โดเมนิโก้ คริสซิโต้ ปราการหลังทีมชาติอิตาลีรู้สึกกังขาอย่างมากที่โดนผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญโดน ฮอลแลนด์ อาศัยตัวผู้เล่นมากกว่าไล่ตามตีเสมอในช่วงท้ายเกม

เหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นหลังจาก ซิโมเน่ ซาซ่า สังหารให้ "อัซซูรี่" ออกนำไปก่อน 1-0 ในนาที 67 แต่ทว่าอีก 2 นาทีต่อมา คริสซิโต้ โดนผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกหลังไปเสียบ ไรอัน บาเบิ้ล กำลังจะหลุดเข้าไปยิง

หลังจบเกมอดีตแบ็คซ้ายทีมยูเวนตุสเจ้าของต้นเหตุกล่าวขอโทษไปยังเหล่าประชาชนที่ทำให้ผิดหวังและยอมรับว่าจนถึงตอนนี้เขายังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมกรรมการโหดร้ายเกินไปควักใบแดงไล่ออกโดยตรงแบบไม่มีการเตือนมาก่อน

"ผมขอเข้าไปคุยกับผู้ตัดสิน ผมบอกว่านี่เป็นเกมกระชับมิตรนะ เขาควรแค่แจกใบเหลืองก็พอแล้ว เพราะไม่ใช่การทำฟาวล์ที่่ร้ายแรงอะไร" คริสซิโต้บ่นอุบผ่านสถานีโทรทัศน์ชื่อดังแห่งแดนพิซซ่า ไร สปอร์ต หลังจบเกม

"แต่บางทีผมอาจจะเป็นตัวสุดท้ายที่ไปสกัดผู้เล่นฝั่งตรงข้ามในจังหวะหลุดเข้าไปยิง แต่ผมต้องการขอคำอธิบายไม่ใช่มโนไปเองแบบนี้ เพราะผมรู้สึกกังขาเหลือเกิน"

"อย่างไรก็ตามผมพยายามและทุ่มเทอย่างสุดความสามารถเพื่อประเทศชาติในทุกๆเกมที่ได้รับโอกาสลงสนาม ผมจึงขอขอบคุณที่ผมได้รับโอกาสนี้"

ขณะเดียวกันผลงานทั้ง 3 นัดภายใต้การนำของกุนซือคนหนุ่ม โรแบร์โต้ มันชินี่ ชนะ,เสมอและแพ้อย่างละเท่าๆกันแต่ถึงกระนั้น คริสซิโต้ ยังมองโลกแง่ดีว่า

"นี่เป็นขุมกำลังที่เต็มไปด้วยดาวรุ่ง ผมคิดว่าเราทำได้ดีในเกมที่ผ่านๆมาและเรากำลังเดินมาถูกทางแล้ว หากเรารักษาความต่อเนื่อง สิ่งดีๆก็จะตามมาเอง"

โอ้วกลับมาแล้วหลังจากหายไปนาน แล้วก็โดนแดงเลย สุดจริง

ย้ายไปลีครัสเซียเสียของมาก

ก็มันเป็นตัวสุดท้าย กฎก็ต้องเป็นกฎ เพราะถ้าหลุดเข้าไปมันมีโอกาสได้ประตูสูงมากอยู่แล้ว

ถ้าบอกว่าเป็นเกมกระชับมิตร ไม่ควรให้ใบแดง ก็ปล่อยๆเค้าเข้าไปยิงสิ สมานฉันท์

กฎของฟีฟ่าเรื่องนี้ปรับเปลี่ยนแล้วเมื่อ 1 ก.ค.2016 โปรเฟสชั่นแนล ฟาวล์ (กองหลังตัวสุดท้ายทำฟาวล์กองหน้าที่หลุดเดี่ยว) จะให้แค่ใบเหลือง ยกเว้นถ้าการทำฟาวล์นั้นรุนแรงหรือมีเจตนาให้ได้รับบาดเจ็บยังให้ใบแดงได้

กฎฟีฟ่า 2017/18 นะครับ ยืนยัน ให้แค่ใบเหลืองในกรณีเป็นผู้เล่นตัวสุดท้าย ทำฟาล์วตัวรุกที่กำลังจะมีจังหวะทำประตูถ้ากรณีนั้นกรรมการตัดสินให้เป็นจุดโทษ

- commits a foul which interferes with or stops a promising attack except where the referee awards a penalty kick for an offence which was an attemptto play the ball
- denies an opponent an obvious goal-scoring opportunity by an offence which was an attempt to play the ball and the referee awards a penalty kick

อันนี้คือสองข้อที่ให้ใบเหลืองได้ครับ

แต่ในกรณีนี้ คริสซิโต้ทำฟาล์วนอกกรอบ ในจังหวะที่บาเบลกำลังหลุดเข้าไปมีโอกาสทำประตู

ดูกันอีกรอบ



ซึ่งกฎสำหรับกรณีนี้อยู่ที่การให้ใบแดง

- denying a goal or an obvious goal-scoring opportunity to an opponent whoseoverall movement is towards the offender’s goal by an offence punishable by a free kick

อยากอ่านเพิ่มเติม ตามลิงค์ไปครับ

http://resources.fifa.com/mm/document/footballdevelopment/refereeing/02/90/11/67/lawsofthegame2017-2018-en_neutral.pdf

ในหัวข้อ Fouls and Misconduct

ซึ่งก็ชัดเจนนะครับว่าใบแดงนี้ถูกต้องแล้ว โดยคริสซิโต้เองก็ไม่ได้ออกมาแย้งเรื่องกฎอะไร แค่ขอความเห็นใจว่านี่มันแมตช์กระชับมิตรนะ แค่นั้น (ที่ผมเห็นว่าแย้งไม่ขึ้น)

อยู่ที่เจตนาครับ
ถ้าตั้งใจจะเล่นที่บอลแบบแบบสมเหตุสมผล
- ถ้าฟาวทั่วไปต่อทีมรุกแบบตัดเกม ถ้าทีมรุกได้จุดโทษ ทีมรับจะไม่ต้องเสียใบเหลือง
แต่ถ้าเป็นจังหวะที่จะได้ประตูแบบแน่ๆ สามารถให้จุดโทษ และใบเหลืองคู่กันได้
- ถ้าเป็นตัวสุดท้าย ทีมรับจะเสียหลือง แต่ไม่ถึงแดง

ถ้าตั้งใจตัดฟาวแบบไม่มีโอกาสได้บอลแน่ๆ
ไอ้ที่กล่าวข้างบนก็เพิ่มโทษอีกระดับได้เลย
คือ ไม่เหลืองก็โดนเหลือง ได้เหลืองก็เป็นแดง

เจตนาไม่เจตนาอะไรหว่า
จะสกัดผู้เล่นที่หลุดไป 1-1 กับโกลมันก็ต้องเจตนาอยู่แล้วดิ

เอาใหม่ๆ

สำคัญคือเหตุการณ์นี้ ได้ฟรีคิกนอกกรอบครับ ไม่ใช่จุดโทษ ทำให้โดนใบแดงได้เลยแม้จะไม่ได้เจตนาเล่นแรงก็ตาม

ตามที่กฏเขียนก็อยู่ที่เจตนาอยู่ดีครับ
สามารถให้แค่เหลืองได้ ถ้าตั้งใจจะเข้าบอล
ข้อแม้คือเป็นการเข้าบอลที่มีโอกาสแย่งชิงได้
ไม่ใช่การตั้งใจตัดฟาว

เพิ่มเติมจากเว้บข่าวนอกช่วงที่กฏนี้ออกใหม่ๆนะครับ
สุดท้ายก็อยู่ที่ดุลยพินิจผู้ตัดสินอยู่ดี ซึ่งอันนี้แหละที่ควบคุมยาก

"A foul on a running striker committed by the last man of the defence will no longer result in a direct red card and suspension, unless the foul is violent or consists in a hand-ball in the box. As long as the foul is judged to be an honest attempt at taking the ball, the defender will only be shown a yellow card."