จากกระแสข่าวการมาเยือนไทยของมหาเศรษฐีระดับโลก "แจ็ค หม่า" ซึ่งแน่นอนว่าการตัดสินใจมาด้วยตัวเองแบบนี้ ย่อมมีความสำคัญอย่างมากต่อทั้ง Alibaba และประเทศไทย

แล้วเขามาทำอะไร!?

การมาในครั้งนี้ เป้าหมายหลักคือการพูดคุยเจรจาบันทึกความเข้าใจ MOU ที่แสดงถึงความร่วมมือระหว่างประเทศไทย (กระทรวงอุตสาหกรรม) และ Alibaba

MOU ทั้ง 4 ฉบับประกอบด้วย...

1. การลงทุนสร้างศูนย์สมาร์ท ดิจิทัล ฮับ ใน EEC

2. โครงการพัฒนาบุคลากรดิจิตอลและส่งเสริมอีคอมเมิร์ซ

3. ส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย SME และรายใหม่ ให้เข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ

4. Alibaba จะร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อทำการตลาดร่วมกันผ่านแพลตฟอร์มดิจิตอล

ซึ่งจะเกิดการลงทุนในประเทศไทยรวมมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท

เอาล่ะ ในเมื่อเป็นการเจรจาทางธุรกิจ สิ่งที่จะต้องได้ร่วมกันนั้นก็คือ "ผลประโยชน์" ใช่ไหมล่ะ งั้นเรามาดูกันตรงๆ ดีกว่าว่าแต่ละฝ่ายจะได้อะไรบ้าง...

Alibaba ได้อะไร!?

- Hub หรือศูนย์กระจายสินค้าในพื้นที่อาเซียน ซึ่งการลงทุนครั้งนี้อาจจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลาง เพื่อนำสินค้าสู่ประเทศรอบด้านอย่างกัมพูชา ลาว พม่า มาเลเซีย ต่อไป

- ผู้ประกอบการไทยรู้จัก Alibaba และเว็บไซต์ในเครืออย่างเช่น Lazada ผลักดันการขายของคนไทยให้เข้ามาอยู่ในระบบมากยิ่งขึ้น เช่น จากเดิมขายผ่าน Live Facebook ซึ่งแจ็ค หม่า ไม่ได้อะไร หากคนรู้จักธุรกิจเขา และมาขายที่เว็บเขาอีกทาง ก็จะช่วยส่งเสริมเขาเองด้วย

- การร่วมมือกับทาง ททท. ในด้านโปรโมทการท่องเที่ยว ย่อมนำมาซึ่งเม็ดเงินโฆษณาที่จะเข้าหาเว็บไซต์ในเครือของ Alibaba ด้วยเช่นกัน

- การลงทุนให้ความรู้ดิจิตอลและอีคอมเมิร์ซกับบุคลากรท้องถิ่น เพื่อจะได้จ่ายค่าจ้างในเรทของประเทศไทย ซึ่งค่าจ้างเฉลี่ยของบุคลากรระดับสูงจะถูกกว่าจ้างชาวจีน

แล้วประเทศไทยได้อะไร!?

- เม็ดเงินลงทุน 11,000 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขที่มากพอสมควร

- การสร้าง Hub ในไทย หากเกิดขึ้นจริงนั้น จะช่วยให้เกิดการจ้างงานมากยิ่งขึ้น

- พนักงานบางส่วนจะได้รับความรู้ด้านอีคอมเมิร์ซที่เกินกว่าขอบเขตในไทย (เพราะเราต้องยอมรับว่าด้านนี้จีนพัฒนานำหน้าเราพอสมควร)

- แจ็ค หม่า สัญญาว่าจะช่วยในเรื่องของสินค้าเกษตรไทย ซึ่งมีหลากหลาย เช่น ข้าว ผลไม้ ให้เข้าไปสู่เว็บไซต์ในเครืออย่าง Tmall มากยิ่งขึ้น

- มีผู้ประกอบการรายย่อยและรายใหม่ ที่เข้ามาสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซได้สะดวกมากขึ้น (แต่ก็ต้องผ่านแพลตฟอร์มของลุงแจ็คเค้าด้วยนะ)

และนี่คือสรุปคร่าวๆ ในเรื่องการเจรจาครั้งนี้ และผลประโยชน์ที่ทั้งสองฝ่ายจะได้รับ ซึ่งเราต้องมาคอยดูกันว่าในอนาคตแล้วผลที่ตามมาจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับทั้งไทยและธุรกิจในเครือของ แจ็ค หม่า

แฟนเพจที่มีข้อมูลเพิ่มเติม ความเห็นในแง่มุมที่ต่างออกไป ก็สามารถร่วมคอมเมนต์กันได้ และเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกันด้วยนะครับ

#CatDumb

[/img]

ถ้าข้าว ผลไม้ไม่ผ่านคนกลาง ผมว่าดีเลยนะ

ผลผลิตทางการเกษตรไทยตอนนี้ก็โดนจีนเก็บเรียบแล้วแหละคนับ ไปดูตลาดไทยได้ คนจีนเดินให้ควั่ก ขาวๆหมวยๆ ทั้งนั้น ไหนจะพวกจีนที่แอพโพรชเข้าไปถึงสวนถึงไร่โดยตรงอีก

อูวว เยอะกว่าที่ผมเดาไว้เยอะเลย

กำลังซื้ิอจีนสูงมากมาก
ทุเรียนแพงขึ้นก็เพราะกำลังซื้อจีนนี่แหละ
ชาวสวนชาวไร่คงได้ประโยชน์ไม่น้อย
ปล.อย่าแพงไปละ คนไทยอย่างผมก็อยากกิน

ผลประโยชน์มีแน่แต่ใครจะได้มากได้น้อยยังไม่มีใครรู้ คนที่ได้ผลกระทบทางไม่ดีก็คงมีแน่ๆ แจ๊คเป็นนักธุรกิจเข้ามาลงทุนแล้วนักธุรกิจระดับนี้ถ้าทำแล้วไม่คุ้มคงไม่มา แต่ดันมีลุงคนนึงดันคิดว่าเขาเป็นองค์กรการกุศลเข้ามาช่วยเฉยๆไม่ได้เข้ามาเอากำไรอะไร

จีนชอบผลไม้ไทย จะเป็นคนกลางส่งออกว่างั้น เดียวก็โดนกำหนดราคา ภาษี
แจ็คม่าเคยมาไทย แล้วก็เลยไปสิงค์โป
คงคิดอะไรได้เลยกลับมาไทย

ทำไมเราไม่ขายเองทำไมต้องผ่านกลางทางเดียว
แล้วถ้าแจ็คม่าบอยคอตสินค้า เราจะเอาไปขายใคร
ผมว่าอะไรขายดี คนไทยแห่ไปปลูกอยู่แล้ว

ผมดีใจนะที่มีรายได้เข้าประเทศแต่มันก็ทะแม่งๆ ยังไงไม่รู้ กลัวรัฐบาลไม่ทันเกมเขา

กลัวพวกไดโนเสาร์ไม่ทัน หม่าจริง ๆ เลย กลัวเงินบังตาจนมองไม่เห็นอะไร

ถ้าคิดไปในทางดีมันก็ดีแระ วิน ๆ ทั้งคู่ ภาวนาว่าอย่าไปหลงเหลี่ยมเค้าแล้วกัน

ค่อยๆแทรกซึมให้คนจีนเข้ามาทำการค้าขาย ทำธุกิจกับไทยมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายคนจีนได้เปนหัวหน้างานคนไทยเปนลูกจ้างต่อไปมากขึ้นเรื่อยๆ

ข้อดีคือมีการลงทุน ได้ infrastructure ข้อเสียคือโดนเขาควบคุมตลาด
ยิ่งเขาเป็นคอนควบคุมแพลทฟอร์มอยู่แล้ว infrastructure เป็นของเขาด้วย
ผมอ่านเรื่องจะเข้ามาช่วยศุลกากรอัพระบบเพื่อให้ความสะดวกระบบของอาลีบาบามันแบบเฮ้ย ใครได้ประโยชน์มากกว่าวะ
หรืออย่างหน่วย R&D ของอาลีบาบามาเป็นฝ่ายพัมนาอะไรให้กระทรวงพาณิชย์(หรือกระทรวงไรไม่รู้ คือตาม mou เราได้ประโยชน์บางข้อ ส่วนเขาได้แม่งทุกข้อเลย

ถือว่ามีอีก ก๊ก มาถ่วงดุลอำนาจแล้วกัน

จากที่มีก๊ก เจียร, สิริ ก็มี หม่า มาถ่วงดุลอีกคน

ผมว่าเกษตรกรเดี๋ยวนี้มีลูกหลานที่เรียนสูงๆ นะ ถ้าลูกหลานช่วยกันดูแลเกษตร และระบบการขาย เกษตรกรไทยจะไม่โดนเอาเปรียบเหมือนแต่ก่อนแน่นอน

มุมมองคนที่อยู่ใกล้ๆตัวแล้วกันครับ

คนทำสวน ได้เงินเยอะขึ้นครับ แบกรับความเสี่ยงน้อยลงครับ
โดยรวมคือดีมากเลยในระยะสั้นๆ
ในระยะยาวที่ดูแล้วจะมีปัญหาคือความต้องการมันเพิ่มขึ้นมาก ราคาผลไม้ในไทยอาจจะสูงขึ้นมาก ถ้าอยากกลับมาทำตลาดในไทยเพราะราคาสูงขึ้น ก็อาจจะทำไม่ได้เพราะมีสัญญาเรื่องราคาและระยะเวลากันอยู่ หรือก็คือราคามันไปไกลแล้วแต่ยังได้เงินเท่าเดิม ซึ่งแน่นอนก็ในอีกแง่คือราคามันตกหรือไม่ไปไหนก็ไม่เสี่ยงมากเท่าเดิม
ความสะดวก คือคนจีนที่มาซื้อของเขามารับที่สวนเลยไม่ต้องไปหาตลาด อารมณ์ว่าคุยกันกำหนดวันรับของเขาเอารถมารอไปขึ้นเรือเลย

โดยคนทั่วไปราคาผลไม้ที่ไปจีนอาจจะราคาสูงขึ้น สุดท้ายอาจจะไม่มีผลไม้ดีๆให้กินในอนาคต เพราะราคาจะสูงมากๆครับ

edit ของผมไม่เดือนร้อน เพื่อนที่ทำสวนมันเอาของตกเกรดที่จีนไม่เอามาให้กินฟรี เป็นประจำ เหอๆ

อยู่ที่ข้อตกลง

อย่าให้เขาเหมาสัมปทาน การค้า จน นายทุนคนไทยเดือดร้อนละกันนะ มันมีคนได้แต่ก็คิดว่ามีคนเสียแน่นอน

แจ็ค หม่า บอก เจี๊ยะ หมู