กัตตูโซ่ ผู้นำแสงสว่างมาสู่ เอซี มิลาน
จากทีมที่ประวัติศาสตร์ความสำเร็จมากมายก่ายกอง แชมป์ลีกในประเทศ 18 สมัย แชมป์บอลถ้วยยุโรปอีก 14 ใบ แต่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของอดีต เพราะปัจจุบัน “ทีมปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ต้องตกอยู่ในสถานะ “ยักษ์หลับ” กลายเป็นแค่ทีมระดับกลางตารางในกัลโช่ เซเรีย อา ทั้งผลงานและชื่อชั้นของนักเตะในทีม
4 ฤดูกาลหลังสุด อันดับในลีกจบได้ไกลสุดแค่ที่ 6 แถมเคยตกต่ำลงไปถึงอันดับที่ 10 ในฤดูกาล 2014-15
ปีสุดท้ายที่ทีมได้สคูเด็ตโต้มาครอง ต้องย้อนไปปี 2010-11 หลังจากนั้นลีกฟุตบอลอิตาลีก็ถูก ยูเวนตุส รวบหัวรวบห่างแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
แต่ฤดูกาลนี้ดูเหมือนว่า เอซี มิลาน จะได้เริ่มต้นกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็นอีกครั้ง แม้จะยังไม่เฉียดไกลต่อการเป็นทีมลุ้นแชมป์ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณที่ดีว่าทีมเริ่มเขยิมเข้าใกล้การเป็นทีมแถมหน้าของวงการฟุตบอลอิตาลีได้อีกครั้ง
ซึ่งวีรบุรุษขี่ม้าขาวที่เป็นคนนำพาทีมปีศาจแดงดำกลับมาโชว์ผลงานสมกับเป็นทีมที่เคยยิ่ใหญ่อีกครั้งไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นอดีตนักเตะเก่าของทีมอย่าง “เจนนาโร่ กัตตูโซ่” เจ้าของฉายา “ไอ้รถถัง” สมัยที่ยังโลดแล่นบนสนามในฐานะนัก แต่วันนี้กับบทบบาทผู้จัดการทีมค่อยบรรชาเกมอยูที่ข้างสนาม “กัตจัง” ในวัย 40 ปี ได้ทำให้ผลงานในสนามของ เอซี มิลาน กลับมาคึกคักอีกครั้ง
หลังจากต้องจมอยู่กับความล้มเหลวมาปี ซีซั่นนี้ดูจะมีความหวังเกินขึ้นในถิ่นซาน ซิโร่ เมื่อ เอซี มิลาน ได้รับเงินทุ่นก้อนโตจากจีนแผ่นดินใหญ่ นำไปสู่การยกเครื่องทีมครั้งใหญ่ จัดหนักจัดเต็ม ช๊อปกระจายจ่ายเงินซื้อผู้เล่นหน้าใหม่ไปมากกว่า 170 ล้านยูโร ที่สร้างความฮือฮาสุดๆ คือกว่าจ่ายถึง 42 ล้านยูโปเพื่อกระชาก ลีโอนาร์โด โบนุชชี่ มากจาก ยูเว่ คู่แข่งคนสำคัญร่วมลีกเซเรีย อา
แต่พอลงสนามแข่งจริงๆ กลายเป็นว่าผลงานของทีมปีศาจแดงดำไปไม่ได้สวยอย่างที่หลายคนคาดหวัง เมื่อผ่านไป 12 เกมแรกของลีก ทีมพุ่งชนกับความพ่ายแพ้ถึง 5 เกม เก็บไปได้ 19 คะแนน ถูกทีมที่เป็นจ่าฝูงในตอนนั้นอย่าง นาโปลี ทำแต้มห่างไปแล้วถึง 13 คะแนน
พอในเกมถัดมาทีมก็บุกไปแพ้ให้ นาโปลี 2-1 ต่อด้วยการทำได้แต่เสมอในบ้านตัวเองต่อ โตริโน่ 0-0
จากผลงานในสนามที่มีแนวโน้มว่าจะสาละวันเตี้ยลงไปเรื่อยๆ ทำให้บอร์ดบริหารของ เอซี มิลาน ตัดสินใจเฉือน วิเซนโซ่ มอนเตลล่า พ้นจากเกาอี้ผู้จัดการทีม
และนั่นกลายเป็นโอกาสให้ กัตตูโซ่ ที่คุมทีมเยาวชนของ เอซี มิลาน อยู่ก่อนแล้ว ได้ขยับขยายหน้าที่การงานของตัวเอง ขึ้นมาเป็นผู้จัดการในทีมชุดใหญ่
แม้จะเริ่มต้นแบบไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่ ชนะแค่นัดเดียวจาก 5 เกมแรกที่คุมทีมในลีก แต่หลังจากปรับจูนระบบทีมจนเข้าที่เข้าทาง กัตตูโซ่ พา มิลาน ชนะถึง 8 จาก 9 เกมในลีก แถมยังพาทีมเข้าไปชิงชนะเลิศบอลถ้วยในประเทศอย่าง โคปป้า อิตาเลีย กับ ยูเวนตุส
กัตตูโซ่ ร่ายเวทมนต์อะไรใส่ทัพรอสโซเนรี่ ถึงทำให้ผลงานของทีมดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาได้ในเวลาอันรวดเร็ว!!?
การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งหลังการเข้ามาคุมทีมของ กัตตูโซ่ ก็คือ การเปลี่ยนระบบการเล่นของทีมใหม่ ในยุคของ มอนเตลล่า จะเล่นในระบบกองหลังตัวกลาง 3 คน เกมในบ้านอาจจะพอได้ลุ้น แต่เกมเยือนเสียประตูแทบทุกนัด ดูเหมือนการใช้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน โดยมี โบนุชชี่ เป็นศูนย์กลางดูเหมือนจะค่อนข้างมีปัญหา แต่ในแผนของ กัตตูโซ่ อดีตกองกลางทีมชาติอิตาลี ปรับมาเป็นกองหลัง 4 คน แบบที่ตัวเองคุ้นเคยมาตลอดสมัยเป็นนักเตะ
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 2 คน ขนาบข้างด้วยแบ็คซ้าย-ขวา กลายเป็นว่าเกมรับของทีมแน่นขึ้นทันที่ ไม่แพ้ในลีก 10 เกมติด เก็บคลีนชีทได้ถึง 5 เกม
อีกหนึ่งแทคติกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ระหว่างยุคของ มอนเตลล่า และยุคของ กัตตูโซ่ ก็คือการโรเตชั่นผู้เล่น 11 คนแรกในแต่ละเกม
เพราะแผนการเล่นของ มอนเตลล่า ไม่ค่อยนิ่ง มีการปรับเปลี่ยนให้เห็นอยู่ตลอด บางเกมก็ 3-5-2 บางเกมก็ 3-4-2-1 ทำให้ตัวผู้เล่นที่ส่งลงสนามในแต่ละเกมมักจะถูกสลับสับเปลี่ยนอยู่ตลอด เรียกว่าไม่ 11 คนแรกที่ตายตัว
แต่มาในยุตของ กัตจัง ระบบการเล่นที่ถูกปรับมาเป็น 4-4-2 นักเตะตัวหลักแทบจะตายตัวทุกเกม ถ้าไม่มีใครเจ็บใครแบน กัตตูโซ่ ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีม แผงหลัง 4 คน โบนุชชี่, อเลสซิโอ โรมันโญรี่, ดาวิเด คาลาเบรีย และ ริคาร์โด โรดริเกวซ ยึดตัวจริงตลอด ส่วนมิดฟิลด์ 3 คน ก็เลือกใช้ตัวที่ดีสุด คือ จิอาโคโม โบนาเวนตูร่า, ลูคัส บิเกลีย และ ฟร็องค์ เคสซิเย่ ส่วนกองหน้า แพทริค คูโตรเน่ ดาวรุ่งที่โชว์เด่นจนยึดตัวจริงในทีมของ กัตจัง ได้แบบยาวๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็ที่เคยฟอร์มฝืดในยุคของ มอนเตลล่า ก็มาทำผลงานได้อีกครั้งในทีมของ กัตตูโซ่ ทั้ง ฮาคาน คัลฮาโนกลู และ อังเดร ซิลวา
เป้าหมายหลักของทีมปีศาจแดงดำที่เหลือในฤดูกาลนี้ก็คือ การพาทีมไปจบในอันดับท็อปโฟร์ โดยตอนนี้หลังจากผ่านไป 28 เกม ทีมมีแต้มตามหลังทีมอันดับ 4 อย่าง อินเตอร์ มิลาน คู่ปรับร่วมเมืองมิลานแค่ 5 คะแนนเท่านั้น เรียกว่าถ้ายังรักษาฟอร์มดีแบบนี้เอาไว้ได้ กัตตูโซ่ มีโอกาสพาลูกทีมของเขาไปถึงเป้าหมายที่ทีมต้องการ
เครดิตที่มา:
https://goo.gl/gsPhbA