คือ จากกติกา การล้ำหน้าเบื้องต้นที่ผมหาจากที่ต่างๆ
พอจะสรุปได้ว่า

ในขณะที่เรายืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า /// อย่างน้อยต้องมีผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม 2 คนยืนต่ำกว่าเรา จึงถือว่าไม่ล้ำ

แต่ละที่ๆอ่านจะย้ำอยู่เสมอว่า ต้องมีผู้เล่นฝั่งรับ อย่างน้อย 2 คนจึงจะไม่ล้ำ
โดยปกติแล้ว ผู้รักษาประตูจะเป็นคนที่ 1 แต่ถ้าผู้รักษาประตูขึ้นมาสูงกว่ากองหลัง
จะนับกองหลังเป็นคนที่ 1 แทน



จากภาพจะเห็นว่า Ox เป็นคนที่ 1
คนที่ 2 คือ อุส ซึ่งขึ้นมาอยู่สูงกว่า ซาเน่ แล้ว
ซาเน่ จึงล้ำเต็มๆ

ส่วนประเด็นที่ว่ามิลเนอร์สะกัด จึงไม่ล้ำนั้น
ผมหาข้อมูลมาจาก กรณี ลอฟเลน & เคน
ได้ว่า

“A player in an offside position receiving the ball from an opponent who
deliberately plays the ball (except from a deliberate save by any opponent) is
not considered to have gained an advantage.”

สามบรรทัดนี้คือใจความสำคัญของหนังสือทั้งเล่ม ที่นำไปประกอบการตัดสินจังหวะปัญหาของอัลลี่-ลอฟเรน-เคน

สิ่งที่เว็บไซต์ต่างประเทศถกเถียงกันมากคือคำภาษาอังกฤษที่ว่า “deliberate play” (การตั้งใจเล่นกับลูกฟุตบอล)

คำว่า deliberate play ตรงนี้ ทางฟีฟ่าระบุไว้ชัดว่า ไม่นับรวมกับ “deliberate save” (การตั้งใจป้องกันประตู) ซึ่งหมายถึง การตั้งใจเซฟประตู ไม่ว่าจะเป็นการบล็อก หรือแม้แต่สกัด “ลูกยิง”

เพราะการสกัดบอล หมายถึงการเคลียร์บอลที่พุ่งเข้ามาหาคุณด้วยความเร็ว อาจเป็นลูกครอสจากด้านข้าง หรือลูกยิง



คำว่า “deliberate play” (การตั้งใจเล่นกับลูกฟุตบอล) ยังมีการระบุไว้ชัดใน website “www.law-11.com“ ด้วยว่า

1. นักฟุตบอลเป็นผู้เข้าไปหาบอล หรือควบคุมบอล
2. นักฟุตบอลเห็นก่อนล่วงหน้าแล้วว่า บอลมาถึง
3. มีเวลามากพอที่จะออกแบบการเล่นในช็อตที่จะมาถึง
4. จัดระเบียบร่างกายพร้อมที่จะเล่นบอล

ขณะที่ deliberate save (การตั้งใจป้องกันประตู) ถูกจัดอยู่ในหมู่เดียวกับ deflection (จังหวะการบล็อกหรือบอลแฉลบ) โดยมีรายละเอียดคือ

1. บอลเดินทางเข้ามาหาตัวนักฟุตบอล
2. บอลเดินทางมายังฝั่งตรงข้ามกับเขา
3. เล่นด้วยสัณชาตญาณล้วนๆ ไม่ได้มีการกลั่นกรองไว้ก่อน
4. ไม่มีเวลาที่จะคิดว่าจะเล่นกับบอลในรูปแบบใด

หากจังหวะที่บอลออกจากเท้า เป็นจังหวะยิงเพื่อตั้งใจทำประตู ไม่ว่าจะเข้ากรอบหรือไม่ และนักเตะฝั่งตรงข้ามสกัดทิ้งตามสัณชาตญาณ ให้นับว่าเป็น deflection ทั้งหมด

ฉะนั้นขอย้อนกลับไปดูกฎกติกาของฟีฟ่าว่า “A player in an offside position receiving the ball from an opponent who
deliberately plays the ball (except from a deliberate save by any opponent) is
not considered to have gained an advantage.”แปลว่า นักเตะที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า หากรับบอลจากคู่ต่อสู้ที่ตั้งใจและเจตนาเล่นกับบอล (ไม่ใช่การตั้งใจป้องกันประตู) ไม่นับว่าเป็นการเล่นโดยอาศัยความได้เปรียบ

มิลเนอร์ พุ่งเข้า บล็อก ตั้งใจป้องกันประตู(deliberate save)
บอลทะลักไปหาซาเน่ จึงล้ำหน้าแน่นอน
อันนี้ก็คาใจหลายคนบอกไม่ล้ำเพราะโดนมิลเนอร์ก่อน

ผมแค่คาใจ ชนะก็อยากชนะโดยขาวสะอาด ไม่มีข้อกังขา

ปล.ผมไม่แม่นกติกาเท่าผู้ตัดสินอาชีพหรอกครับ
ผมเห็นหลายคนบอกฟาล์วก่อ่นเลยไม่ได้
ผู้ช่วยผู้ตัดสินอาจโบกธงว่าฟาล์วก็ได้ ผมก็ไม่ทราบว่ายกธงฟาล์วหรือล้ำหน้า

แค่หาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง ใครแม่นๆกติกา ช่วยชี้แจงเพิ่มเติมได้ครับ
ที่แม่นสุดคงเป็นผู้ช่วยผู้ตัดสินคนนั้นแหละ

ปล.อิดิท ผมดูภาพช้าเข้าใจแล้ว เป็นความเข้าใจผิดของ ผตส.(ผมด้วย ผมนึกว่าเจซุสเป็นคนส่งโดนมิลเนอร์ แต่จริงๆคาริอุสปัดมาโดนมิลเนอร์เอง ลูกนี้จึงไม่ล้ำ(สมมุติลูกนี้เป่ากรณีล้ำ) เพราะผู้บรรยายภาษาอังกฤษบรรยายว่าฟาล์วโกล์คีปเปอร์) ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความเห็นครับ

โกลขึ้นมายังไงก็ไม่ล้ำครับ เพราะมันโดนผู้เล่นลิเวอร์พูล คืนง่ายๆส่งคืนหลังนั้นละ

เค้าไม่ได้เป่าล้ำ เค้าฟาวล์นะครับ

ถ้าเป่าฟาลว์จริงคนที่พลาดคือไลน์แมน เพราะกรรมการในสนามไม่ได้เป่านะ เหมือนไลน์แมนเป็นคนส่งสัญญาณไป

ผมก็คาใจ ลูกที่ลิเวอร์ตีเสมอ 1-1

มาเน่ แตะลอดขาไปแล้ว โดนชนจากข้างหลัง โดนสารพัดจะโดน

กรรมการก็ไม่เป่า

ถ้าซาล่าไม่ตามไป ก็คงไม่ได้อะไร

ส่วนลูกซาเน่ล้ำหนัก ถ้ากรรมการให้ล้ำ
ล้ำเพราะล้ำตั้งแต่ เดอบรอย ชิปให้ซาเน่แต่แรกหรือป่าว น่าจะล้ำตั้งแต่ตอนนี้หรือป่าว

เค้ายกธงให้สัญญานล้ำไม่ใช่หรอครับ เพราะไม่ได้สะบัดธง แต่ยังไงก็ไม่ล้ำ

คือผมเข้าใจที่จขกท.จะสื่อนะครับ เรื่อง deliberate play เนี่ย แต่ที่ท่านไปอ่านมามันไม่ valid เพราะเหตุผลนี้ครับ

บอลที่ซาเน่ได้ จุดเริ่มต้นคือคาริอุสชกบอลไปโดนมิลเนอร์เด้งเข้าทางซาเน่ จังหวะนี้นักเตะแมนซิไม่ได้เป็นคนส่งบอลโดนมิลเนอร์ deliberately ไปถึงซาเน่ครับ ผมจึงมองว่ามันไม่ได้ล้ำ

ส่วนเรื่องฟาวล์ผมก็ไม่ชัวร์ ผมไม่ได้เปิดเสียงตอนดู แต่ถ้าดูจากธงไลน์แมน ไลน์แมนชี้ธงเข้าสนาม แปลว่าไลน์แมนตัดสินว่าล้ำครับ ถ้าเป็นฟาวล์จะชี้ธงไปฝั่งที่ทำฟาวล์ เลยบอกไม่ได้ว่าจังหวะนั้นฟาวล์หรือล้ำหน้า

ส่วนเรื่องชนะแบบไม่มีข้อกังขาผมว่าอย่าไปยึดติดมากครับ ทุกทีมมีได้/เสียประโยชน์เพราะกรรมการกันทั้งนั้น

อันนี้ไม่นับว่าเป็นการส่งคืนครับ

ลิเวอร์พูลไม่ได้โกงแน่นอนครับ

แค่ได้ประโยชน์จากการตัดสินจังหวะสำคัญๆ หลายช็อตมาก
เป็นที่มาของคำว่ากังขาครับ

หลายครั้งที่ตัดสินลิเวอร์พูลเสียประโยชน์ แต่มันจังหวะกลางสนาม
แต่ถ้านับเฉพาะจังหวะเป็นประตู ที่ลิเวอร์พูลได้ประโยชน์ เอาแบบจะๆ เลย ผมเห็น 3 ลูก

ผมว่ากรรมการติดสินผิดจริง แต่ก็ไม่ยอมเป่าจังหวะที่มาเราแตะลอดแล้วโดนผลักจากด้านหลังล้ม ซึ่งถึงว่าเป็นจังหวะสำคัญเหมือนกัน ให้จุดโทษได้โรย ดีที่ซาล่าตามฉกได้

ก็นั่นแหละครับ นี่กระทู้แฟนหงส์ตั้งเองด้วยทำไมถึงบอกไม่ขาวสะอาดได้
แฟนเรือจะบอกโกงมันยังเข้าใจได้ว่าหัวร้อน หรืออะไรมามันยังคุยกันหลังเกมได้

นี่แฟนทีมเดียวกันจั่วมาแบบนี้ คนละประเด็นเลยครับ

ส่วนกรรมการนัดนี้แย่จริง ไลน์แมนก็แย่ด้วยแม่นแต่จังหวะจับซาเน่ล้ำหน้านั้นแหละ
จะหวะได้เปรียบเสียเปรียบไม่ยกแล้วกัน เกมจบไปแล้วยกมาก็เท่านั้นครับ

ว่ากันในมุมของล้ำหน้าหรือไม่ล้ำหน้าอย่างเดียว

กฏที่ว่ามา มันน่าคิดตรงนี้นะ

คือบอลจังหวะปัญหาที่เกิดขึ้น มันเกิดมาจากการที่โกลล์จิ้มออกมา แล้วถึงมาโดนมิลเนอร์ ไม่ใช่จากคู่แข่งโดยตรง
และช่วงที่ว่ามานี้ มันก็มีระยะห่างพอสมควร และบอลไม่ได้แรงมากจนเกินไป ถ้าจะนับว่าเป็นการสกัดอีก มันก็แปลกๆเหมือนกัน แต่ก็อาจจะมองแบบนั้นได้อยู่

เรื่องฟาล์วนี่มองไม่เห็นว่าจะเป็นไปได้ยังไง
1.นอกกรอบ 6 หลา โดนนิดหน่อยคงไม่เป็นไร
2.ตอนดูสดจากมุมในทีวี หรือแม้แต่ดูภาพช้า คนที่ขัดขวางการเล่นของโกลล์มากที่สุดคือกองหลังลิเวอร์พูล



แต่ถ้าส่วนตัว เป็นไลน์แมนในวันนี้ ก็จะยกธงล้ำหน้านะ
เพราะคิดว่ากาเบรียลเป็นคนที่โดนบอล ไม่ใช่มิลเนอร์ มองแวปแรก เห็นแบบนั้น รู้สึกแบบนั้นจริงๆ
ถ้ามองจากมุมด้านข้าง ฝั่งที่ไลน์แมนยืน บอลที่มันโดนขาข้างซ้ายของมิลเนอร์ ซึ่งก็จะพอดีกับการยกขาขวาขึ้นมาของกาเบรียลพอดี

บางทีไลน์แมน อาจจะตีธงเพราะมองแบบนี้ก็ได้ ซึ่งถือว่าผิดพลาด เพราะไม่มีภาพช้า

อยากรู้ครับว่า 3 จังหวะที่ทำให้เป็นประตู จังหวะไหนบ้างที่ลิเวอร์พูลได้รับประโยชน์ แต่ลูก 1-0 ของแมนซิตี้ สเตอริ่งก็ฟาวล์ vvd ชัดเจนนะครับ นับด้วยมั้ยครับ

เกมมันจบไปแล้ว ก็ปล่อยๆ ไปบ้างเถอะ ลองคิดมุมกลับกัน หากลิเวอร์เจอแบบนี้บ้าง แฟนคลับทั้งหลายก็ต้องออกมาปลดปล่อยกันแน่นอน

ผมนั่งย้อนดูจังหวะซาเน่ ฟาวล์ตัดทิ้งไปเลย

ยกธงล้ำหน้า ถ้าผมไม่ได้อ่านโพสนี้เรื่องกฏผมก็คิดว่าไม่ล้ำ แต่ประเด็นมันอยู่ที่บอลมาจากใคร ไลน์แมนคงมองว่าบอลมาจากนักเตะแมนชิตี้ ผมเองก็เห็นแบบนั้น จนต้องไปดูซ้ำๆ บอลสุดท้ายมาจากลิเวอร์พูลนี่หว่า

ลูกนี้ไม่ล้ำครับ

เรื่องนี้มันทำให้เราเข้าใจกฏมากขึ้น นานๆทีจะมีเรื่องแบบนี้

กรรมการไม่ได้ช่วยโกง แค่พลาด ถ้าเป็นประตูมันก็แค่เป็นประตูตีตื้นขึ้นมา ยังไม่ถึงกับประตูชี้เป็นชี้ตาย ถ้าลูกนี้เกิดกับบาซ่า จะมีผล100%เพราะเป็นอเวย์โกล

เกมเมื่อคืนส่วนตัวถามว่าขาวสะอาดมั้ย ก็บอกว่าไม่ขาวนะ (เทาๆ)

แต่มันไม่ได้เทาโดยผู้เล่นหงส์ไง มันทำให้โดนมองว่าเทาโดยผู้ตัดสิน

คนที่ทำให้เกมไม่โอเค คือ ผู้ตัดสินต่างหาก นักเตะกับทีมไม่เกี่ยวหรอก

ผมว่าจังหวะซาเน่ทำให้มีผลต่อเกมหลังจากนั้นมากๆ มากกว่า คล้ายๆมีเอฟเฟคมากกว่าทุกเหตุการณ์ที่เกินขึ้นน่ะ

เคสนี้ไลน์ตัดสินจากช่องโหว่ของกฎมากกว่านะ ช่องโหว่ในที่นี้คือ การใช้ดุลพินิจของตัวเองตัดสิน บอลที่คาริอุสชกไปโดนมิลเนอร์ ไลน์แมนมองว่าเป็นการตั้งใจป้องกันเลยตัดสินว่าไม่ใช่เจตนาส่งคืนหลัง (แม้จะชกบอลไปโดนมิลเนอร์เด้งมาเข้าทางซาเน่) หรืออาจเข้าใจว่าบอลมันไปโดนเชซุส พอไลน์แมนมองแบบนั้น ซาเน่เลยล้ำหน้าครับ เพราะตามกฎล้ำหน้าต้องมีผู้เล่นเกมรับอยู่สูงกว่า 2 คนถึงจะไม่ล้ำ (ในภาพช้าจะเห็นว่ามีเพียง OX คนเดียวที่อยู่สูงกว่าซาเน่ จังหวะนี้ซาเน่จึงล้ำ )
ประเด็นมันจึงอยู่ที่ไลน์แมนมองว่า คาริอุสชกบอลไปโดนมิลเนอร์ไม่ถือเป็นการเจตนาส่งคืนหลังและอาจมองพลาดว่า บอลไปโดนเชซุส

อย่างนึงที่สมควรปรับปรุงพอๆกะ VAR ก็พวกกติกาเดิมๆที่มันไม่เคลียร์เนี่ยแหล่ะ

ตรงๆเลยนะครับ ลูกนี้ไม่ล้ำ กรรมการตัดสินพลาดครับ คือถ้าไม่แฉลบมิลเนอร์อะล้ำครับ แต่นี่แฉลบไม่ถือว่าเป็นการส่งครับ ผมว่าไลน์แมนไม่เห็นว่ามิลเนอร์แฉลบอะครับ ผมก็ดูไม่ทันขนาดภาพช้า

ผมก็ว่าไม่ล้ำ เสียดายถ้าลูกนี้ได้ประตู เกมคงสนุกขึ้นมาก แต่สำหรับผมใครชนะก็ช่าง ยังไงก็แช่งรอบหน้าต่ออยู่ดี แค่อยากเห็นเกมมันๆ

ถ้าจะไม่ให้ประตูเนี่ย

ให้ ฟาลวโกล์ ยังดูดีกว่า ล้ำหน้าเลย

ผมว่าลูกนี้ไม่ล้ำแน่ๆ บอลโดนมิลเนอร

ลูกนี้ ต้องดูจังหวะแรกที่เล่นก่อนจะถึงคาริอุสอ่ะครับ ถ้าว่ากันตามกฎ เพราะหลังจากเดอ บรอยน์แล้ว เป็นนักเตะลิเว่อร์พูลทั้งหมดเลยที่สัมผัสบอล


ไม่ใช่ deliberate play ในกฎแน่ๆ เพราะอันนั้นคือการเล่นสะกัดบอลจากฝ่ายตรงข้าม เล่นการสไลด์สะกัดบอลก่อนถึงฝั่งตรงข้าม


ถ้าจะนับเป็นการเซฟ หรือ deliberate play จะล้ำหน้าได้ก็ต่อเมื่อ ซาเน่อยู่ในตำแหน่งที่ล้ำหน้าตั้งแต่ที่เดอ บรอยน์จ่ายแล้ว ไม่ใช่มานับไลน์ที่จังหวะที่โดนมิลเนอร์ หรือ อุส


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมคิดว่าไลน์แมนเห็นว่าบอลไปโดนนักเตะซิตี้ เลยยกธงมากกว่า จังหวะที่อุสชกออกมาอ่ะ



แต่ยังไงซะ เถียงไปให้ตาย ผลก็ไม่เปลี่ยนหรอก ไม่น่าจะมีอะไรกังขากันนะ

ตอบแบบความรู้สึกแฟนเรือแบบ hard hard เลยนะครับ
จากนัดแรก ลูกแรก ล้ำหน้า
จากนัดแรก ลูกตีไข่แตกของเชซุส ซาเน่ไม่ล้ำ
จากนัดเมื่อคืน ลูกซาเน่ 2-0 ยังไงก็ไม่ล้ำ
นี่คือ 3 ลูกที่ทำร้ายความรู้สึกแฟนเรือแบบสุดๆ

แต่ทั้งทั้งนั้น ผมไม่ได้โทษลิเวอร์พูลแน่นอน เป็นความผิดพลาดของทีม ผตส.ทั้งนั้น
อาจมีบางคำพูดมันดูเสียดสีเหน็บแนมฝั่งท่านบ้างก็ต้องขอโทษจริงๆ บางทีพูดไปมันก็หัวร้อนบ้าง

ลิเวอร์พูลเองเป็นทีมที่ดีพอที่จะเข้าถึงรอบรองหรือแม้กระทั่งแชมป์อยู่แล้ว
ได้แต่คิดว่าทีมเราประสบการณ์ยังไม่มากพอ บารมีก็ยังคงไม่ถึง รอสะสมไปเรื่อยๆ ก่อน

ส่วนที่ถามจังหวะลูกแรกสเตอริงฟาวล์ไหม ผมว่าไม่ชัดเจนเลยนะ อันนี้ไม่ได้เข้าข้าง คิดว่าไม่ฟาวล์จริงๆ

ผมถึงกับกลับไปดูไฮไลท์เต็ม ของนัดแรกเลยครับเพราะสงสัยจังหวะที่ 2 ที่ท่านบอกมาก จากที่ดูเมื่อกี้เลยนะครับ ลูก 1-0 ของซาล่า ซาล่าล้ำที่ลำตัวแต่เท้าแทบจะเท่ากัน ซึ่งก็ล้ำจริง แต่ส่วนลูกตีไข่แตก ซาเน่ล้ำครึ่งช่วงตัวซึ่งล้ำชัดกว่าซาล่าอีกนะครับ

ส่วนเรื่องฟาวล์ vvd ผมอาจจะมองในมุมของแฟนหงส์ แต่ดูภาพช้ากี่ที สเตอริ่งก็แทคเกิ้ล vvd แบบไม่เล่นบอลเลย มุมมองผมจึงคิดว่าฟาวล์

แต่ลูกซาเน่ไม่ได้ประตูเมื่อวาน ควรเป็นประตูอย่างยิ่ง อันนี้ยอมรับครับ