ยอมรับในความไม่ยอมแพ้ของเฮนเดอร์สันจริงๆ จากนักเตะที่เคยจะถูกโล๊ะทิ้ง สู่กัปตันผู้พาทีมเข้าชิงแชมป์เปี้ยนลีค

หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมต้องเป็นเฮนเดอร์สัน กัปตันทีมควรทำได้มากกว่านี้ แต่ผมคิดว่า เจอร์ราดคงรู้ดี ซึ่งสำหรับเฮนเดอร์สันแล้วผมว่ามันไม่ง่ายเลยที่ต้องมารับตำแหน่งต่อจากกัปกันทีมคนเก่าและทนต่อเสียงวิจารณ์ ผมเชื่อว่านอกจากความขยันในสนามแล้ว นอกสนามเขาต้องมีอะไรที่พิเศษจนทำให้เพื่อนร่วมทีมโค๊ชและเจอร์ราดยอมรับ วันพรุ่งนี้ เป็นโอกาสที่เฮนเดอร์สันจะพิสูจน์ให้แฟนหงส์แดงเห็นว่า เขาเองก็สามารถทำได้เหมือนกัน




สู้ๆครับกัปตัน

ส่วนหนึงของสัมภาษณ์พิเศษ Jordan Henderson โดย Oliver Holt [Daily Mail]:

'ผมต้องเล่นให้ดี เพื่อช่วยให้พ่อของผมต่อสู้กับมะเร็งได้"

Jordan Henderson กัปตันทีมของลิเวอร์พูลพร้อมแล้วที่จะรับมือกับความกดดันในวันตัดสินชะตาที่เคียฟ

“ผมไม่ชอบอ่านเรื่องดีๆเกี่ยวกับตัวเอง กับการวิพากษ์วิจารณ์และเรื่องเชิงลบต่างหากที่ผมมักคิดเสมอว่ามันทำให้ผมพัฒนาขึ้น แต่บางทีคุณก็จำเป็นต้องมีเรื่องดีๆเข้ามาบ้าง และตอนนี้เรื่องดีๆสำหรับผมนั้นมาจากผู้จัดการทีม นั่นเป็นเรื่องดีๆที่ผมชอบ ดังนั้นถ้าเขาบอกผมว่าผมทำหน้าที่ของผมได้อย่างถูกต้องล่ะก็, เยี่ยมไปเลย อะไรนอกเหนือจากนั้น ผมไม่คิดจะไปมีส่วนร่วมด้วย"

"เรื่องเดียวที่สำคัญคือการที่ผมทำงานหน้าที่ได้อย่างถูกต้องในสนามเพื่อทีมและเพื่อผู้จัดการทีม ผมไม่ค่อยชอบพูดถึงตัวเองเท่าไหร่ ผมว่ามันง่ายกว่าเยอะที่จะคุยอะไรไปเรื่อยถึงคนอื่น และผมก็ปล่อยให้บรรดาสื่อทั้งหลายพูดถึงตัวผมได้เต็มที่หากพวกเขาต้องการ"

พูดถึงเหตุการณ์ฟูแล่ม "ตอนนั้น Brendan (Rodgers) เรียกผมเข้าไปหาแล้วพูดว่า--ฟังนะ, นี่คือข้อเสนอ--และเขาก็ถามผมว่าผมคิดยังไง ด้วยคำถามน้นมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเขาพร้อมจะปล่อยให้ผมย้ายออกไป และการตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวผมเอง ผมกลับมาที่ห้องของผม ผมปาดเช็ดน้ำตา สุดท้ายผมก็ร้องไห้ออกมานิดหน่อย..นั่นเป็นเพราะว่ามันเฮิร์ทผมมาก และผมยังมีเกมคืนนั้นให้ขบคิดอีกด้วย"

"ผมคุยกับเอเจนท์ของผมและบอกเขาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และผมบอกไปว่าผมไม่ต้องการย้ายออกไป ผมต้องการอยู่ และสู้ และพยายาม และปรับปรุง และพิสูจน์ว่าเขาคิดผิด เอเจนท์ของผมเห็นด้วย ผมยังคุยกับคุณพ่อของผม เขานี่ฉุนเลย แต่เขาสนับสนุนการตัดสินใจที่จะอยู่และสู้ต่อของผม"

Henderson สู้จนสามารถกลับเข้าไปสู่ในทีมของ Rodgers ได้สำเร็จในปี 2013 และสโมสรก็โชว์ฟอร์มสุดยอดจนมีลุ้นแชมป์ แต่แล้ว Brian Henderson (พ่อ Jordan) ก็พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งและไม่อยากให้เรื่องนี้มีผลกระทบต่อฟอร์มการเล่น เขาพยายามยืดเวลาบอกเรื่องนี้ต่อ Jordan ออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แต่เมื่อ Jordan รู้เรื่อง, หัวใจของเขาแตกสลาย

"สิ่งที่คุณพ่อของผมผ่านมานั้น ทำให้ผมมีวุฒภาวะสูงขึ้น ผมพูดเสมอว่าฟุตบอลคือทุกอย่าง แต่เมื่อเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น คุณก็รู้ทันทีว่ายังมีเรื่องอื่นๆอีกมากที่มีความสำคัญนอกเหนือไปจากฟุตบอล"

"เขาเป็นคนที่เข้มแข็งมากและเขาไม่อยากให้ผมเห็นสภาพร่างกายของเขาระหว่างที่รับการรักษา ผมรู้ว่ามีเรื่องเดียวเท่านั้นที่ผมสามารถทำได้ ทางเดียวเท่านั้นที่ผมสามารถช่วยเขาได้...นั่นคือการเล่นให้ดีในเกมสุดสัปดาห์ เพราะผมรู้่ว่าเขาต้องคอยดูเกมอยู่ นั่นเป็นความกดดันที่แตกต่างออกไป, ผมต้องการเล่นให้ดีเพื่อช่วยพ่อของผมให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิมอีกครั้ง และถ้าผมสามารถทำอย่างนั้นได้, ผมก็สามารถเล่นฟุตบอลได้ไม่ว่าจะอยู่ภายในสถานการณ์หรือเงื่อนไขใดๆก็ตาม"

Brian หายจากอาการมะเร็งและเขาจะไปอยู่ที่เคียฟในวันเสาร์หน้า เพื่อดูลูกชายของเขาพยายามเดินตามรอยเท้าของตำนานลิเวอร์พูลคนก่อนๆ ด้วยการเอาชนะถ้วยรางวัลรายการนี้, อีกรายการที่แสดงถึงตัวตนส่วนหนึ่งของสโมสรลิเวอร์พูล

อ่านฉบับเต็มต่อได้ที่: http://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-5748877/Kiev-calling-Jordan-Henderson-dealing-pressure-ahead-Champions-League-final.html

Ning_Ming

สำหรับยุคคลอปป์..บอสแกเลือกกัปตัน และรองๆลงมา ด้วยวิธีพื้นฐานและเรียบง่ายที่สุด..



.





..




คือเปิด google แล้วดูว่าใครอยู่นานที่สุด แค่นั้นแหละ

ส่วนหนึงของสัมภาษณ์พิเศษ Jordan Henderson โดย Oliver Holt [Daily Mail]:

'ผมต้องเล่นให้ดี เพื่อช่วยให้พ่อของผมต่อสู้กับมะเร็งได้"

Jordan Henderson กัปตันทีมของลิเวอร์พูลพร้อมแล้วที่จะรับมือกับความกดดันในวันตัดสินชะตาที่เคียฟ

“ผมไม่ชอบอ่านเรื่องดีๆเกี่ยวกับตัวเอง กับการวิพากษ์วิจารณ์และเรื่องเชิงลบต่างหากที่ผมมักคิดเสมอว่ามันทำให้ผมพัฒนาขึ้น แต่บางทีคุณก็จำเป็นต้องมีเรื่องดีๆเข้ามาบ้าง และตอนนี้เรื่องดีๆสำหรับผมนั้นมาจากผู้จัดการทีม นั่นเป็นเรื่องดีๆที่ผมชอบ ดังนั้นถ้าเขาบอกผมว่าผมทำหน้าที่ของผมได้อย่างถูกต้องล่ะก็, เยี่ยมไปเลย อะไรนอกเหนือจากนั้น ผมไม่คิดจะไปมีส่วนร่วมด้วย"

"เรื่องเดียวที่สำคัญคือการที่ผมทำงานหน้าที่ได้อย่างถูกต้องในสนามเพื่อทีมและเพื่อผู้จัดการทีม ผมไม่ค่อยชอบพูดถึงตัวเองเท่าไหร่ ผมว่ามันง่ายกว่าเยอะที่จะคุยอะไรไปเรื่อยถึงคนอื่น และผมก็ปล่อยให้บรรดาสื่อทั้งหลายพูดถึงตัวผมได้เต็มที่หากพวกเขาต้องการ"

พูดถึงเหตุการณ์ฟูแล่ม "ตอนนั้น Brendan (Rodgers) เรียกผมเข้าไปหาแล้วพูดว่า--ฟังนะ, นี่คือข้อเสนอ--และเขาก็ถามผมว่าผมคิดยังไง ด้วยคำถามน้นมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเขาพร้อมจะปล่อยให้ผมย้ายออกไป และการตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวผมเอง ผมกลับมาที่ห้องของผม ผมปาดเช็ดน้ำตา สุดท้ายผมก็ร้องไห้ออกมานิดหน่อย..นั่นเป็นเพราะว่ามันเฮิร์ทผมมาก และผมยังมีเกมคืนนั้นให้ขบคิดอีกด้วย"

"ผมคุยกับเอเจนท์ของผมและบอกเขาถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และผมบอกไปว่าผมไม่ต้องการย้ายออกไป ผมต้องการอยู่ และสู้ และพยายาม และปรับปรุง และพิสูจน์ว่าเขาคิดผิด เอเจนท์ของผมเห็นด้วย ผมยังคุยกับคุณพ่อของผม เขานี่ฉุนเลย แต่เขาสนับสนุนการตัดสินใจที่จะอยู่และสู้ต่อของผม"

Henderson สู้จนสามารถกลับเข้าไปสู่ในทีมของ Rodgers ได้สำเร็จในปี 2013 และสโมสรก็โชว์ฟอร์มสุดยอดจนมีลุ้นแชมป์ แต่แล้ว Brian Henderson (พ่อ Jordan) ก็พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งและไม่อยากให้เรื่องนี้มีผลกระทบต่อฟอร์มการเล่น เขาพยายามยืดเวลาบอกเรื่องนี้ต่อ Jordan ออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แต่เมื่อ Jordan รู้เรื่อง, หัวใจของเขาแตกสลาย

"สิ่งที่คุณพ่อของผมผ่านมานั้น ทำให้ผมมีวุฒภาวะสูงขึ้น ผมพูดเสมอว่าฟุตบอลคือทุกอย่าง แต่เมื่อเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น คุณก็รู้ทันทีว่ายังมีเรื่องอื่นๆอีกมากที่มีความสำคัญนอกเหนือไปจากฟุตบอล"

"เขาเป็นคนที่เข้มแข็งมากและเขาไม่อยากให้ผมเห็นสภาพร่างกายของเขาระหว่างที่รับการรักษา ผมรู้ว่ามีเรื่องเดียวเท่านั้นที่ผมสามารถทำได้ ทางเดียวเท่านั้นที่ผมสามารถช่วยเขาได้...นั่นคือการเล่นให้ดีในเกมสุดสัปดาห์ เพราะผมรู้่ว่าเขาต้องคอยดูเกมอยู่ นั่นเป็นความกดดันที่แตกต่างออกไป, ผมต้องการเล่นให้ดีเพื่อช่วยพ่อของผมให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิมอีกครั้ง และถ้าผมสามารถทำอย่างนั้นได้, ผมก็สามารถเล่นฟุตบอลได้ไม่ว่าจะอยู่ภายในสถานการณ์หรือเงื่อนไขใดๆก็ตาม"

Brian หายจากอาการมะเร็งและเขาจะไปอยู่ที่เคียฟในวันเสาร์หน้า เพื่อดูลูกชายของเขาพยายามเดินตามรอยเท้าของตำนานลิเวอร์พูลคนก่อนๆ ด้วยการเอาชนะถ้วยรางวัลรายการนี้, อีกรายการที่แสดงถึงตัวตนส่วนหนึ่งของสโมสรลิเวอร์พูล

อ่านฉบับเต็มต่อได้ที่: http://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-5748877/Kiev-calling-Jordan-Henderson-dealing-pressure-ahead-Champions-League-final.html

Ning_Ming

ถ้าหงส์แพ้นี้พ่อจะอาการเป็นยังไงนะ

อยากเปลี่ยนกัปตันคับ

เรื่องความมุ่งมั่นอดทน ไม่เคยเถียง เฮนโด้มีครบ แต่ความเหมาะสมกับฝีเท้ายังไม่ถึงขั้นจริงๆ

มีสตอรี่ดราม่ามาซัพพอร์ตเเล้ว บทต้องเขียนให้จบเเบบ Happy Ending สิ!!