“ทักษิณ” แค้นข้ามโลกสู้ 5 คดีทุจริต โชว์เพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ ดักทางพรรค คสช.
ยุทธวิธีทางการเมืองของรัฐบาลทหาร-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี-หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในช่วงโค้งสุดท้าย (แต่ยังไม่เห็นปลายสุด) เดิน 2 ขา ขา 1 ตะลอนทัวร์ ครม.สัญจร-ลงพื้นที่คลุกประชาชนเก็บคะแนนนิยมประกบนักการเมือง-เจ้าของพื้นที่ป้องมือ-เปิดปาก ปิดดีลข้อตกลงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เดือนละ 2 ครั้ง
อีกขา 1 ถอนเสี้ยนหนาม-เคลียร์ทางขั้วอำนาจเก่า-รัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.) และนายทักษิณ-น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรกับพวก โดยเฉพาะคดีของนายทักษิณนับนิ้วแล้ว 5 คดี รอขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ออกมาแอ็กชั่น-ลู่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 เล่นตามบทยื่นฟ้อง-ร้องลับหลังจำเลย (ทักษิณ) เนื่องจากจำเลยไม่มารายงานตัว และศาลได้เคยออกหมายจับในคดีอื่นไว้แล้ว
คดีล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 61 เป็นคดีที่ 5 คดีหมายเลขดำที่ อม. 40/2561 กรณีนายทักษิณได้เห็นชอบและยินยอมให้กระทรวงการคลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (TPI) ตามที่ รมว.คลังเข้าปรึกษา จนนำไปสู่การทำหนังสือยินยอมของ รมว.คลังให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนของบริษัท TPI โดยมีรายชื่อคณะผู้บริหารแผน ตามที่นายทักษิณเสนอและกระทรวงการคลังได้เข้าไปเป็นผู้บริหารแผน คดีฟื้นฟูกิจการ TPI
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังไม่ได้นัดหมายสำหรับในคดีที่เคยฟ้องไว้แล้ว และ ป.ป.ช.ได้มีมติให้ดำเนินการยื่นคำร้องขอยกคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำสั่งจำหน่ายคดีขึ้นพิจารณาใหม่อีก 2 คดี เป็นคดีที่ 2 คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดย ป.ป.ช. ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์นายทักษิณ จำเลย กรณีทุจริตการอนุมัติให้กู้เงินจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) แก่รัฐบาลพม่า 4,000 ล้านบาท ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 4 ก.ค. 61
คดีที่ 3 คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 คตส. โดย ป.ป.ช. ผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ “นายทักษิณกับพวก” รวม 47 คน จำเลย กรณีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ “คดีหวยบนดิน” ศาลฎีกาฯ นัดพิจารณาคดีครั้งแรกวันที่ 25 ก.ค. 61
ขณะที่ อสส. ที่รับบทเป็นโจทก์ยื่นร้องนายทักษิณ-ฟื้นคดี เป็นคดีที่ 4 คดีดำที่ อม.3/2555 คดีแดงที่ อม.55/2558 กรณีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้บริษัทในเครือกฤษดามหานครกว่า 9,000 ล้านบาท ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาครั้งแรก 20 มิ.ย. 61
และคดีที่ 5 คดีดำที่ อม.9/2551 คดีแดงที่ อม.5/2551 กรณีแปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.ค. 61
ขณะที่คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์-น้องสาวที่หนีคดี-เดินตามรอยนายทักษิณ-พี่ชายและพวกระดับแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ยังอยู่ในขั้นตอนไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานของ ป.ป.ช.-กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวม 13 คดี อาทิ กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวกรวม 17 คน ออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวกรวม 35 คน เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กู้เงินพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท
กรณียิ่งลักษณ์กับพวก รวม 34 คน ออกคำสั่งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯ สมช. และกรณี กกต.ยื่นต่ออัยการให้ดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเงิน 2,400 ล้านบาท ปล่อยให้มีการจัดการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 57 เป็นโมฆะ
ท่ามกลางคดีของทักษิณและพวกทยอยออกมาเป็นลูกระนาด อีกซีกโลกหนึ่งการปรากฏตัวของ 2 อดีตนายกฯทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ก็กำลัง Grand Opening พรรคเพื่อไทย มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชนะ
ถล่มทลายเป็น “แลนด์สไลด์”
ที่มา
https://www.prachachat.net/politics/news-157698