ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 28 Dec 2007
ตอบ: 13531
ที่อยู่: สนามกีฬากลาง
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 1:32 pm
ความขลังของยูฟ่ากับ AFC ที่ต่างกัน
เอาเท่าที่ผมจำได้นะ อาจจะเรียงลำดับปีผิดบ้าง

UEFA

- เมื่อปลาย ทศ 90 มีข่าวเรื่องการรวมลีกใหญ่ในยุโรป โดยมีชื่อว่าซุปเปอร์ลีก เอาท๊อปทีมในแต่ละประเทศ เช่น ยูเว่ แมนยู บาเยิน มาเตะกันเป็นลีก 10 ทีม แยกจากลีกปกติ ใช้นักเตะโรเตชั่น เก็บค่าลิขสิทธิ์กันเอง เกือบจะก่อตั้งสำเร็จแล้วด้วยเม็ดเงินและเสียงตอบรับ

- ตอนเจ๊เหวงได้แชมป์ EPL สมัยแรกๆ แกออกมาสัมภาษณ์ว่าอีก 20 ปี EPL จะล่มสลาย แสดงว่าแนวคิดการรวมทีมลีกสตาร์ยุโรปมีจริง

แต่ยูฟ่าเบรคโปรเจคต์ด้วยการทำแคมเปญเรื่องการพัฒนานักฟุตบอลเยาวชนจากท้องถิ่นนิยม รวมถึงเป็นเบื้องหลังในการล่ารายชื่อคัดค้าน

- ปีไล่เลี่ยกันยูฟ่ายุบ คัพวินเนอร์ ส คัพ ไปรวมกับยูฟ่าคัพ โดย คัพวินเนอร์ ส คัพ นี่คือเอาแชมป์บอลถ้วยแต่ละประเทศมาเตะกัน ยูฟ่าก็เลยเอาไปรวมกับรายการที่เอาอันดับรองแชมป์ถึงท๊อป 4-6 แต่ละลีก(ยูฟ่าคัพ) แล้วมาเตะรวมกันซะเลย กลายเป็นรายการที่ใหญ่ขึ้นและมีความสำคัญมากขึ้น และเพิ่มเงินรางวัล

รวมถึงกระจายรางวัลในการเข้ารอบลึกทั้ง UCL และ UEFA

เพื่อทำให้ฐานแฟนบอลทีมเล็กมีที่ยืนในบอลยุโรปมากขึ้น ไม่ใช่รายการไม้ประดับต่อไป ถ้าเล่นดีๆเข้ารอบลึกก็ได้เงิน ได้โบนัส ได้ค่าลิขสิทธิ์

- มีคนออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ต่อไป FIFA world cup จะไม่น่าสนใจแล้ว เพราะทีมห่างชั้นกันเกินไป นักเตะอเมริกาใต้ แอฟริกัน ยังไงก็ย้ายมาขุดทองที่ยุโรป UCL จะบูมขึ้นมาก แชมป์โลกจะติดสินกันทุกปีที่ UCL นี่แหละ

- ต้น ทศ 00 ฟีฟ่าเลยเต้นผางๆ ออกทัวร์คอนเฟดเดอเรชั่น และฟีฟ่าคลับเวลิดคัพ ซึ่งปีแรกๆที่ออกมานั้นแทบจะเรียกได้ว่าทุลักทุเล นักเตะมาไม่ครบบ้าง บางทีมต้องถอนบอลถ้วยในประเทศเพื่อมาเตะบ้าง แฟนบอลก็ขี้เกียจดู ไปๆมาๆถ้วยโตโยต้าคัพ(ชื่อนี้ป่ะ จำไม่ค่อยได้นะ)ที่เอาแชมป์สโมสรในยุโรปกับอเมริกาใต้มาแข่งกันนัดเดียวยังจะดูมีคลาสกว่า เพราะจัดใหญ่และแฟนบอลเต็ม แต่ปัจจุบันก็ถือว่าทำได้ดี

- กลาง ทศ 00 ยูฟ่า ออกกฏ Homegrown Player Rule เพิ่มเติมขึ้นมาจากกฏ non EU player ที่จำกัดใช้ในแต่ละลีก เพราะสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากลของเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในสโมสรฟุตบอล อาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่และเป็นเครื่องมือฟอกเงิน โดยอังกฤษน่าจะเพิ่มเอามาใช้เมื่อปี 2011 หรือ 2010 ผมไม่แน่ใจ

การออกกฏนี้ทำให้ทีมใหญ่จำเป็นต้องคิดเรื่องการซื้อขายนักเตะแบบ"เด็ดยอด"มากขึ้น ไม่ใช่ว่าจะกว้านซื้อใครได้หมด แต่ละสโมสรจำเป็นต้องปั้นเด็ก

นอกจากนี้ยังมีกฏที่เข้มขึ้นอีกขั้นคือ Financial Fairplay ซึ่งจะป้องกันภาวะฟองสบู่ได้อีกขั้นนึง

- ปัจจุบันทีมที่ตกรอบจาก UCL ก็มีสิทธิ์เล่นใน UEFA เพิ่อเพิ่มความน่าสนใจให้ถ้วยเล็กนี้ขึ้นไปอีก แต่ผมว่าเอาง่ายๆก็คงเอาใจทีมใหญ่นั่นแหละ

สรุป

- เรื่องการรวมลีกยุโรป ปัจุบันก็ถือว่ากึ่งๆรวมนั่นแหละ เพราะทีมที่จองเข้ารอบลึกใน UCL มันก็ทีมเดิมๆ แต่แน่นอนว่าทัวร์ยังตกในมือยูฟ่า ค่าการจัดการแข่ง ค่าลิขสิทธิ์ ผมก็คงไม่กล้าพูดว่าอะไรมันดีกว่ากัน ระหว่างเงินไปอยู่กัยทีมใหญ่เนื้อๆหรือไปอยู่กับยูฟ่าที่เป็นฝ่ายอำนวยการ แต่ที่แน่ๆยูฟ่าก็เอาเงินไปเฉลี่ยให้ทีมเล็กๆมีที่ยืนมากขึ้น มีโครงการฟุตบอลต่างๆ

- การที่ฟีฟ่างัดกับยูฟ่าอยู่ช่วงหนึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะแฟนบอลได้ดูทัวร์ใหญ่เพิ่มขึ้นตั้ง 2 ทัวร์ และทัวร์คุณภาพเพิ่มขึ้นอีก 1 ทัวร์

- การที่ยูฟ่าเข้ามาควบคุมกฏการเงินของแต่ละสโมสรรวมถึงการดึงตัวผู้เล่น การกำหนดอายุ ช่วงเวลาที่เล่น เวริคเพอมิต อะไรต่างๆนี่ต้องบอกว่าค่อนข้างเหนือชั้น และใช้กฏหมายแรงงานยุโรปเข้ามาประยุกต์ใช้ด้วย

เพราะอย่างไรทีมใหญ่ก็คือทีมใหญ่ ถ้าปล่อยเสรีมากเกินโปรเจกต์ซุปเปอร์ลีกก็อาจจะถูกพลิกกัลบมาให้ปวดหัวเล่นอีก หรือบางทีอาจเกิดภาวะฟองสบู่ที่ทำลายลีกทั้งยุโรปได้

- สรุปของสรุปอีกที ผมว่ายูฟ่าก็ยังผูกกับทีมใหญ่ในลีกยุโรป เพราะพวกนี้เม็ดเงินอลังจริง แต่ก็ต้องมีคนผลักดันแหละว่า เห้ย ถ้าทำแบบนี้มันไม่ดีนะ มันจะล่มเอา ต้องมีกฏบ้างไม่งั้นฟองสบุ่จะแตกเหมือนกับวิกฤติการเงินหลายๆครั้งในโลกนี้ แล้วบุคลากรที่อยู่ในระบบลีกนั้นก็มหาศาล ไล่ตั้งแต่คนทำความสะอาดยันประธานสโมสร ซึ่งถ้าจะปล่อยให้เม็ดเงินจากอเมริกา จีน ตะวันออกกลางเข้ามาป่วนระบบแล้วล่มคงกลายเป็นวิกฤติการเงินครั้งใหญ่

ส่วน AFC ก็อย่างที่เห็น ความเอียงกะเท่เร่มีมานาน แต่มีข้อแตกต่างจากยุฟ่าคือ

- นักเตะต่างชาติส่วนใหญ่อิมพอร์ตมาจากนอกทวีป การเปิดเสรีที่ยูฟ่าเคยทำกับลีกยุโรปเมื่อปี 95-96 ปรากฏ..

แปีปนึงผมไปทำงานก่อน เด๋วมาเขียนต่อ

อ่ะมาต่อแล้วครับ

ปรากฏว่า.. สมัยนานมาแล้ว ลีกเอเชียเปิดเสรีไปก็เท่านั้นแหละ เพราะลีกที่บูมแรกๆอย่างลีกฮ่องกง พวกฝรั่งมาขุดทองได้แป๊ปเดียวฟองสบู่แตก หรือประเทศอื่นอย่างมาเลย์ อินโด ยุ่น เกา ก็ปรากฏว่างบประมาณแต่ละทีมแต่ก่อนก็ไม่ได้มากมายอะไร เพราะประเทศแถบเอเชียยุค 90 น้อยประเทศที่จะมี football culture ส่วนใหญ่จะตีไก่ตีมวยกันมากกว่า

ยกเว้นบางลีกที่บูมด้วยการโปรโมตของรัฐ เช่น ลีกมาเลย์ช่วงหนึ่ง แต่การทุ่มซื้อนักเตะต่างชาติที่มีค่าเงินแข็งกว่าในประเทศตัวเองก็หมายถึงค่าเซ็นสัญญาและค่าเหนื่อยที่มหาศาล

AFC มองซ้ายมองขวาก็แล้ว พวกอาหรับถึงจะให้เงินมาแต่ก็ไม่มีไอเดีย พวกอื่นๆ เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ไม่มีปากมีเสียงอะไรเพราะทีมมหาอำนาจลูกหนังเอเชียมันก็หน้าเดิมๆ งั้นเอายุ่นนี่แหละวะมันเก่งดีขอลอกหน่อย

เลยกลายเป็นกฏโควต้านักเตะต่างชาติในปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งกฏไลเซนส์ต่างๆ

- ส่วนถ้วย ACL หลังจากปรับกฏการเข้ารอบมาหลายครั้ง โดยเฉพาะการโคจรมาเจอกันของสองฝั่งเอเชีย มีทั้งเจอกันรอบสี่ทีม นี่มารอบสุดก็รอบชิง แต่ก็ไม่มีครั้งใหนเลยที่การแข่งขันในรอบคัดเลือกจะเป็นธรรม นับตั้งแต่แข่งนัดเดียวในบ้านทีมใหญ่แล้วหาผู้ชนะเข้ารอบหลัก ที่สะท้อนให้เห็นถึงความ"ไม่ใส่ใจ"ในการพัฒนาทีมเล็กๆในทวีปอย่างจริงจัง

- หรือกระทั่งการเข้ามาแจมทวีปเอเชียของทีมชาติออสเตรเลียที่ AFC อ้าแขนต้อนรับใน ทศ 10 ทำให้สามารถส่งทีมชาติและสโมสรเข้ามาร่วมในรายการที่จัดโดย AFC แต่ปรากฏว่าแฟนบอลทีมจิงโจ้จริงๆแล้วก้ไม่ได้ตื่นเต้นกับเหตุการณ์นี้มากนัก โดยเฉพาะถ้วย ACL

https://theworldgame.sbs.com.au/blog/2017/02/23/how-serious-are-we-about-afc-champions-league

ด้วยเหตุผลที่ว่า"จะไปลงทุนผิดตระกร้าทำไม" ในเมื่อแมตช์ ACL เป็นแมตช์กลางสัปดาห์ คนเข้าดูน้อย ระยะห่างระหว่างทีมแสนจะไกล เงินรางวัลกระจายน้อยนิด(เกิดเข้ารอบไปแล้วเจอทีมแข็งๆรวยๆอย่างจีน ยุ่น ก็ได้แค่ค่าเจ็บตัวกลับมา)

และคนออสแทบจะไม่รู้จักทีมในเอเชียเลย

- ด้วยตรรกะเดียวกัน ความไม่บูมของ ACL ในเกาและยุ่น ก็คงจะคล้ายๆกัน

http://www.foxsportsasia.com/football/asian-football/afc-champions-league/815515/afc-must-take-action-if-clubs-continue-to-field-weakened-teams-in-afc-champions-league/

- ในเอเชียกลาง แมตช์ ACL บางนัดมีคนดูแค่ 2000

https://www.forbes.com/sites/steveprice/2018/02/15/poor-attendances-still-hampering-asian-champions-league/#57740ac602de

ซึ่งปกติมันก็อาจจะธรรมดาของเอเชียกลางอยู่แล้วก็ได้นะ ทีมรวยแต่แฟนบอลโหรงเหรง

- ในเอเชียใต้ ทีมที่ได้โควต้าไม่มีแม้แต่ไลเซนส์พอที่จะเข้าแข่งใน ACL ด้วยซ้ำ

https://www.sportskeeda.com/football/aizawl-fc-miss-afc-champions-league-license-issues

ซึ่งกรณีนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับทีมในบ้านเราเหมือนกัน แต่ของเราแค่รอบคัดเลือก ของเขานี่หนักหน่อยเพราะรอบหลัก

สรุปพาร์ท AFC

เอาง่ายๆ ผมว่า AFC ยังตาม UEFA อยู่ประมาณ 10 ปี ด้วยความที่ภูมิภาคเรายังไม่มี football culture และความจำกัดจำเขี่ยของงบประมาณในบางประเทศ

- ที่ AFC ยังต่างจาก UEFA มากคือการที่ UEFA สามารถกำหนดนโยบายให่ทีมใหญ่เดินตามได้แล้ว ถึงแม้จะเอื้อประโยชน์อยู่ย้างแต่ก็สามารถเอางบมาเฉลี่ยให้ทีมเล็ก

ขณะที่ AFC หลายรายการยังเป็นแบบ Winner take all ทีมเล็กๆที่เล่น ACL ถ้าไม่เข้ารอบลึกก็ยากที่จะเอาทุนคืนได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนหนึ่งเล่นด้วยใจ อย่าง บรร ผมไม่แปลกใจเลยทำไม Fox sport ถึงเข้าข้างทีมเล็กในรอบคัดเลือก เพราะ passion ของทีมมันต่างกันมาก

ทั้งสโมสรทั้งกองเชียร์ สำหรับทีมเล็กการเข้ารอบ ACL ก็เหมือนเป็นตัวแทนของคนทั้งชาติ แต่กับทีมชาติใหญ่มันก็แค่ดูว่าจะเข้ารอบได้ไหม ได้ก็ดีไม่ได้ก็ปล่อย

- หรือถ้ามองไปที่ทีมชาติ รายการ world cup นี่ก็ winner take all อีกเหมือนกัน แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้เพราะโควต้ามันกำหนดโดยฟีฟ่า ส่วนตัวผมมองว่ารายการอย่าง Asian Cup นี่แหละเป็นทัวร์เดียวที่ AFC สอบผ่าน

- และจุดต่างทีเห็นกันชัดๆคือ ไม่ใช่ว่า AFC ไม่พัฒนาทีมเล็ก ก็คงจะทำบ้างแหละ แต่ทีมเล็กบางทีมก็ไม่สามารถเข้ามาแข่งขันกับทีมใหญ่ได้จริง ถ้วยคลับอาเซียนในอดีตมีปัญหาอย่างหนึ่งคือสกอร์ขาดกระจุยบ่อยครั้ง การมีถ้วยใหญ่อย่าง ACL และถ้วยเล็กอีกถ้วยนึงก็เป็นทางออกในการให้ทีมระดับลีกเทียร์ 3 ของเอเชียได้มีโอกาสเตรียมตัว ไม่ใช่ว่าจัดโควต้ามา ACL เลยแล้วโดนถลุงจนเป็นตัวตลก

แต่ในอนาคตทีมระดับเทียร์ 3 เหล่านี้จะไล่ทันเทียร์ 1 ทันไหม ทั้งที่ความรู้ คน งบ มันต่างกันมาก สิ่งนี้ต่างหากที่เป็นภารกิจที่ท้าทายในการพัมนาฟุตบอลของ AFC
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 7706
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 1:48 pm
[RE: ความขลังของยุฟ่ากับ AFC ที่ต่างกัน]
อ่านเพลินดีเลยแฮะ รีบมาเขียนต่อนะท่าน ช้ามากผมเรื้่อนนะ (ล้อเล่น)

ข้าวกล่องมั้ยคร้าบ ข้าวกล่องอร่อยนะคร้าบ...
เข้าร่วม: 04 Nov 2009
ตอบ: 3704
ที่อยู่: chaing mai,tae chee dong ,
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 3:07 pm
[RE: ความขลังของยูฟ่ากับ AFC ที่ต่างกัน]
รอครับ รอบทความแบบนี้มานานละ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 6847
ที่อยู่: Stoke City
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 5:35 pm
[RE: ความขลังของยูฟ่ากับ AFC ที่ต่างกัน]
มูลค่าทางการตลาดของACLยังน้อยสำหรับทีมใหญ่ เมื่อเม็ดเงินไม่ดึงดูดก็ไม่รู้จะทุ่มทำไม ได้ก็ดีไม่ได้ก็เฉยๆ

อย่างUCLเงินรางวัลเยอะแถมสปอนเซอร์​เข้าอีกทำให้แต่ละทีมทุ่มสุดตัว
เข้าร่วม: 30 Dec 2008
ตอบ: 13637
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 6:07 pm
[RE: ความขลังของยูฟ่ากับ AFC ที่ต่างกัน]
ในแง่เศรษฐกิจยุโรปมันเป็น single market อะ การรวมตัวมันเหนียวแน่นกว่าเอเชียเยอะ กฎหมายของสหภาพยุโรปมีผลต่อธุรกิจกีฬาเยอะมาก ยูฟ่าเลยมีบทบาทมากกว่าเอเอฟซีเยอะอะ

ส่วนเอเอฟซีนี่อย่าเพิ่งไปยึดโมเดลยูฟ่าอะไรเลย อันดับแรกแค่ทำให้มาตรฐานฟุตบอลเท่าเทียมกันก็ยากแล้ว ความห่างระหว่างหัวกับท้ายโคตรเยอะเลย อันนี้เป็นโจทย์ที่ยากมากๆ ลองดูฮ่องกงเวียดนาม เข้ามา ACL ให้เค้ายำเละเทะแท้ๆ

เพราะฉะนั้น ไอ ACL เนี่ย อย่าเพิ่งไปเน้นอะไรขนาดนั้นเลย ในความคิดผมนะ เอาแต่ทำให้มาตรฐาน License ในลีคสูงสุดของเอเชียให้ครบทุกประเทศก่อนค่อยว่ากัน แค่นี้ก็ยากละ

เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 47
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 8:46 pm
[RE]ความขลังของยูฟ่ากับ AFC ที่ต่างกัน
ทวีปมันใหญ่ ประเทศห่างกันเกินนี่ก้สาเหตุสำคัญเลย เดินทางนานจนขี้เกียจไปเตะ จัดแข่งก็ยาก 55555
เข้าร่วม: 23 Nov 2014
ตอบ: 6009
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 18, 2018 8:57 pm
[RE: ความขลังของยูฟ่ากับ AFC ที่ต่างกัน]
ความเสื่อมมันมีเพราะแบ่งวรรณะนี่แหละ พวกญี่ปุ่น น่ะตัวดี ชอบอ้างมาตราฐานโน่นนี่เอาแต่ตัวเองเป็นบรรทัดฐานแต่ไม่ได้ดูรอบข้างไม่ได้ดูเพื่อนบ้านเล้ย อยากให้บูมไหมละ ลองให้โควต้าชาติละ2ทีมสิ ไม่ต้องมีถ้วยเล็ก เอาแต่ถ้วยใหญ่ ดูสิมันจะบูมไหม

อีกอย่างพวกญี่ปุ่นที่บอกว่าACLมันเงินน้อยไม่คุ้มกับการลงทุน ไม่เท่ากับเงินในลีค ผมมองว่าข้ออ้างมากกว่า กากเองตกรองเองแล้วอ้างโน่นนี่ ฝีเท้ามีแต่คิดว่าจะกินหมู ถุย...เจอหมูกัดไหมละเอ็ง
เข้าร่วม: 18 Oct 2010
ตอบ: 3745
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Apr 19, 2018 8:24 pm
[RE: ความขลังของยูฟ่ากับ AFC ที่ต่างกัน]
ถ่ายทอดสด ACL รอบคัดเลือกทุกปี Fox Sport ก็พูดถึงความไม่เป็นธรรม AFC เข้าข้างลีกใหญ่ตลอด แต่ทำไม AFC ไม่คิดเปลี่ยนแปลงบ้าง รอบแบ่งกลุ่ม ACL ก็มีแต่ชาติเดิมๆ ทีมเดิมๆ แทนที่จะให้โอกาสทีมเล็กเข้าไปหาประสบการณ์ จะได้กลับมาพัฒนา ก็ไปปิดโอกาสเขา