[RE: ไร้ความอิจฉาริษยา!เรเน่ย้อนความยุค"ป๋า"ผีโคตรสามัคคี]
prachya11 พิมพ์ว่า:
CaptainScholes พิมพ์ว่า:
ผมว่าไอความ "สามัคคี" เนี่ยมันสะท้อนออกมาให้เห็นง่ายๆ ผ่านความมุ่งมั่นของนักเตะ แล้วไอสิ่งที่เรียกว่า fergie time จริงๆมันเลยไม่ใช่ฟลุคหรือดวงหรอกครับ แต่มันเป็นสิ่งที่ 11 คนที่เล่นอยู่ในสนามเชื่อและเคารพ 1 คนที่คอยมองคอยสั่งอยู่ข้างสนามจนนาทีสุดท้าย
นักเตะชุดแชมเปี่ยนอะไรทั้งหลายแหล่ แมนยูก็ไม่เคยมี 11 คนครบที่เป็นเวิลคลาสทุกตำแหน่ง มีทั้งนักเตะพื้นๆ นักเตะที่เก่งกาจ ผสมปนเปอยู่ในนั้นเต็มไปหมด แต่ถึงอย่างนั้น
โทรฟี่ต่างๆนาๆที่ประดับอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ก็เป็นอะไรที่ไม่ต้องพิสูจน์กันอีก
ลองนึกภาพ จอห์น โอเชีย ฟิลล์ เนวิลล์ เดนนิส เออร์วิน มิเกล ซิลแวส เวส บราว ถ้าคนพวกนี้อยู่ในทีมชุดมูรินโญ่ ผมว่าโอกาสลงสนามยังไม่มี
แต่คนพวกนี้ได้มาหมดทุกแชมป์แล้ว
ลองนึกภาพ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกมูรินโญ่จับดองอยู่ข้างสนาม หลังจากนัดที่แล้วเล่นไม่ออก มันเป็นไปได้ไม่ได้ที่จะมีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เย่อหยิ่งจองหอง มองตัวเองเป็นหลัก กลายเป็นคนที่มุ่งมั่น จนกลายเป็น 1 ใน 2 นักเตะเพชรเม็ดเอกในโลกปัจจุบัน
ผมว่าสิ่งที่ป๋า จัดการอยู่หลังเกมส์การแข่ง น่ายกย่องกว่าแผนในสนามเป็นไหนๆ
อย่าเอาเออร์วินไปรวมกับจตุรเทพเลยครับ
เออร์วิ่นนี่ถือว่าเป็นแบ็คที่ฟอร์มการเล่นดีสม่ำเสมอมากๆคนหนึ่งในยุคป๋าเลยนะ
ใช่ครับ เออร์วินนี่ตำนานแบ็คซ้ายคนก่อนหน้าเอฟร่าเลยนะ ฟอร์มดีสม่ำเสมอ เป็นตัวหลักป๋ายันอายุสามสิบต้นๆ
ดุดัน ความเข้าใจเกมสูงมาก ยืนตำแหน่งโคตรดี จังหวะรุกรับทำได้เนียนมาก จุดเด่นคือลูกิเปิดกับลุกฟรีคิก
อาจจะมีจุดอ่อนตรงลูกโด่งกับความเร็ว แต่เป็นแบ็คตัวหลักเลยแหละ
มูเลนสทีนเลื่อนขึ้นมามีบทบาทสำคัญในทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของเฟอร์กูสันในปี 2008 ซึ่งเป็นตอนที่พวกเขามีซูเปอร์สตาร์อย่างคริสติอาโน่ โรนัลโด้,เวย์น รูนี่ย์และคาร์ลอส เตเบซ
