ์ป้องกันแชมป์

การ “ไม่เลือก” เลอรอย ซาเน่ เป็น 1 ใน 23 ขุนพลเยอรมันชุดป้องกัน “แชมป์โลก” คือ 1 ใน 4 เหตุผลที่จะพิสูจน์ในบั้นปลายว่า ทำไม “เยอรมัน” จึงมีสิทธิ์เป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์โลกได้สำเร็จ นับจาก “บราซิล” ที่ทำได้ในปี 1958 ตามด้วย 1962

มันคืองานที่ “ยาก” ถึง “ยากมาก” และอาจจะ “ยากที่สุด” แต่หากจะมีทีมที่ทำได้ ทีมนั้นจะเป็น เยอรมัน ภายใต้การนำทัพของ โยอาคิม เลิฟ!?

เหตุผลง่าย ๆ 4 ข้อว่า ทำไมเยอรมันจึงพร้อมคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ในบอลโลกที่รัสเซียครั้งนี้:

1.การมี โจอาคิม เลิฟ เป็นกุนซือมากประสบการณ์ในเวทีนานาชาติโดยเป็นผู้ช่วย เยอร์เก้น คลินส์มันน์ ตั้งแต่ 2004 ก่อนจะรับตำแหน่งเต็มตัวหลังจบบอลโลก 2006 ถึงปัจจุบัน

การได้เลือก จูเลียน แดร็กเลอร์, จูเลียน แบรนด์ท และมาร์โก้ รอยส์ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ฝั่งซ้าย แทน เลอรอย ซาเน่ ที่เลิฟ คาดการณ์ว่า ยังอายุน้อย และไม่ถึงเวลาในระดับชาติ

จะได้รับการ “พิสูจน์” ว่าถูกต้องหรือไม่ในเร็ววันนี้ที่ “รัสเซีย”

2.แต่ละ “ตำแหน่ง” ไม่ว่าจะเล่น “หลัง 4” หรือ “หลัง 3” กุนซือเยอรมันสามารถเลือกผู้เล่นชั้นเลิศจาก 23 คนชุดนี้ได้เกือบเท่า ๆ กันตำแหน่งละ 2-3 คน เช่น ที่สามารถตัดซาเน่ ออกไปจากโควต้าริมเส้นฝั่งซ้าย

ดังนั้น ทีมชุดนี้จึงกล่าวได้ว่า ไม่เป็นรอง และอาจจะมี “ออฟชั่น” ให้เลือกมากกว่าชุดแชมป์โลก 2014 ด้วยซ้ำ

3.ด้วยการวางฐานที่ดี และระบบการเล่นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับระดับสโมสร โดยเฉพาะบาเยิร์น มิวนิค ฉะนั้นมันจึง “สอดคล้อง” และไม่ใช่งานยากสำหรับการเลือกใช้ผู้เล่น วิธีการวางระบบ และรูปแบบการเล่นของทีมชาติอินทรีเหล็ก

4.สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน หรือ เดเอฟเบ (DFB) คือ ที่สุดเรื่องการบริหารจัดการ และดูแลทีมชาติชนิดมีประโยคกล่าวว่า No stone is left unturned หรือ ไม่มีก้อนหินก้อนใดเล็ดลอดสายตา และที่ไม่ได้ถูกพลิกดูสิ่งแปลกปลอมเกาะติดอยู่โดย “เดเอฟเบ”

นั่นแสดงให้เห็นว่า “เดเอฟเบ” ละเอียด และละเมียดจริง ๆ ในการวางแผนเตรียมตัวให้ทีมชาติมีความพร้อมที่สุดสำหรับศึกบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย



3. “จุดเปลี่ยน” สเปนใน “บอลโลก 2018”

การประกาศ “ฟ้าผ่า” แต่งตั้ง ฆูเลน โลเปเตกี เป็นกุนซือคนใหม่ของ เรอัล มาดริด เป็นเวลา 3 ปีหลังจบ “บอลโลก 2018” ณ เวลาก่อนเกมนัดแรกทีมชาติสเปนในบอลโลกหนนี้กับโปรตุเกสเพียง 3 วัน

ถือเป็นไทม์มิ่งที่ “โหด” และช็อกวงการฟุตบอลอย่างยิ่ง!

คำถามตามมามากมายครับ เช่น มาบอกอะไรตอนนี้? ทำไมไม่รอให้จบบอลโลก? เป็นโลเปเตกีแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยได้อย่างไร? เป็นไปได้ยังไงทั้งที่เมื่อเดือนที่แล้ว โลเปเตกีเพิ่งต่อสัญญาออกไปอีก 3 ปีถึง 2020?

ฯลฯ และ ฯลฯ

ประเด็น “ข่าวนี้” ผมแยกเป็น 2 ส่วนครับ:
1.กุนซือวัย 51 ปีกำลังพาสเปนเล่นฟุตบอลได้สวยงาม และมีประสิทธิภาพอีกครั้ง โดยเฉพาะยิ่งในแมตช์อุ่นเครื่อง มี.ค.ที่ผ่านมาที่ถล่มอาร์เจนติน่า ยับเยิน 6-1

โดยในส่วนผลงานหลังเข้ารับตำแหน่ง มิ.ย.2016 และพาทีมลุยแคมเปญบอลโลกด้วยระบบ 4-2-3-1 ก็จัดว่า เข้าที่เข้าทาง และ “ตอกย้ำ” การเป็นกุนซือระดับนานาชาติที่ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี

หลังก่อนหน้านั้นพาสเปนชุดเล็กทั้ง ยู-19 และ ยู-21 ปีคว้าแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ

ทว่าผลงานระดับสโมสรไม่สู้ดีนักก่อนหน้านี้ เพราะมีทั้งโดนไล่ออกจาก ราโย่ บาเญกาโน่ และไม่ประสบความสำเร็จกับ 2 ซีซั่นถิ่นปอร์โต้ โปรตุเกส 2014-16

การรับงานครั้งนี้จึงเหมือนมี “ความเสี่ยง” อยู่บ้างสำหรับมาดริด เพราะโลเปเตกี ไม่ใช่เทพมี “โทรฟี่” หรือได้ประกาศศักดาใด ๆ ระดับสโมสรทิ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน “ยิ่งเสี่ยง” กับทีมชาติสเปน ณ เวลาการประกาศที่ไม่ใช่แค่ กระทำทั้งที่ยังมีสัญญาเหลืออยู่ แต่ยังเป็นการแจ้งก่อนทัวร์นาเมนท์สำคัญที่สุดในโลกชนิด “เฉียดฉิว” มาก

ผมถึงได้ตั้งชื่อเรื่องวันนี้ว่า “turning point” หรือ “จุดเปลี่ยน” ทีมชาติสเปน ครับ

2.จังหวะการ “ทิ้งระเบิด” แบบนี้ทำให้ผมนึกถึงตอน อันโตนิโอ คอนเต้ ประกาศก่อนจะคุมอิตาลีลุย “ยูโร 2016” รอบสุดท้าย 2-3 เดือนว่า เตรียมจะมาคุม เชลซี พร้อมลิสต์ชื่อนักเตะที่ต้องการให้ยอดทีมลอนดอนล่วงหน้า

งานนั้น แม้จะไม่เหมาะสม แต่ก็ยัง 2-3 เดือนครับ หาใช่ 2-3 วันเหมือน “งานนี้”

อีกครั้ง คือ ย้อนไปเดือน ม.ค.2016 ที่ สเวน โกรัน เอริคส์สัน โดน “ชีคปลอม” มาเซอร์ มาห์มูด แหล่งข่าว “News of the World” หลอกไปประชุมที่ดูไบด้วย 2 หน

สุดท้าย สเวน เพียงแค่พูดว่า “จะออกจากตำแหน่งหากพาอังกฤษได้แชมป์โลก 2006 และจะไปคุมทีมแอสตัน วิลล่า หากชีคไปซื้อสโมสร” พร้อมรับปากจะช่วยติดต่อสตาร์ดังอย่าง เดวิด เบคแคม หรือไมเคิล โอเว่น มาร่วมทีมได้

การพูดครั้งนั้น เป็นการพูดก่อนหมดสัญญา 2 ปี และไม่ได้มีอะไรใน “กอไผ่” มากนัก แต่เพราะนี่คือ ตำแหน่งกุนซือทีมชาติ อังกฤษอันยิ่งใหญ่ และมีศักดิ์ศรี

“คนคนนั้นต้องรอให้ถูกบอกเลิกสัญญา โดนไล่ออก หรือหมดสัญญาเท่านั้น จึงจะคุยงานใหม่ได้” สเวน เคยกล่าวเอาไว้หลังออกจากตำแหน่งมาแล้ว

ทั้งนี้ หลังข่าวสะพัดจากหนังสือพิมพ์ “News of the World” ไม่กี่วัน สมาคมฟุตบอลอังกฤษก็เรียกสเวนเข้าพบก่อนประกาศแยกทางกับสเวนหลังจบบอลโลก 2006

เรียกได้ว่า เพราะ “ไปคุย” ก่อนหมดสัญญาโดยไม่ได้จริงจังอะไรมากมาย

แต่ถือว่า “ไม่เหมาะสม” ตามวัฒนธรรมอังกฤษ

ทว่ากรณี คอนเต้, โลเปเตกี ที่คุย “จนจบ” คุยจริงจังขณะยังอยู่ในหน้าที่ ลองคิดดูครับว่า แย่ขนาดไหน?

และงานนี้จะส่งผล “กระทบ” ต่อผลงานฟุตบอลโลก 2018 ของทีมชาติสเปน กับศึกใหญ่ระดับชาติหนสุดท้ายของ อังเดรส อินิเอสต้า ที่หวัง “ทิ้งทวน” แบบมืออาชีพ และสมศักดิ์ศรีเพียงใด

น่าติดตามยิ่งครับกับทัพสเปน “เต็ง 3” ที่รัสเซียหนนี้...



4. + 5. ใครคือ“ผู้นำ” ฝรั่งเศส? กับอะไร ๆ ก็ “เมสซี่”

4.
นับจาก ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส เข้ารับตำแหน่งหลังจบ “ยูโร 2012” ผลงานทีมชาติฝรั่งเศสจัดว่า “ไม่ขี้เหร่” อย่างมากโดยเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย “บอลโลก 2014” ก่อนพ่ายให้แชมป์โลก เยอรมัน

ตามด้วยเข้าชิงชนะเลิศ “ยูโร 2016” ก่อนแพ้พลิกล็อกให้ โปรตุเกส ทั้งที่สามารถเอาชนะเยอรมันมาได้แล้วในรอบตัดเชือก!

ล่าสุด ผลงานในรอบคัดเลือกก็ “ฉลุย” ในกลุ่มที่น็อคเอ๊าท์ ฮอลแลนด์ ตกรอบใน 10 เกมเก็บได้ 23 คะแนน และมีแมตช์แห่งความทรงจำกระหน่ำดัตช์ 4-0 คากรุงปารีส

ขณะที่ ฮูโก้ ยอริส พลาดในเกมเดียวที่แพ้สวีเดน 1-2 อัน “ฉายภาพ” เหมือนกันว่า บางทีความสม่ำเสมอ ก็คือ ปํญหาที่ทีมชาติฝรั่งเศสต้องแก้ไข เพราะมันเกิดขึ้นทุกยุคสมัยที่บางทีมีพลาดง่าย ๆ

หรือจะปัญหาในแคมป์ เช่น การสไตร์คตอน “บอลโลก 2010”, คดีความเบนเซม่า ก่อน “ยูโร 2016”

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะครั้งไหน ฝรั่งเศสในบอลโลกหนนี้ดูเหมือนจะมี “ความพร้อม” สูงสุดในเรื่องตัวผู้เล่น เฉพาะอย่างยิ่งแนวรุกถึงขั้นสามารถตัดชื่อ อองโตนี่ มักซิญัล และอเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ออกไปได้

ทีม “สปิริต” ก็มาเต็ม เพราะได้รับการประคบประหงมจากเดส์ชองป์ส ที่ถนัดใช้งานนักเตะดาวรุ่ง มุ่งมั่น วินัยดี และฝึกให้ทีม “เลอ เบลอส์” เท้าอยู่กับดิน ไม่เหลิง อันเป็นความน่าสนใจ และช่วยเพิ่ม “มูลค่า” ให้ทีมชุดนี้

Coaching Points: ระบบวิธีการเล่นที่ “ลงตัว”
ระบบการเล่น “หลัง 4” ถูกใช้มาตลอดโดยมีกองกลางไดนามิค 3 ตัวนำโดย กองเต้ และมาตุยดี้ สามารถทำให้ทีมเล่น 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 ได้ โดยอีกตัวไม่ว่าจะเป็น ป๊อกบา, เอ็นซองซี่, โตลิสโซ่ ฯลฯ ล้วนแข็งแกร่ง พลังงานสูง

เสริมด้วยกองหน้าความเร็วจัดนำโดย กรีซมันน์, เอ็มบัปเป้, เดมเบเล่, เฟคีร์, เลอมาร์ โดยมีหน้าเป้าตัวใหญ่เก็บบอล อย่าง ชิรูด์ เป็นตัวค้ำในสไตล์ถนัดของเดส์ชอปส์

ประตู ญอริส เป็นกัปตันทีม ขณะที่เกมรับอาจจะดูด้อยสุดในทีมชุดนี้ แต่ชื่อชั้นของ วาราน, อุมติตี้, รามี่, ซิดิเบ้ ก็จัดว่าอยู่ในระดับ “ตัวท็อป” ยุโรปสบาย ๆ

อันจะทำให้ทีมชุดนี้มี “จุดเด่น” ในการจู่โจมริมเส้นที่รวดเร็ว และกองหน้าที่ “เคาท์เตอร์แอทแทค” ได้สุดยอด ขณะที่มีแดนกลาง “ตัดเกม” กระจายระดับโลกที่จะช่วยให้การเล่น “เพรสซิ่ง”, บอลเร็ว, บอลรุก มีประสิทธิภาพพอจะ “ชดเชย” เกมรับที่ยังมีแกว่งบ้างในบางที

A team in need of leadership: ทีมนี้ต้องการ “ผู้นำ”
อย่างไรก็ดี จุดสุดท้าย คือ เรื่อง “ผู้นำ” ที่ฮูโก้ ญอริส ในฐานะติดทีมชาติสูงสุดไม่ใช่ “ต้นแบบ” ลักษณะเดส์ชองป์ส ตอนพาทีมคว้าแชมป์ “บอลโลก 98” และ “ยูโร 2000”

หรือเหมือน มิเชล พลาตินี่ ยุค 80s กับเจ้าของแชมป์ “ยูโร 84” ควบผลงานกระเดื่องในเวทีนานาชาติสร้างตำนาน 4 ทหารเสือ พลาตินี่-ติกาน่า-แฟร์นองเดซ-จิแรส

ยิ่งในทีมที่เฉลี่ยแล้วอายุไม่มาก บทบาท “ผู้นำ” จึงต้องตกอยู่นอกสนามบนบ่าอันหนักอึ้งของ ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส นั่นเอง...



5.
ทีมฟ้าขาว อาร์เจนติน่า เจ้าของดีกรี รองแชมป์เก่า เข้าชิงฟุตบอลโลกสมัยที่แล้วด้วยสไตล์ “รัดกุม” ครั้งนี้หากจะประสบความสำเร็จให้ได้ “ใกล้เคียง” อีกครั้ง

กุนซือ ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ก็คงต้องใช้ “กลยุทธ์” และแนวทางการเล่นไม่แตกต่างไปจากเดิมนัก

ซึ่งจริง ๆ ในรอบคัดเลือกก็ใช้วิธีการนี้ก่อนจะเข้าสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จแบบฉิวเฉียดที่นัดสุดท้ายกับ “แคมเปญนรก” ที่ใช้กุนซือ ถึง 3 คน

นอกจากแนวทางการเล่นแล้ว อีก “ปัจจัย” สำคัญที่กุนซือซัมเปาลี และทัพนักเตะชุดนี้ต้องทำให้ คือ “เค้นฟอร์ม” ลิโอเนล เมสซี่ ออกมาให้ได้

เพราะจะว่าไปแล้ว เมสซี่ นี่แหละ คือ “เดอะ แบก” ทีมตัวจริง เสียงจริง

เฉกเช่น การอุ่นเกือกแมตช์เดียวกับเฮติที่เมสซี่ กด “แฮตทริก” ชนะ 4-0 ในช่วงเวลาที่กุนซือเลือดชิลี สนใจจะเน้นแท็คติกในสนามซ้อมมากกว่าจะอุ่นเครื่อง

ตามเหตุผลที่ให้ไว้จากการยกเลิกแมตช์กับ นิคารากัว และอิสราเอล

นอกจากเมสซี่แล้ว “จุดเด่น” ทีมชุดนี้ยังคงต้องฝากไว้ที่เกมรุกกับตัวผู้เล่นอย่าง กุน อเกวโร่, กอนซาโล่ ฮิกัวอิน, อังเคล ดิ มาเรีย, เปาโล ดิบาล่า

แต่เกมรับ ไม่ว่าจะเล่น “หลัง 3” หรือปรับมา “หลัง 4” เช่นที่โดนสเปน กดยับ 6-1 ก็ถือว่า ยังไม่น่าไว้ใจ แม้จะมีชื่ออย่าง โอตาเมนดี้, ฟาซิโอ, มาสเคราโน่ ก็ตาม ณ เวลาที่นายทวารตัวจริง แซร์โจ้ โรเมโร่ หายเจ็บไม่ทัน

ฉะนั้น และฉะนี้ “สถานเดียว” ก็คือ เมสซี่ ต้องออกฟอร์ม “ต่างดาว” ให้ได้เหมือน ดิเอโก้ มาราโดน่า ในบอลโลก 1986 เพื่อ “ความหวัง” ของอาร์เจนติน่า ครับ

“ไข่มุกดำ”
https://www.facebook.com/khaimukdam/

------------------------------------------------
<ad>
ติดตั้งกล่อง TrueVisions 4K Ultra HD วันนี้
พร้อมทีวี SAMSUNG 4K UHD 55 นิ้ว ราคาพิเศษ!! รวมเพียง 16,500 บาท (จากปกติ 33,490 บาท)
สมาชิกแพลทินัมที่จองติดตั้งกล่องไปแล้วตั้งแต่ 15 พ.ค. 2561 เป็นต้นมา ขอรับสิทธิ์นี้ และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ได้เช่นกัน โปรโมชั่นตั้งแต่ 12 มิ.ย. 2561 ถึง 30 มิ.ย. 2561 (ของมีจำนวนจำกัด)

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/Truevisions/photos/a.329252377141420.83006.326901627376495/1911889602211015/?type=3&amp;theater
แก้ไขล่าสุดโดย Narueta เมื่อ Wed Jun 13, 2018 09:27, ทั้งหมด 1 ครั้ง
10
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Aug 2009
ตอบ: 33789
ที่อยู่: Architecture l KMITL
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 09:28
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
มั่นใจว่าบราซิลแชมป์โลกแน่นอน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status: เอาที่สบายใจล่ะกัน!!!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Nov 2014
ตอบ: 7423
ที่อยู่: ไม่เสือกดิ...
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 09:39
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
" jurassic world cup 2018"







8
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน




ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Jul 2007
ตอบ: 1956
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 09:41
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
ลุ้นเยอรมันป้องกันแชมป์โลกเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ฟุตบอลชาติตัวเอง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: 손주연: 이젠 날 안 묶어둘래 좀 더 자유롭게 진짜 날 찾을래
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Aug 2008
ตอบ: 16961
ที่อยู่: Tower Records Shibuya
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 09:45
[RE]เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018
ตกลงเหตุผลที่สเปนจะเป็นแชมป์ คือโลเปเตกีไปคุมมาดริด
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
우주소녀: LAST SEQUENCE
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 949
ที่อยู่: 201 E. Jefferson Street Phoenix, Arizona, 85004
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 09:46
ถูกแบนแล้ว
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
โปรตุเกสผมไม่อยู่ในสายตาเลยหรอ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: OIL CAN NOT BUY xxxxx
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4469
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 10:23
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
ถึงคราวอาเจนแล้วปีนี้ บอลทรงไม่สวยเล่นตะกุกตะกักนี่แหละ มันฟอร์มแชมป์
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Un sot trouve toujours un plus sot qui I'admire.
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status: MIA SAN MIA
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Apr 2010
ตอบ: 9603
ที่อยู่: ---
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 10:43
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
4 เหตุผลของเยอรมันนั้น ข้อ 2 ไม่น่าใช่เหตุผลเลยซักนิด

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 31
ที่อยู่: 190 ม.3 ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 10:50
เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018
ถ้าไม่ใช่บราชิล ก็ต้องมีม้ามืด อย่างเบลเยี่ยมหรือไม่โปรตุเกส อีกทีมที่น่าจับตาคือ อุรุกวัย ยิ่งถ้ารอบลึกๆยิ่งน่ากลัว ตัวเก๋าๆเขี้ยวๆเต็มทีมเลย ทีมเน้นรัดกุมแพ้ยากๆเข้าไว้แล้วหน้าคมๆนี่น่ากลัวมาก
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: Mes Que Un Club.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Mar 2010
ตอบ: 17240
ที่อยู่: Camp Nou , Barcelona
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 12:56
เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018
ไม่พ้นพวกนี้แหละ ยกเว้นพวกพกดวงมาแท้ๆ

เบลเยี่ยม อังกฤษ โปรตุเกส อุรุกวัย อาเจน พวกนี้ตัวสอดแทรกแน่ๆ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 550
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 12:58
เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018
ด้วยประสบการณ์ในเวทียุโรปที่ผ่านมาและชื่อเสียงของนักเตะเบลเยี่ยม ปีนี้จึงขอเชียร์เบลเยี่ยมล่ะกัน
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 3010
ที่อยู่: ไทยแลนด์ ปู๊น ปู๊น
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 13:08
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
ตอนนี้เชียร์
บราชิล - ดูจากรายชื่อและฟอร์มช่วงอุ่นเครื่องก็ดูดี
เยอรมันนี - มาตราฐานการเล่นสม่ำเสมอ ทดแทนกันได้เนียนตา
ส่วนทีมที่น่าจะสอดแทรกได้ เบลเยี่ยม สเปน อาเจน อุรุกวัย

** ใจจริงอยากให้อิตาลีมาด้วย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Nov 2014
ตอบ: 1983
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 13:19
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
ไม่ได้เอาฮา แต่เชียร์อังกฤษสุดดใจ. ถึงทีม โค้ช นักเตะจะดูไม่ดีเท่าทีมอื่นๆก้เถอะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status: รักกัน รักกัน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Sep 2006
ตอบ: 3543
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 13:32
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
"นายทวารระดับ 100 ล้านปอนด์ อลิสซง" คืออะไรครับ ตั้งแต่เมื่อไหร่ งง

ปล. ไม่มีเฟรดเด้อแฟนผี
แก้ไขล่าสุดโดย omega3 เมื่อ Wed Jun 13, 2018 13:38, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status: พ.ม.ต. ย่อมาจากพี่มีตังค์
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Sep 2009
ตอบ: 2034
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jun 13, 2018 13:42
[RE: เจาะลึก 3+2 “ว่าที่” แชมป์บอลโลก 2018]
ใครก็ได้ที่ไม่ใช่บราซิล ไม่ชอบเนย์มาร์
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel