ทศลองสัมภาษณ์ 09 : เจน BNK48
“เป็นคนทำอะไรช้าแบบนี้มันดีมั้ยครับ”
“ก็ไม่เคยมีใครบอกว่าเร็วแล้วจะดีกว่านี่คะ”
เจน-กุลจิราณัฐ อินทรศิลป์ หนึ่งในสมาชิกวงไอดอลที่ต่อให้คุณไม่สนใจก็ต้องรู้จักอย่าง BNK48 ตอบคำถามให้เราฟังอย่างกระฉับกระเฉง
ก่อนหน้าที่ผมจะเจอกับเธอ ผมมีการทำการบ้านเกี่ยวกับสมาชิกเซ็มบัตซึป้ายแดงคนนี้มาบ้าง ตัวอย่างเช่นเจนเป็นเด็กที่สดใสมาก มุกตลกของเธออาจจะไม่ได้มีผลต่อความเข้าใจแต่ส่งผลถึงหัวใจให้เราเผลออมยิ้ม เธอมีไม้ตายอย่างรอยยิ้มของเธอเหมือนเวทมนตร์เพราะทันทีที่คุณหันไปเห็นคุณจะต้องยิ้มตามทันที แต่ผมคงทำการบ้านน้อยไปเลยไม่รู้ว่าถ้าจ้องนานเกินไปจะถูกเล่นงานด้วยความเขินและถูกฟ้องด้วยอาการหน้าแดง
ตลอดการนั่งคุยกันเฉียดชั่วโมง ผมพบว่าไม่ใช่แค่เพียงอาการเขินที่ต้องเฝ้าระวัง แต่เรื่องราวที่เธอเล่าให้ฟังก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ชวนให้เราปรบมือให้ หรือเอาใจช่วยในเรื่องที่เธอเศร้าหมอง
หากไม่ต้องรีบไปไหน ผมอยากชวนให้คุณลองอ่านบทสัมภาษณ์ของเธอสักหน่อย ขอเสนอด้วยความเต็มใจว่าไม่ต้องรีบร้อน เพราะเธอบอกเราไว้แต่แรกแล้วว่า “ไม่เคยมีใครบอกว่าเร็วแล้วจะดี”
รู้มาว่าก่อนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิก BNK48 เจนเคยเป็นสมาชิกวงโคฟเวอร์เพลงญี่ปุ่นมาก่อนด้วยเหรอ
เจนอยู่กับการเต้นมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบัลเลต์ รำไทย หรือลูกทุ่งของโรงเรียนก็ทำมาแล้ว ส่วนวงโคฟเวอร์เนี่ยมาจากเพื่อนชวนเพราะคนในวงเขาขาดพอดี พอเขาชวนมาเราก็ตอบตกลงไปค่ะ
แสดงว่าเป็นคนชอบเต้นอยู่แล้วด้วย
เจนว่าการเต้นมันสนุกดี พอมาตอนหลังก็กลายเป็นสมาชิกวงโคฟเวอร์อยู่สองวงเลย เวลาเขามีไปประกวดอะไรเจนก็ไปกับเขาด้วย
รู้สึกยังไงบ้างที่จู่ๆ จากความชอบก็กลายเป็นอาชีพอย่างทุกวันนี้
กลายเป็นรู้สึกเขินมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้เจนเคยแต่เต้นตามเพลงของคนอื่น พอมาตอนนี้จู่ๆ ก็มีเสียงของเราไปอยู่ในเพลงเฉยเลย (หัวเราะ)
ลองเล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหมว่าชีวิตประจำวันของไอดอลต้องทำอะไรบ้าง
ถ้าเป็นของเจนก็จะตื่นตอนตีห้ามาออกกำลังกายและค่อยไปโรงเรียน พอเรียนหนังสือเสร็จก็เดินทางไปห้องซ้อมจากนั้นก็แล้วแต่ว่าวันนั้นซ้อมอะไร ปกติในหนึ่งสัปดาห์จะแบ่งเป็นซ้อมร้องเพลงสามวันอีกสี่วันเป็นซ้อมเต้น ถึงบ้านก็จะเวลาประมาณสี่ทุ่ม สำหรับวันที่ไม่ได้มีงานก็จะประมาณนี้ค่ะ
ดูเหนื่อยเหมือนกันนะ อยากรู้ว่านอกจากการซ้อมแล้วอะไรเป็นเรื่องยากอื่นของเจนในการเป็นไอดอล
ถ้าให้คิดมันก็มีหลายเรื่องนะ แต่สิ่งที่ทำให้เจนตื่นเต้นและเป็นกังวลทุกครั้งต้องไปทำสิ่งนี้เลยก็คือการไลฟ์ตู้ปลาค่ะ (Digital Live Studio) เพราะตัวจริงเจนเป็นคนที่ชอบฟังและพูดไม่ค่อยเก่งด้วย ก็กลายเป็นว่าเราไม่ค่อยได้พูดอะไรเลย เคยมีหลายครั้งที่เจนเครียดกับเรื่องนี้จนเก็บไปร้องไห้
เพราะเจนเข้าใจดีว่านี่ก็เป็นทางนึงที่จะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับแฟนคลับ เราต้องพยายามทำให้แฟนคลับที่มาดูทั้งที่นี่และที่บ้านรู้สึกสนุกมากที่สุด เพราะฝั่งตรงข้ามคือเป็นแฟนคลับที่เขามาถ่ายรูป บางคนมาดูเรา หรือมาเชียร์สมาชิกสักคน ทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวเจนเองแหละ เราก็ต้องพยายามค่ะ เพราะความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร (ง่อววว~)
เอาใจช่วยนะครับ มาคุยเรื่องที่ตอนนี้ BNK48 มีสมาชิกรุ่นที่ 2 เข้ามาแล้วดีกว่า รุ่นพี่เจนรู้สึกยังไงบ้าง
ตื่นเต้นมากด้วยจะได้เป็นรุ่นพี่แล้วค่ะ (ยิ้ม) เจนคิดภาพตัวเองเอาไว้ว่าอยากเป็นคนที่รุ่นน้องจะพึ่งพาได้ สบายใจที่จะเข้ามาปรึกษาเวลามีเรื่องลำบากใจอะไร แต่ความจริงจะทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้
ถ้าต้องสอนหลักสูตรไอดอล 101 ฉบับเร่งรัดให้รุ่นน้องได้ 3 ข้อ เจนว่ามีอะไรบ้าง
หนึ่งเลยคือ “เจ้าจงมีจิตใจที่เข้มแข็งซะ” เพราะเอาจริงๆ การมาทำอะไรตรงนี้มันไม่ง่ายเลยนะ ร้องไห้นี่ประจำดังนั้นถ้าใจแข็งแรงแต่แรกจะดีมาก ข้อสองคือ “จงสละชีวิตส่วนตัวทิ้งไป” เที่ยวกับเพื่อนนี่คือแทบจะหมดสิทธิ์ ทำอะไรต้องคิดให้เยอะเข้าไว้ ข้อสุดท้ายสำคัญมาก “เป็นผู้ให้และผู้รับที่ดี” คือไม่ใช่ว่าเราจะเอาแค่ให้คนอื่นอย่างเดียว การเป็นผู้รับก็สำคัญ รับแล้วเอาไปใช้ต่อ คนให้เขาก็จะได้รู้สึกดีด้วย
แถมให้อีกข้อก็ได้ ก่อนวันงานจับมือจงทาครีมบำรุงเยอะๆ
เดี๋ยว อันหลังนี่ยังไงนะครับ / ก็มือจะได้นุ่มๆ ไง คนมาจับเขาจะได้รู้สึกดี
มันจำเป็นด้วยเหรอ / ถ้าใครอยากรู้ต้องลองมาจับมือหนูรอบหน้าแล้วล่ะ
แบบนี้ก็ได้เหรอ? ถามแบบซีเรียสบ้างเอาจริงๆ กลัวถูกแซงบ้างไหม
มีใครไม่กังวลบ้างเหรอคะ (หัวเราะ) แต่เจนก็รู้ว่าเราคงไม่สามารถบอกให้ทุกคนมาชอบเจนหรือห้ามเปลี่ยนใจไปไหนได้ เพราะทุกคนก็มีสไตล์ มีแนวทางของคนที่ตัวเองจะชอบ มันก็เป็นธรรมดาของโลกใบนี้ล่ะเนอะ สิ่งที่เจนทำได้คือเป็นตัวของตัวเองเพื่อให้คนที่เขาชอบเราไม่รู้สึกว่าเราจะเปลี่ยนไป ส่วนถ้าจะมีคนใหม่มาชอบก็เพราะเราเป็นตัวของเราเอง
แต่ถ้าดูจากเสียงตอบรับตอนนี้ก็ไม่แปลกถ้าจะคิดว่าตอนนี้ BNK48 กำลังเป็นที่นิยมมากๆ เจนคิดว่าจริงหรือเปล่าครับ
คือเจนคิดว่ามันยังดังได้มากกว่านี้อีกนะ ยังมีกลุ่มลูกค้าใหม่ที่รอให้เราไปเจออีกเยอะเลยค่ะ ต่างประเทศก็ดีนะคะ เริ่มจากเอเชียก่อนก็ได้ จากนั้นก็ยุโรป และไปทั่วโลกเลย ถ้ามีคนอยู่ที่ดวงจันทร์เราก็น่าจะไปหาเขาด้วยนะคะ เพราะอยู่นู่นก็คงจะไม่ค่อยได้ฟังเพลงหรอกมั้งเนอะ
ก็คงจะดีนะครับ ตอนนี้เจนได้กลายมาเป็นหนึ่งในสมาชิกเซ็มบัตสึในซิงเกิล “วันแรก (Shonichi)” ความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง
ร้องไห้เลยค่ะ (หัวเราะ) คือทุกครั้งที่เขามีประกาศสมาชิกเซ็มบัตสึก็จะแอบหวังไว้ในใจ พอมารอบนี้มีชื่อเจนด้วยก็ดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลย
อยากรู้ว่าวันแรกของเจนในการเป็นเซ็มบัตสึทำอะไรบ้าง
ซ้อมร้องเพลงค่ะ และท่อนที่ได้ร้องในเพลงนี้คือ “ร้องเพลงไม่เอาไหนทำไม่ได้ดั่งใจ” ตอนที่เจนเห็นเนื้อเพลงก็รู้สึกว่ามันตรงกับตัวเรามาก! เพราะเรื่องการร้องเพลงเนี่ยเจนไม่เอาไหนเลยค่ะ แต่ก็สู้นะ พยายามให้มันออกมาดีที่สุดอย่างที่ทุกคนได้ฟังกัน ที่ลำบากก็คงเป็นครูที่ต้องทนฟังเทปร้องเพลงวนไปหลายรอบหน่อยค่ะ (หัวเราะ)
จากเดิมที่เราเคยเป็นสมาชิกในยูนิต “พลิ้ว (Skirt Hirari)” ตอนนี้มาเป็นเซ็มบัตสึแล้ว ความรู้สึกต่างกันจากเดิมบ้างไหม
ถ้าเป็นเรื่องของชีวิตประจำวันทุกอย่างมันก็คือเหมือนเดิมนะคะ เพราะถึงเราจะไม่ติดเซ็มบัตสึ แต่ก็ยังต้องซ้อมเต้นทุกวันอยู่ดี ทุกคนยังคงมีตารางซ้อมเต้นและร้องเพลงเหมือนเดิม
ที่ต่างไปคงเป็นเรื่องของความรู้สึกที่เราต้องเจอกับความกดดัน เพราะเราเป็นสมาชิกเซ็มบัตสึหน้าใหม่แต่คนอื่นเขาทำหน้าที่ตรงนี้กันมานานกว่า เราก็ต้องตามเขาให้ทัน ทั้งเรื่องของการโชว์บนเวทีต่างๆ และการพูดเวลาที่ต้องไปออกงานค่ะ
เรารู้มาตลอดว่าการติดเซ็มบัตสึเป็นสิ่งที่สมาชิกทุกคนใฝ่ฝัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีข้อเสียบ้างหรือเปล่า
(นิ่งคิด) ความจริงแล้วการติดเซ็มบัตสึเป็นส่วนนึงที่ทำให้สมาชิกแต่ละคนต้องห่างกันไปค่ะ พอเราไม่ได้ออกงานด้วยกันก็ทำให้คุยกันน้อยลง เจอกันไม่บ่อยเท่าแต่ก่อน
ตอนที่อยู่บนเวทีในงาน BNK48 We Wish You! A Merry Christmas –Fan Meet– ที่ผ่านมาหลังการประกาศสมาชิกเซ็มบัตสึในซิงเกิลนี้ ส่วนนึงในใจก็รู้สึกสับสนและไม่รู้จะทำตัวยังไงกับเพื่อนคนอื่นๆ แต่พอนิ้งเดินเข้ามากอดและแสดงความยินดีกับเราก็รู้สึกดีขึ้น (นิ้ง-มนัญญา เกาะจู หนึ่งในสมาชิก BNK48)
การถูกคัดเลือกให้เป็นสมาชิกเซ็มบัตสึเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนใฝ่ฝันค่ะ แต่เราก็ไม่ได้อยากจะเห็นใครตกลงไปหรือเสียใจ พอถูกคัดเลือกมาแล้วเจนก็คิดว่าต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
หลังจากเข้ามาเป็นสมาชิก BNK48 มีอะไรในตัวเจนที่เปลี่ยนไปบ้าง
ก่อนจะเข้ามาในวงเจนเป็นคนมองโลกสีชมพูมากๆ คิดเอาเองว่าถ้าเข้ามาในวงก็คงจะเป็นบรรยากาศน่ารักๆ สดใสแน่เลย แต่พอมาเจอความเป็นจริงมันกลับตรงกันข้ามกันทุกอย่าง มีเรื่องให้ต้องเสียน้ำตาทุกวัน
มีครั้งนึงในห้องซ้อม ครูให้เราทุกคนเต้นตามเพลง ถ้าใครเต้นได้ไม่ดีจะถูกชี้ให้ไปนั่งดูคนอื่นหลังห้อง เพลงก็เล่นไปเรื่อยๆ เพื่อนหลายคนที่เต้นอยู่ก็ค่อยๆ ถอยตัวลงไปนั่ง ความกดดันแบบนี้เราต้องเจอมันทุกวันค่ะ
เจนเรียนรู้อะไรจากสิ่งเหล่านั้นบ้าง
สอนให้เรารู้ตัวว่าที่นี่ต้องใช้ใจมากเลยค่ะ อย่างเรื่องที่เจนทำได้ไม่ดีในตู้ปลาหรือการร้องเพลงแต่เราก็ต้องทำ อีกเรื่องที่หลายคนคงไม่รู้คือเจนเป็นคนที่หัวโบราณมาก เจนไม่ชอบโชว์สรีระอะไรเลยแต่เราต้องมาใส่ทั้งกระโปรงสั้นและต้องเต้นท่าเปิดกระโปรงด้วย เจนต้องต่อสู้กับความรู้สึกข้างในใจให้ได้เพราะคนอื่นๆ เขาก็ต้องทำเหมือนกัน
เจนว่าการเป็นสมาชิก BNK48 มันไม่ได้มีทุกสิ่งที่เราชอบหรอก และเราไม่สามารถที่จะเรื่องมากได้ ทุกอย่างมันคือหน้าที่ ถ้ามีอะไรต้องเปลี่ยนก็ต้องเริ่มที่ตัวเราไม่ใช่ไปบอกเขาว่าต้องแก้แบบนั้นแบบนี้
คิดว่ามันเร็วไปหรือเปล่าที่เด็กวัย 18 อย่างเราต้องมาเจอเรื่องราวอย่างนี้
มันก็มีบ้างที่เรารู้สึกว่าโลกใบนี้มันโหดร้ายเหลือเกิน แต่จะช้าหรือเร็วเจนก็ต้องรู้เรื่องนี้อยู่ดี ตอนที่เจนได้รับเงินเดือนก้อนแรกเจนก็นึกไปถึงคุณแม่เวลาที่เจนเคยไปงอแงอยากได้ของนั่นนี่ แล้วคุณแม่จะพูดบ่อยๆ เวลาไม่ซื้อให้ว่า “เจนยังไม่ทำงานเจนไม่รู้หรอกว่าเงินมันหามาลำบากแค่ไหน” เจนอยากบอกคุณแม่ว่าตอนนี้เจนรู้แล้วค่ะ
ในมุมนึงมันก็ทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้นว่าเขาต้องลำบากแค่ไหนกว่าจะมีเงินมาใช้ในแต่ละวัน
แบบนี้บอกเราหน่อยได้หรือเปล่าว่าเจนใช้เงินของตัวเองซื้ออะไรเป็นชิ้นแรก
เครื่องสำอางค่ะ เพราะอยู่ในวงนี้เราก็ต้องแต่งหน้าเองบ้างเวลาออกงาน เจนไม่เคยมีเครื่องสำอางเลย จะให้ยืมคนอื่นก็คงไม่ดีมั้งคะ (หัวเราะ)
เราค่อนข้างจะชินกับภาพของเจนที่ดูสบายๆ อยากรู้อะไรที่ทำให้เจนเกรี้ยวกราดได้
(นิ่งคิด) เคยมีครั้งนึงที่เจนโมโหในห้องเรียน คือเรื่องมันมีอยู่ว่าเจนเชื่อว่าถ้าเราเขียนสิ่งที่อยากได้ไว้ในยางลบแล้วอธิษฐานสิ่งนั้นจะกลายเป็นความจริง เจนก็เขียนอะไรของเจนไว้ ปรากฎว่ามีเพื่อนหยิบเอาไปอ่าน เท่านั้นแหละเจนลุกขึ้นปายางลบใส่เพื่อนคนนั้นและก็ด่าว่า “มารยาทน่ะ มีบ้างมั้ย” ทั้งห้องนี่เงียบเลย
เจนคิดว่ามารยาทกับกาลเทศะเป็นเรื่องสำคัญนะ ไม่ใช่ว่าสนิทกันแล้วจะทำอะไรก็ได้ คิดถึงใจอีกฝ่ายให้มากๆ ดีที่สุดค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากให้พูดถึงแฟนคลับที่เขากำลังอ่านบทสัมภาษณ์นี้อยู่หน่อยครับ
สวัสดีค่ะ เจน BNK48 เองค่ะ ขอบคุณนะคะที่ส่งเสียงเชียร์หนู หนูได้ยินมาตั้งแต่เป็นเสียงเล็กๆ จนตอนนี้ดังขึ้นเยอะเลย ขอบคุณที่อดทนในหลายๆ อย่างเพื่อหนูมาตลอด หวังว่าสิ่งที่หนูกำลังทำอยู่จะพอตอบแทนอะไรให้ทุกคนได้บ้าง ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
สมมติว่าแฟนคลับกำลังอ่านบทสัมภาษณ์นี้อยู่ในฤดูฝน เจนอยากบอกอะไรบ้าง
เข้าหน้าฝนต้องพกร่มกันทุกคนนะคะ ถ้าไม่พกแล้วป่วยมาเจนจะงอนค่ะ!
ขอเวอร์ชั่นฤดูหนาวด้วย
ถ้าเมืองไทยมีอากาศหนาวจริงๆ และตอนนั้นหนาวมากๆ ก็ขอให้ทุกคนคิดถึงเจนนะ เพราะเจนจะทำให้ทุกคนอบอุ่นหัวใจเองค่าาา
อะ สุดท้ายฤดูร้อนครับ
หน้าร้อนคนมักจะชอบหงุดหงิด ให้มองหน้าเจนบ่อยๆ แล้วเจนจะทำให้ทุกคนยิ้มเองงง
อ้าวใครยังไม่ยิ้มมมมมมมมมมม
ขอบคุณที่มา
https://tossapol.com/
นุ้งเจนนนนนนนนนนนนนนนนนนน อย่าทุบพี่นะ