#### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน soccersuck.com####

19 May 2018 04:20 PM by ลูกกลมกลม

2 ตำนานแห่งยุคฟันธงนัดชิงเอฟเอ คัพ "เชลซี V แมนฯยูฯ"

นับเป็นคู่ชิงชนะเลิศที่สมศักดิ์ศรีสำหรับการโคจรมาเจอกันระหว่างสองยอดทีมแห่งยุค เชลซี ปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 137

แต่ทีมไหนจะเป็นฝ่ายครองถ้วยอันเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศในบั้นปลาย วันนี้เรามาฟังความเห็นจากตำนานของทั้ง 2 สโมสรก็คือ รุด กุลลิท และ ฟิล เนวิลล์

วิธีกำราบปีศาจแดง

เริ่มต้นที่ กุลลิท ก่อนเลยในฐานะเคยเป็นทั้งนักเตะและกุนซือ "สิงห์บลูส์" มองว่าแม้ทีมของอันโตนิโอ คอนเต้ จะประสบปัญหาขาดศูนย์หน้าที่ไว้ใจได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตราบใดที่ใช้จุดเด่นของตัวเองก็คือเกมรับอันเหนียวแน่นย่อมสร้างความลำบากให้กับ ยูไนเต็ด ได้อยู่แล้ว

"พิจารณาเมื่อตอนที่ เชลซี ประสบความสำเร็จในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะพวกเขามักมีสุดยอดดาวยิงอยู่ในทีมเสมอ แต่ ณ เวลานี้พวกเขาไม่มีใครเลยสักคนที่พอเป็นที่พึ่งได้"

"แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะปัจจัยสำคัญสำหรับ เชลซี ก็คือเกมรับที่เหนียวแน่นต่างหาก นอกเสียจากถ้าพวกเขาเปิดเกมบุกสู้ พวกเขาจะต้องเจอปัญหา"

"เมื่อดูจากเกมระยะหลังๆตอนที่ ยูไนเต็ด เล่นกับทีมท้ายตารางโซนหนีตกชั้น จะเห็นได้ว่า พวกเขาไปไม่เป็น เพราะพวกเขาชอบทีมที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ พวกเขาไม่ชอบเลยเมื่อคุณถอยร่นลงไปตั้งรับและรอจังหวะสวนกลับ"

"หาก เชลซี รอจังหวะ โอกาสของพวกเขาก็จะมาเอง ผมคิดว่าสไตล์โต้กลับเหมาะกับนักเตะที่ คอนเต้ เลือกใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีนักเตะที่มีความคล่องตัวอย่าง เอแด็ง อาซาร์ และ วิลเลี่ยน"

ตัดสินแชมป์ที่แดนกลาง

มาฟังความเห็นจากฝั่ง เนวิลล์ ผู้น้องรู้สึกคล้อยตามคอมเมนต์ของ กุลลิท ถึงวิธีการที่ "สิงห์บลูส์" สยบ "ปีศาจแดง" ก่อนวิเคราะห์ว่านัดนี้น่าจะตัดสินกันที่แดนกลางใครครองเกมได้มากกว่า ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง

"ผมคิดว่าแนวทางที่ ยูไนเต็ด มักประสบความสำเร็จเมื่อเจอกับทีมระดับแถวหน้าในฤดูกาลนี้ก็เพราะทีมใหญ่ๆเป็นฝ่ายเดินหน้าเข้าหาก่อนซึ่งมันเข้าทางพวกเขา"

"ปอล ป็อกบาย่อมสนุกกับการเล่นเกมลักษณะแบบนี้มากกว่าเพราะเขาสามารถสร้างโอกาสได้มากกว่าและมีพื้นที่ว่างมากกว่าในการขยับเติมเกมรุก"

"ดังนั้นผมคิดว่าเกมแดนกลางอาจจะเป็นปัจจัยหลักสำหรับ ยูไนเต็ด ต่อการกำราบ เชลซี เมื่อดูจากเกมล่าสุดที่พวกเขาเอาชนะด้วยการใช้ 3 มิดฟิลด์ก็คือ ปอล ป็อกบา,เนมันย่า มาติช และ อันเดร เอร์เรร่า ลงพร้อมกัน "

"แน่นอน เชลซี จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก แต่สำหรับผมเชื่อมั่นว่า ยูไนเต็ด จะปล่อยพลังสุดแรงเกิด"

"ยิ่งพิจารณาฟอร์มของ เชลซี ในระยะหลังๆไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมจึงคิดว่าพวกเขาไม่สามารถใช้เกมรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยมาช่วยพลิกฟอร์มที่ดีที่่สุดออกมาได้หรอกนะ"

"แม้ เชลซี มีความสามารถเฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยมแต่ผมคิดว่า ยูไนเต็ด เล่นกันเป็นทีมได้ดีกว่าในเวลานี้ พวกเขามักเล่นอย่างโดดเด่นเมื่อเจอทีมระดับหัวแถวในพรีเมียร์ลีก พวกเขาสามารถเอาชนะทีมระดับท็อปซิกซ์ได้หมดอย่างน้อย 1 นัดในฤดูกาลนี้"

มูรินโญ่เจ้าแห่งการแก้เกม

นอกจากนั้นแล้ว เนวิลล์ ยังได้วิเคราะห์ต่อไปอีกว่าผลการเจอกันครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ทีมของ มูรินโญ่ พลิกจากที่ตามหลังก่อนกลับมาแซงชนะ 2-1 มีผลต่อสภาพจิตใจของเหล่าขุนพลปีศาจแดงฮึกเหิมมากกว่า

"ยูไนเต็ดฮึกเหิมอย่างมากกับปฎิกริยาตอบโต้กลับมาของพวกเขาในเกมนั้น มันละม้ายคล้ายกับเกมที่พวกเขาพลิกฟื้นจากช่วงออกสตาร์ทได้แย่ก่อนพลิกแซงชนะ สเปอร์ส ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ"

"จะได้เห็นได้ว่า ยูไนเต็ด เริ่มต้นไม่ดีตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนในครึ่งแรกทั้งสองครั้ง โค้ชมูรินโญ่แก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดอย่างได้ผล นั่นคือจุดแข็งของเขา"

"ยูไนเต็ดไม่ใช่แค่พลิกกลับมาชนะเท่านั้น พวกเขาสามารถกลับมาเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ตลอดครึ่งหลังของทั้งสองครั้งด้วย"

"ผมคิดว่าเกมรอบรองชนะเลิศอาจจะเป็นโมเมนต์ที่ดีที่สุดของ โจเซ่ ตามแนวทางที่เขาได้วางแท็กติกส์แยบยลจน ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์แซงชนะ นั่นเป็นเพราะความมหัศจรรย์ของเขา"

"เขาดร็อป เอร์เรร่า ปิดพื้นที่ว่างไม่เปิดโอกาส เดลเล่ อัลลี่ ได้ทำเกมถนัด ดังนั้นผมมั่นใจว่าเขาจะใช้แผนคล้ายๆกันเพื่อตามเก็บ เอแด็ง อาซาร์ กระดิกไม่ออก"

คอนเต้อย่ายึดติด

เช่นเดียวกับ กุลลิท เห็นด้วยกับตำนานแมนฯยูไนเต็ดที่บอกว่าแท็กติกส์ของ มูรินโญ่ แก้เกมได้ดีกว่า คอนเต้ เฮดโค้ชชาวอิตาเลี่ยนมักยึดติดกับแผนเดิมๆมากเกินไปโดยยกตัวอย่างเช่นเกมที่ "สิงห์บลูส์" บุกไปพ่าย แมนฯซิตี้ 0-1 เมื่อเดือนมีนาคม

"วันนั้นสำคัญต่อผมมากสำหรับมุมมองต่อ คอนเต้ เพราะเขาไม่ยอมเปลี่ยนอะไรเลยแม้ เชลซี ตกเป็นฝ่ายตามหลัง พวกเขายังตั้งรับเหมือนเดิม"

"นั่นเป็นจุดเปลี่ยนเลย เพราะผมคิดว่าอย่างน้อยๆเขาควรจะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อพลิกเกมกลับมา แต่เขาหวาดกลัว ซิตี้ มากเกินไปจึงโดนลงโทษ"

"หากเป็น มูรินโญ่ ล่ะก็ เขาจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นโดยไม่ลองทำบางสิ่งที่แตกต่างออกไปบ้างเพื่อไม่ออกมาแบบเดิม"

"หลังเกมนั้นดูเหมือน คอนเต้ เหมือนไม่สนว่าจะต้องเล่นดีหรือฟอร์มออกมาเป็นอย่างไร เขาไม่แคร์จะเริ่มต้นได้แย่หรือไม่ เพราะเขาแค่ต้องการชนะก็พอ"

"ผมจึงอยากยกตัวอย่างให้ได้ดูกันในสิ่งที่ มูรินโญ่ ทำจนพลิกแซงชนะ สเปอร์ส ในเกมรอบรองชนะเลิศ จะเห็นว่า ท็อตแน่ม ครองเกมในช่วงแรกจากนั้นกลายเป็น ยูไนเต็ด พลิกแซงนำจนกระทั่งต่อมา สเปอร์ส ตามตีเสมอไม่ได้และหาทางกลับไม่เจอ "

แชมป์เพื่อรักษาหน้า

แม้ คอนเต้ คุมทีมเชลซีในฤดูกาลแรกประสบความสำเร็จด้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกแต่สถานตอนนี้สุ่มเสี่ยงเหลือเกินที่จะโดนปลดออกหลังจบเพียงแค่อันดับ 5 ได้ไปเล่นแค่ยูโรป้า ลีกเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้เอง กุลลิท มองว่ากุนซือชาวอิตาเลี่ยนต้องการทิ้งทวนด้วยแชมป์ฟุตบอลถ้วยแม้อาจไม่อยู่กุมบังเหียนอีกต่อไปแล้ว แต่จะเป็นการจากลาที่ดี

"มีข่าวลือมากมายตลอดเวลาว่า คอนเต้ กำลังจะจากไป ซึ่งนั่นไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันเป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งสำหรับ เชลซี"

"ผมไม่คิดว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมวันเสาร์นี้ เพราะผมคิดว่า คอนเต้ อยากจะไปอยู่แล้วแต่เขายังต้องการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพเป็นการทิ้งทวน"

"มันเป็นโอกาสทองสำหรับบรรดานักเตะเชลซีเช่นเดียวกัน แชมป์เอฟเอ คัพจะช่วยเยียวยาในสิ่งที่ทีมไม่ได้ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ดังนั้นพวกเขายังต้องการคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะถ้วยรางวัลคือสิ่งจำเป็นสำหรับทีมใหญ่ๆ"

"ดังนั้นรอบชิงชนะเลิศอาจจะไม่เกมที่สวยงามที่่สุดเพราะมันจะต้องเน้นแท็กติกส์ล้วนๆ และนี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะรักษาหน้าของ เชลซี และเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะรักษาหน้าของ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกัน "

"ทั้งสองกุนซือต่างต้องการถ้วยรางวัลให้แก่ตัวเอง พวกเขาทั้งคู่ต่างมีความมั่นใจสูงเพราะพวกเขาคิดว่าตัวเองนี่แหละเจ๋งที่สุดแล้ว"

จิตวิญญาณแห่งแชมเปี้ยน

ย้อนกลับไปฤดูกาลแรก มูรินโญ่ ประสบความสำเร็จน่าพอใจช่วย ยูไนเต็ด คว้า 3 แชมป์เริ่มต้นด้วยคอมมิวนิตี้ ชิลด์,ลีก คัพและปิดท้ายซีซั่นด้วยแชมป์ยูโรป้า ลีกพร้อมคว้าโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ส่วนซีซั่นนี้แม้กุนซือโปรตุกีสพาทีมปีศาจแดงกลับมาติด 1 ใน 4 ของตารางเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีแต่การจบรองแชมป์โดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ศัตรูร่วมเมืองทำคะแนนทิ้งห่างถึง 19 แต้มรวมถึงปราชัยคาบ้านต่อ เซบีญ่า กระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกทำให้ เนวิลล์ มองว่านี่ยังไม่ใช่ผลงานน่าพอใจเอาเสียเลย

"สโมสรอย่าง ยูไนเต็ด ต้องการถ้วยรางวัลอยู่เสมอ" อดีตดาวเตะเอฟเวอร์ตันซึ่งเคยได้แชมป์เอฟเอ คัพ 2 ครั้งกับยูไนเต็ดเมื่อปี 1996 และ 1999 กล่าว

"สำหรับ โจเซ่ วัดความสำเร็จของตัวเองเดิมพันด้วยแชมป์ หาก ยูไนเต็ด คว้าถ้วยรางวัล มันย่อมถือได้ว่านี่คือฤดูกาลสำเร็จสำหรับพวกเขา"

"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเกมวันเสาร์ ผมคิดว่า ยูไนเต็ด กระเตื้องขึ้นอยู่นะ เมื่อวัดจากอันดับในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วโชว์ให้เห็นว่าพวกเขามีพัฒนาการที่ดี"

"แต่เหนืออื่นใด โจเซ่ ต้องการให้นักเตะมีจิตใจแห่งแชมป์เป็นสิ่งสำคัญต่อการก้าวลงไปในสนามเวมบลี่ย์เกมวันเสาร์นี้เพื่อชูถ้วยเอฟเอ คัพ"

"แชมป์ต้องเข้าไปอยู่ในหัวคือสิ่งที่ โจเซ่ ทำมาทั้งชีวิตการเป็นกุนซือของเขาและเขาต้องการให้นักเตะของเขามีความคิดแบบเดียวกันด้วย"

ลูกากู ผู้พลิกเกมตัวจริง

ไม่ต้องแปลกใจทำไม มูรินโญ่ จึงไม่ไว้หน้าตำหนินักเตะตัวเองในเกมที่ปราชัยต่อทีมรองบ่อนอย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และ ไบรตัน รวมถึงทำได้แค่เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม เนวิลล์ กลับไม่คิดว่าคำตำหนิของกุนซือโปรตุกีสทำลายสมาธิและความมุ่งมั่นของเหล่านักเตะยูไนเต็ด

"ผมมองดูสิ่งที่ โจเซ่ เคยกล่าวเอาไว้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ มันเป็นคำตำหนิที่ไม่ได้พุ่งเป้านักเตะที่จะเล่นในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพหรอกนะ ผมเชื่อว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบใดๆเลย"

"ผมคิดว่าทีมที่เล่นกับ สเปอร์ส นัดรอบรองชนะเลิศนี่แหละที่ทำให้ผมเชื่อว่า ลูกากู จะได้ลงตัวจริงในวันเสาร์เพราะมันเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นทีมโปรดของ โจเซ่"

"แน่นอนระดับความฟิตของ โรเมลู ลูกากู เป็นประเด็นใหญ่มาก เขามีฤดูกาลมหัศจรรย์ นี่คือสิ่งที่ ยูไนเต็ด ขาดหายไปทั้งพลังและคุณภาพหน้าปากประตูยามที่ไม่มีเขาอยู่ในสนาม"

"ดังนั้นผมอยากเห็นเขาลงเล่นบ้างก่อนนัดชิงชนะเลิศเพราะมันเป็นอะไรที่ลำบากต่อการลงเล่นสักเกมนึงหลังหายหน้าไปนาน 3 หรือ 4 สัปดาห์"

"มันจึงเป็นความท้าทายสำหรับ ลูกากู แต่เขาคือผู้เล่นคนสำคัญมากเพราะสไตล์ของเขาไปได้ดีกับแท็กติกส์ของ มูรินโญ่ เกมวันเสาร์นี้เขาน่าจะสร้างความแตกต่างได้แน่"

LibertyJuicy

เข้าร่วม: 05 Dec 2016

ตอบ: 1332

ที่อยู่:

โพสเมื่อ: Sat May 19, 2018 4:28 pm

[RE: 2 ตำนานแห่งยุคฟันธงนัดชิงเอฟเอ คัพ "เชลซี V แมนฯยูฯ"]

แต่อย่างหนึ่งที่แฟนเชลซีพูดถึงเหมือนกุลลิดเป็นกระบอกให้อีกหนึ่งเสียงจริงๆ

ที่คิดเหมือนแฟนๆ เชลซี ส่วนตัวผมขอเกมส์สนุกๆ ก็พอละครับคืนนี้

จากใจแฟนผี

ขี้ฟ้องอีกแล้ววววว ง้อววววว

Zombasto

เข้าร่วม: 06 Apr 2017

ตอบ: 4065

ที่อยู่: ดาวหลายๆดวง

โพสเมื่อ: Sat May 19, 2018 4:54 pm

[RE: 2 ตำนานแห่งยุคฟันธงนัดชิงเอฟเอ คัพ "เชลซี V แมนฯยูฯ"]

ก็แค่ฟุตบอลอีกนัดนึง ดูให้มันสนุกๆไป

ยังไงก็ต้องมีทีมแพ้ทีมชนะ อย่าไปซีเรียสมาก :))

ฤดูกาลหน้าต่างหากที่น่าติดตาม

''I've never played for a draw in my life'' - Sir Alex Ferguson
.
.
ขอบคุณที่เคยได้เป็นส่วนหนึ่งของกันแหละกัน

ขอบคุณที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกันแหละกัน

ขอบคุณที่เกิดมาครั้งนี้.. ได้ใช้เวลาร่วมกัน

PMT

เข้าร่วม: 31 Jul 2008

ตอบ: 10235

ที่อยู่: Phetchabun

โพสเมื่อ: Sat May 19, 2018 5:13 pm

[RE: 2 ตำนานแห่งยุคฟันธงนัดชิงเอฟเอ คัพ "เชลซี V แมนฯยูฯ"]

"วันนั้นสำคัญต่อผมมากสำหรับมุมมองต่อ คอนเต้ เพราะเขาไม่ยอมเปลี่ยนอะไรเลยแม้ เชลซี ตกเป็นฝ่ายตามหลัง พวกเขายังตั้งรับเหมือนเดิม"

"นั่นเป็นจุดเปลี่ยนเลย เพราะผมคิดว่าอย่างน้อยๆเขาควรจะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อพลิกเกมกลับมา แต่เขาหวาดกลัว ซิตี้ มากเกินไปจึงโดนลงโทษ"

"หากเป็น มูรินโญ่ ล่ะก็ เขาจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นโดยไม่ลองทำบางสิ่งที่แตกต่างออกไปบ้างเพื่อไม่ออกมาแบบเดิม"

เห็นความขี้ขลาดของคอนเต้กันทั้งโลก นัดนั้น
จัดทีมเพื่อรักษาหน้าตัวเอง มากกว่าผลแพ้ชนะให้กับทีม

BlueDevil_1975