วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561



อาร์เซน่อล - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ( 23:30 น. )
สนาม : เวมบลีย์ , ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน

"ไอ้ปืนใหญ่" ไม่ได้แชมป์รายการนี้มาตั้งแต่ปี 1993 ในยุค จอร์จ เกรแฮม ซึ่งเอาชนะ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศโดยซีซั่นนี้พวกเขาฝ่าด่าน ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส, นอริช ซิตี้, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ เชลซี มาถึงรอบไฟนัลได้

นั่นหมายความว่า อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล คนปัจจุบันยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้ได้เลยซึ่งตามข่าวขงเบ้งเฟรนช์แมนเตรียมส่ง 11 ตัวจริงชุดเก๋าลงบู๊โดยสโมสรเคยได้แชมป์รายการนี้ 2 สมัยและเข้าป้ายพระรองอีก 5 สมัย

แผงกลางได้ อารอน แรมซี่ย์ หายเจ็บโคนขาหนีบกลับมาและน่าจะได้ เมซุต โอซิล หายป่วยมาช่วยทีมอีกรายด้วยแต่ เฮนริค มคิทาร์ยาน ติดคัพ-ไทด์ลงเล่นไม่ได้

แดนหน้าไม่มี อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ที่เดี้ยงยาวแต่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่เมื่อกลางสัปดาห์ได้พักเพราะหมดสิทธิ์เล่นยูโรป้า ลีกพร้อมลงล่าแชมป์ใบแรกกับต้นสังกัด

"เรือใบสีฟ้า" ฟอร์มเกมรุกซีซั่นนี้สุดยอดถล่มตาข่ายรวมทุกรายการเกิน 100 ประตูไปแล้วโดย ซิตี้ เคยได้แชมป์รายการนี้ 4 สมัยซึ่งครั้งหลังสุดคือซีซั่น 2015/16 ดวลจุดโทษตัดสินชนะ ลิเวอร์พูล รวมถึงอกหักเป็นรองแชมป์ 1 สมัย

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลุ้นแชมป์ใบแรกกับต้นสังกัดโดยเขาเคยลงเล่นในเวมบลีย์เมื่อปี 1993 ให้ บาร์เซโลน่า ชนะ ซามพ์โดเรีย 1-0 คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพและในฐานะผู้จัดการทีมเคยนำ บาร์ซ่า คว้าแชมป์ยุโรปที่สนามแห่งนี้เช่นกันด้วยการชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1

ความพร้อมแมตช์นี้พวกเขาได้ กาเบรียล เชซุส กองหน้าแซมบ้ากลับมาจากการเจ็บเข่าพักไปตั้งแต่สิ้นเดือนธันวาคมนัดที่เสมอ คริสตัล พาเลซ แบบไม่มีสกอร์โดยเจ้าตัวพร้อมแล้วสำหรับการลงสนามครั้งแรกในปี 2018

กระนั้นต้องรอทดสอบความฟิต ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกจอมเข้าฮอสมีปัญหากล้ามเนื้อจากเกมแพ้ วีแกน แอธเลติก ที่เขาเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวส่วนที่ลงไม่ได้แน่ๆคือ ฟาเบียน เดลฟ์ ติดโทษแบนและหน้าปากประตู เคลาดิโอ บราโว่ เตรียมลงเฝ้าเสา

เกร็ดอื่นๆที่น่าสนใจ
- นี่คือครั้งแรกที่ทั้งสองทีมเจอกันในบอลถ้วยรายการเมเจอร์

- เจอกันที่เวมบลีย์ 2 ครั้ง อาร์เซน่อล ชนะได้ทั้งหมด ( 3-0 คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2014 , 2-1 รอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ 2016/17 )

- เจอกันในรายการนี้ 5 ครั้งแรกช่วงระหว่างปี 1977 ถึง 2005 แมนฯ ซิตี้ แพ้รวดแต่หลังจากนั้นอีก 2 ครั้งซีซั่น 2009/10 กับ 2011/12 ซิตี้ ชนะได้หมด

- อาร์เซน่อล มาถึงรอบชิงด้วยการทำไป 6 ประตู น้อยสุดในประวัติศาสตร์รายการนี้

- หากได้แชมป์ อาร์แซน เวนเกอร์ จะเป็นกุนซือคนที่ 8 ที่ได้แชมป์ในอังกฤษครบ 3 รายการต่อจาก บิล นิโคลสัน, ดอน เรวี่, โจ เมอร์เซอร์, จอร์จ เกรแฮม, เคนนี่ ดัลกลิช, เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ โชเซ่ มูรินโญ่

- เวนเกอร์ เข้าชิงบอลถ้วยในอังกฤษทั้งสิ้น 10 ครั้งชนะไป 7 แต่ 2 ครั้งที่เข้าชิงรายการนี้เขาแพ้รวด ( 2007 แพ้ เชลซี , 2011 แพ้ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ )

- โลรองต์ กอสเซียลนี่ กับ แจ็ค วิลเชียร์ อยู่ในทีมชุดแพ้ เบอร์มิงแฮม 7 ปีที่แล้ว

- เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุมทีมเข้าชิงบอลถ้วยรายการเมเจอร์ 7 ครั้งชนะได้แชมป์ถึง 6 ครั้ง หนเดียวที่แพ้คือปี 2011 นำ บาร์ซ่า แพ้ เรอัล มาดริด ในนัดชิง โกปา เดล เรย์

- ซิตี้ ทำไป 8 ประตูก่อนมาถึงรอบชิงคาราบาว คัพซีซั่นนี้โดยสองคนที่มีส่วนร่วมโดยตรงมากที่สุดคือ ลีรอย ซาเน่ กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา 4 เท่ากัน ( ซาเน่ ยิง 3 จ่าย 1 , ซิลวา ยิง 1 จ่าย 3 )

- เซร์คิโอ อเกวโร่ พังตาข่าย อาร์เซน่อล ได้ 4 นัดติดต่อกันในทุกรายการนัดละประตู
สกอร์ที่คาด : ซิตี้ ชนะ 2-1

บราโว่ลง เสียวชะมัด

จริงครับ เข้าใจว่าบราโว่ช่วยพาเข้ามา แต่เกมส์นัดเดียวแบบนี้ ยิ่งนัดชิง ผมว่าแอเดอสันน่าจะดีกว่านะ เป๊ปมั่นใจเกินไป

มันเป็นสัญญาใจที่ให้บราโว่ลงบอลถ้วยในประเทศมั้ง
แต่ถ้วยนี้พี่โว่ช่วยจุดโทษมาสองนัดถ้าไม่ได้ลงนี่น่าเกลียดมาก
ผมว่าแบบนี้แหล่ะดีแล้ว ถ้ามันจะแพ้ก็ต้องยอมรับทำไงได้

เห็นด้วยครับ

หวังว่าจะเป็นเหมือนนัดวิลลี่คว้าแชมป์