เบื่อดราม่าบอลนอกมาก จึงขอเปลี่ยนบรรยากาศเอาเบื้องหลังดีลของ Salah มาให้อ่านละกัน

อาจจะอ่านได้ไม่ไหลลื่นเหมือนหลายๆท่านในนี้ที่เขียนเเต่ผมเห็นว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจก็ขอเเชร์ละกัน



รายการ The Totally Football Show ได้เชิญ Rafa Honigstein ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือชีวะประวัติของ Klopp เรื่อง Klopp: Bring the Noise มาคุยด้วยที่รายการ

โดยทาง Rafa ได้เปิดเผยว่าในช่วงตลาดหน้าร้อนปีที่เเล้ว Klopp ได้วาง Julian Brandt ไว้เป็นเป้าหมายหลักในตำเเหน่งตัวรุกฝั่งขวาในทีมของเขา เเต่เเล้ววันนึง Michael Edwards ก็ได้เดินมาหา Klopp พร้อมกับเสนอชื่อ Mohamed Salah ไว้เผื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้วย

Klopp ณ ตอนนั้นได้บอกตรงๆไปกับทาง Michael ว่าไม่อยากได้ Salah เลย เเต่ด้วยสถิติเเละข้อมูลของผู้เล่นที่มีความน่าสนใจเเละตอบโจทย์ spec ของ Klopp เป็นอย่างมาก Michael ก็กล่อม Klopp ต่อว่าให้ลองพิจารณาดูนะ

ซึ่งปีนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลงาน Salah นั้นโดดเด่นกว่า Brandt พอสมควร จนสุดท้าย Klopp ต้องยอมถอยจากดีลที่ตัวเองอยากได้อย่างเ Brandt เเเละยอมจิ้มไปที่ Salah เเทน เเละเราก็ได้เห็นชายคนนี้ยิงกระจายในรั้ว Anfield มาจนถึงทุกวันนี้


เรื่องนี้สะท้อนอย่างว่าสายตาของคล็อปในการเลือกผู้เล่นก็ไม่ได้คมหรือถูกเสมอไป เเต่เครดิตของผลงานทีม ณ ปัจจุบันนั้นคนอื่นที่อยู่เบื้องหลังก็ควรได้รับได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมงานซื้อขายที่สามารถทำงานร่วมกับ Klopp ได้อย่างราบรื่นเเละอย่างเป็นมืออาชีพ


ทั้งนี่ทั้งนั้นจุดที่น่านับถือมากที่สุดคือ Klopp ยอดลด ego ตัวเองในฐานะ ผจก ของทีม เเละรับฟังคนอื่นที่ทำงานด้วย ซึ่งผลสุดท้ายการทำงานร่วมกันอย่างเป็นมืออาชีพก็ทำให้ผลงานของ Liverpool ณ ปัจจุบันดีขึ้นอย่างชัดเจนไม่ว่าจะทั้งในเเละนอกสนาม


สุดท้ายผมขอชาบู Michael Edwards หน่อยละกัน เนื่องจากเมื่อ summer ที่ผ่านมาผมด่าคนนี้เยอะมากเกี่ยวกับดีล VVD เเต่สุดท้ายก็กลายเป็นคนนี้เองที่ดึงเป้าหมายหลักของ Klopp มาร่วมทีมได้หมดทุกคน เช่น VVD ในตลาดหน้าหนาว , ดึง Keita มาร่วมทีมในรูปเเบบเซ็นสัญญาล่วงหน้า , ดึง Salah มาก่อนที่ตลาดจะปั่นป่วนเพราะดีล Neymar

ดังนั้นถ้าสองคนนี้ยังคงทำงานร่วมกัน เราอาจจะเห็นดีลดีๆในอนาคตอีกก็เป็นได้


เเค่นี้เเหละครับ มี คห อะไรก็เเลกเปลี่ยนกันได้ตามสบายเลย

salah นี่ผมให้เป็นการซื้อตัวแห่งปีเลย

รู้แค่ว่า ถ้าบอสบอกว่า ใช่...นั่นคือ จะเอา จะรอตัวนั้นตัวเดียวชัวร์ๆ
ดีกว่าคนก่อนๆ ที่เอาเงินไปถลุงเผื่อเก่งเยอะเลยครับ....

ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่า จะเอาอะไรนักหนากับตัวนี้ตัวนั้น ตัวอื่นไม่มีเหรอ
แต่ตอนนี้เข้าใจละว่า คนที่บอสว่า ใช่ มันคือแบบนี้นี่เอง....

2 ท่านเอ็ด แห่ง 2 ทีมคู่ปรับท็อปฟอร์มกันจริงช่วงนี้

*ซ้ำ*

ถือว่าบุพเพ ต้องกันจริงๆ สำหรับลิเวอร์ รอบแรก เชลซีแย่งมาก็ปั้นไม่ได้ สุดท้ายก็วนมาเจอกันอีกแม้จะราคาสูงขึ้นแต่คุ้มค่าประสพการณ์ที่สั่งสมมาจากกัลโช่

ต้องให้เครดิต ทั้งฝีเท้าซาล่า และฝีมือเจอเก้น

รอบแรกถ้ามาอยู่ในทีมรอดเจอร์ไม่รู้เป็นไง ซาล่า วิลเลี่ยน คูตี้บ้าจ่ายด้วยช่วงนั้นอะ

บอกตรงๆ โคตรไม่อยากได้เลยตอนแรก เห็นวิ่งเร็วอย่างเดียว จบโคตรกาก
อยากได้ดักลาสคอสต้า ตอนนี้ รักซาร่ามากก

รอดู เกอิต้า อีกคน
ส่วนฟาน ไดจ์ ยังต้องพิสูจน์ตัวเองในระยะยาว เพราะค่าตัวแกนี่แหละ

จริง ๆ แล้วเรื่องตาแหลมนี่ผมไม่ได้เจาะจงแว่นคนเดียว
คือทีมงานมีนมีหลายคนหลายฝ่ายช่วยกันสอดส่อง ค้นหา วิเคราะห์ ประเมิน พวกนี้ทำงานเป็นยูนิตี้ โดยมีแว่นเป็นคนตัดสินใจขั้นเด็ดขาด
การที่บอกว่าแว่นตาแหลมเป็นแค่การตอบแบบกระชับสั้น ๆ ไม่ต้องอธิบายเวิ่นเว้อ(แบบที่ผมพิมพ์อยู่นี่)แค่นั้นเอง

อ้าวเหรอครับ เซิร์ชดูเห็นเป็นหน้าคนนี้ซะงั้น ปล่อยไก่เลย (แก้แล้ว) 55

นัยหนึ่งก็แอบกังวลเล็กๆแฮะ

แปลว่าการเลือกนักเตะสักคน แม้ว่าคลอปป์จะตัดสินใจขั้นเด็ดขาด แต่ในระหว่างกระบวนการพิจารณา ก็มีตัวแปรอื่นร่วมด้วย

มันอาจจะดีในแง่กระจายความเสี่ยงความผิดพลาดจากคนเพียงคนเดียว แต่ผู้จัดการทีมก็ย่อมอยากได้นักเตะในแบบที่ตนเองคิด และวางแผนวิธีการเล่นที่อยู่ในหัว

ถ้าทีมนี้ยังทำงานร่วมกันเรื่อยๆ ไม่มีข้อบาดหมางใจกัน ก็คงเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทีม เท่าที่ดูก็คิดว่าใช้ได้อยู่

อย่างกรณีซาลาห์ คลอปป์ก็ยอมอ่อนข้อให้ไมเคิล ส่วนฟาน ไดค์ก็เป็นไมเคิลที่ยอมอ่อนข้อให้คลอปป์

ตั้งแต่ตามเชียร์มา ชอบการซื้อขายยุค คลอป ที่สุดครับ
บางทีก็แอบบ่นบ้าง ฮา

ถ้าเทียบเมื่อก่อน ไล่ตั้งแต่ยุคราฟา จะชอบซื้อทีไม่ต่ำกว่า 5 คน
ต่อฤดูกาล เหมือนหว่านเกินไป ยิ่งยุคปู่รอย นี่บรรเจิดเลย

แต่มายุคคลอปมันได้น้ำ ได้เนื้อ ไม่ได้บอกว่าซื้อแล้วเก่งโครตนะ
แต่ชอบตรงที่ซื้อมาแล้ว มันได้ใช้จริงๆ ไม่ใช่ซื้อมา แล้วใช้ตัวเดิม
บ่นในใจ จะซื้อทำพรื้อ ไรครับ

อันนี้คล็อปป์เองก็บอกมาบอกเลยนะ ว่าต้องขอบคุณใครสักคนนี่แหละ ที่ยอมกล่อมเขาจนซื้อซาลาห์จนได้

ที่ผมจะสือคืออันนี้เเหละครับ ขอให้อย่าหักคอกันเอง ช่วยๆกันเพราะผลประโยชน์สุดท้ายมันมาลงที่สโมสรนี้เเหละ

ยุค BR กับ Transfer commitee นี้ชัดเจนว่าไม่ลงรอยกันอย่างเเรง

จะบอกว่า JK ตาไม่ถึงก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะ เพราะตัวที่ JK จะเอา มันไม่เกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่า จูเลี่ยนบรั้น เกตเซ่ หรือเบนซิลเวล ย้ายมาแล้วจะเกิดหรือดับ แต่ในเมื่อเป้าหมายหลักมันไม่เกิด มันก็ต้องมีเป้าหมายรอง ผมชื่นชม ทีมงาน ที่สามารถหาเป้าหมายที่ตรงสเปคของ JK ได้ และมันมีโอกาสเกิดการย้ายทีมได้ เป้าหมายรองที่เราได้มา ก็มี มาเน่ ซาล่าห์ และ โรเบิร์ตสัน ส่วนตัวหลักที่ JK อยากได้จริงๆคือ เกิตเซ่ จูเลี่ยนบรั้น และ เบน ซิลเวลล์แบ๊คซ้ายเลสเตอร์

เอ็ด ช่วงแรกถือว่าพลาดที่ทำให้ดีล VVD ต้องชะงัก จนประธานต้องออกมาเคลียใจ

แต่หลังจากนั้นเอ็ดก็ตีสกิลรัวๆเลย ให้อภัยได้

ทำไมถึงสะท้อนว่าตาคล็อปป์ไม่คมล่ะครับ จูเลี่ยนก็ไม่ได้มา ถึงมาก็ยังไม่รู้ว่าจะรุ่งหรือร่วง อาจจะเข้าระบบได้ดีเหมือนซาล่าห์ก็ได้ใครจะรู้ ก่อนจิ้มซาล่าห์คล็อปป์ก็ต้องพิจารณาอยู่แล้วว่าใช้ได้มั้ย เรียกว่ายังไงก็ต้องผ่านสายตาก่อน ไม่ใช่ว่าแค่มีคนเสนอมาก็จะจิ้มเอาเลย กรณีที่ชัดคือ VVD ที่ก่อนมาใครๆก็บ่นว่าแพงนั่นแหละ ถึงจะชี้สายตาคล็อปป์ได้จริง ขอเห็นแย้งตรงจุดนี้นะครับ

แล้วตอนนี้ J.Brant เป้าหมาย1 เป็นไงมั้งอะ?

ผมตีค่าซาร่าไว้ที่10ตุง+-2ลูก ตอนซื้อตัวมา
ตอนนี้ไม่รู้ระบบหรือนักเตะพัฒนา หรือทั้ง2อย่าง ยิงกระจายเลย ต้องชาบูซาร่า

ผมเทียบง่ายๆเเบบนี้ละกัน

สมุติว่า คุณ เป็นคล็อป ในตลาดซื้อขาย และคุณมีอำนาจซื้อขายอยู่ในมือคุณ

คุณอยากได้ brandt มาก เเต่อีกคนเอา salah มาเสนอให้ คุณจะเลือกใคร ผมเชื่อว่าร้อยละ 80 จะกดนักเตะที่ตัวเองอยากได้มากกว่าเเน่นอน

ผมไม่ได้บอกว่าถ้า julian ย้ายมาเเล้วจะไม่ปังนะ เเต่ผมจะบอกว่ายากมากๆที่จะได้ดีลที่ซื้อมาเเล้วยกระดับทีมได้ทันทีเเบบ salah

ในที่ผมเเปลเอามาให้อ่าน ภาษาอังกฤษใช้คำว่า persuade นะครับ คือชักจูงให้ซื้อ เเสดงว่าต้องมีการชักจูงอยู่พอสมควร คล็อปถึงยอมถอยจาก Brandt มาเอา salah เเทน

ทีนี้เราไม่รู้หรอกว่าเบื้องหลังมันเป็นยังไง Bayer อาจจะไม่ขายก็ได้ เราเลยเบนหน้ามาหา Salah เเทน

ถ้าคอนเต้ มันลดอีโก้ไดแบบนี้บ้าง ก็คงดี

I LIKE SARA too!

มองในมุมมองของคนตัดสินใจ และคนบริหารนะครับ

คนที่มีหน้าที่บริหารไม่ใช่คนที่ถูกตลอด แต่ต้องเป็นคนที่รับฟังครับ ซึ่งในกรณีนี้ Kop รับฟัง แต่คนที่เถียงหรือเสนอข้อโต้แย้งก็ต้องโต้แย้งแบบมีเหตุผล และมีหลักฐาน เหตุผลรองรับชัดเจนครับ ซึ่งถ้าให้ผมดู ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหานะ Kop มี Vission ในการทำทีม ทีมดูนักเตะมีความสามารถในการคัดเลือกตัว ดีจะตายไปครับ

คนทำงานกัน ก้ต้องให้ความร่วมมือเพื่อประโยชน์ส่วนรวมแบบนี้ละครับ
อย่าให้เหมือนเชลซีปีนี้เลย ทะเลาะกันเองจนได้รับผลกระทบ

#เสียใครก็ได้ แต่อย่าเสียคล็อป#
ใครมาก็ปังหมดแหละ ระบบเริ่มจะเข้าที่เข้าทางละ เสียซาล่าทำไมจะหาตัวที่ดีกว่าไม่ได้ อาจจะดีกว่าด้วย แต่ว่าจะหายากหน่อยนะ แต่ใครเล่าที่ทำให้นักเตะเหล่านั้นท๊อปฟอร์ม
ตัวกากๆที่BRทิ้งให้ ทำไมยังฉายแสงแม้นจะริบหรี่ก็เถอะ เพราะระบบไง ระบบนั้นใครสร้าง ผมมั้ง? ถ้าเสียซาล่าจริง ผมมองว่าคล็อปจะไปเอาซ าฮา หรือไม่ก็ มัลคล๊อมแน่นอน ฟันธง แต่ถ้าเสียคล็อป ผมไม่รู้จะเอาใครมาแทนที่ดีเลย วัดเลยจากตัวชั้นผู้เล่น เกรดระดับความเก่ง คล็อปเป็นคนที่ทำให้ดินกลับมาเป็นดาวได้ โดยไม่ต้องไปหาวัตถุดิบชั้นยอดเลย อสกมน

ผมเข้าใจที่ท่านสื่อครับ และนั่นยิ่งหมายความว่าคล็อปป์มีสายตาที่ดีที่มองออกว่าซาล่าห์ก็สามารถมาช่วยทีมตรงนี้ได้ถึงได้เลือก ถ้ามองไม่เห็นอะไรในตัวซาล่าห์จริง ผมเชื่อว่าใครจะชักจูงยังไงคล็อปป์ก็คงไม่เอา สุดท้ายก็ต้องให้เครดิตทั้งคล็อปป์ทั้งทีมงานซื้อขายนั่นแหละครับ

ผมแย้งท่านตรงจุดที่ว่าสายตาคล็อปป์ไม่คมเท่านั้นเอง หวังว่าคงเข้าใจนะครับ

ผมไม่ได้อะไรนะ แต่แผล่งให้กับมู้ที่มีสาระ

มากกว่ากระทู้สาย.....

ที่ผมใช้คำเเบบนั้นเพราะกลัวคนจะอวยคล็อปเกินไป

เห็นคนอื่นอวยเเล้ว มาใส่ในนี้เดี่ยวคนจะหมั่นใส่อีก เลยลดโทนลงมาหน่อยเเล้วเเค่นั้นเเหละครับ

ได้ brandt มาอาจจะไม่เกิดขนาดนี้ก็ได้ ดังนั้นผมถึงพูดถึงภาพรวมว่าควรให้เครดิตทีมงานซื้อขายด้วย มันไม่ใช่ผลงานของคล็อปคนเดียว กระจายๆเครดิตไปครับ

ก็นับถือใจ Klopp ด้วยทีกล้าเสี่ยงกับนักเตะที่ TC เเนะนำมาให้ด้วย ยิ่งตอบเเทนด้วยผลงานเเบบนี้ อนาคตทำงานด้วยกันง่ายเลย เพราะเชื่อใจฝีมือกันเองเเล้ว อิอิ

ชอบคล๊อปตรงนี้แหละ เชื่อมั่นในทีมงาน ไม่เอาแต่ใจ

ตอนนี้วิธีการของลิเวอคือมีทีมงานหาข้อมูล พิจรณาความต้องการ เอาชื่อมาเสนอ แต่เอาจริงๆ คนตัดสินใจสุดท้ายคือคล๊อป ถ้าคล๊อปบอกว่าจะเอา ก็เป็นหน้าที่ของบอร์ดละว่าจะต้องขนเงินไปเทเท่าไรดีถึงจะได้ตัวมา

รอดู เกอิต้า ถึงขนาดว่าเราไปสู่ขอล่วงหน้า1ปี มันต้องมีอะไรดีสินะ

ซัมเมอร์นี้ยังไงๆ ก็อยากให้บอสจัดเพิ่มอีกสัก 2-3 ตำแหน่งนะครัช ผมยังมองว่าทีมเราตัวผู้เล่นยังไม่แกร่งเท่าคู่แข่ง อยากได้แชมป์ลีคสักที ครั้งล่าสุดที่ได้ ยังจำความไม่ได้เลย

ก่อนฤดูกาลมีข่าวจูเลี่ยน บรันกับหลายทีมครับ แต่บรันประกาศจะไม่ย้ายทีมก่อนบอลโลก และอยากอยู่ฝึกฝีมือกับเลเวอร์ก่อนครับ น่าจะกลัวย้ายทีมตั้งแต่ยังเด็กแล้วเป็นตัวสำรอง

กรณีนี้ยังไงคล็อปต้องหาเป้าหมายรองอยู่ดี เวลาชมคล็อปว่าซื้อนักเตะดีก็เหมือนกับชมทีมงาน แมวมอง ทุกคนมีส่วนรวมหมด แต่คนตัดสินใจสุดท้ายคือคล็อป ก็ต้องให้เครดิตเยอะสุด

เท่าที่ตามข่าวมา ดีลของBrandtที่ถอยไปส่วนหนึ่งเพราะนักเตะไม่อยากย้ายออกนอกประเทศด้วยนะ และกลัวที่จะไม่ค่อยได้ลงสนามอย่างอย่างสม่ำเสมอ สาเหตุหลักคงเกี่ยวกับติดทีมชาติไปบอลโลก ไหนจะปรับตัวกับประเทศใหม่ ปรับตัวกับทีมใหม่ระบบใหม่ เมื่อนักเตะไม่สนไม่ใช่สโมสรไม่ขายเพราะงั้นเป้าหมายจึงจำเป็นต้องเปลี่ยน

ผมว่าถ้าKloppเล็งใครเป็นเป้าหมายหลัก มันก็ต้องมีการติดต่อทาบทามความเป็นไปได้บ้างแหละ คือถ้าเป็นไปไม่ได้ค่อยถอย คงไม่ใช่เล็งใครไว้จู่ๆทีมงานมาบอก เอาคนนั้นเถอะคนนี้เถอะ โดยไม่ลองทำอะไรเลยหรอก

deal ของโม ผมว่าที่คลอปหันมาจิ้มโม แทนที่จะเอา แบรนท์

ผมว่าสถิติ ส่วนตัวนี่สำคัญเลยนะ ถ้ามีข้อมูลในมือ ของทั้ง2 คน

ในเวลานั้น ใจคลอปแม้อยากจะได้แบรนท์ แต่สถิติ โมมันดูดีกว่า

บวกกับเงื่อนไขของแบรนท์อีกอะไรอีก (เรื่องปรับตัวไรเเบบนั้น)

กับอีกคน ที่อยากกลับมาพิสูจน์ตัวเองหลังจากที่ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรก่อนหน้า

แรงจูงใจมันต่างกัน เป็นผม ผมก็เลือกโม ถึงแม้ว่า แอฟฟริกันเนชั่นมาทีนึง

ลูกทีมผมจะหายไปเยอะก็ตาม