โฆเซ่ หลุยส์ ชิราเวิร์ต!!
หลังจากเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับ สโมสร สปอร์ติโว ลูเกร์โน ในลีกบ้านเกิด ปารากวัย โดยสร้างความตื่นตาตื่นใจในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่มีสถิติการยิงประตูให้ทีมได้สี่ประตู จากนั้นเขาย้ายมาเล่นให้กับ กัวรานี่ ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงหนี่งฤดูกาล แต่สามารถคว้าแชมป์ลีกกับทีมได้สำเร็จ ก่อนที่ ซาน ลอเรนโซ่ สโมสรฟุตบอลในลีก อาร์เจนติน่า จะสนใจคว้าตัวเขาไปช่วยทีมตลอดสามฤดูกาล
ความท้าทายใหม่ ๆ เกิดขึ้นกับเขาเสมอ ฤดูกาล 1988-1989 เขาเดินทางออกจากทวีปอเมริกาใต้มายัง สเปน โดยเล่นให้กับ รีล ซาราโกซ่า เมื่อต้องย้ายมาต่างที่ต่างถิ่น ความมั่นใจในสไตล์การเล่นที่แหวกขนบจากผู้รักษาประตูทั่วไป เช่น การออกมาตัดบอลไกลนอกกรอบเขตโทษ หรือขึ้นมาขอยิงจุดโทษหรือลูกฟรีคิก ทำให้เขาต้องยึดมั่นในแนวทางของตัวเองอย่างหนักโดยไม่มีสิ่งใดจะช่วยได้ดีไปกว่าการฝึกซ้อม
“ที่ ซาราโกซ่า แฟนบอลมักจะมองว่าผมเป็นพวกเล่นแผลง ๆ เมื่อลูกบอลมาหยุดที่เท้าของผม เสียงกรีดร้องจะพุ่งตรงมาที่ผมทันที ด้วยการตะโกนบอกให้ผมกลับไปที่โกล์ แต่ผมไม่เคยหยุดความตั้งใจ ไม่สนใจว่าผู้คนจะพูดอะไรถึงผม ผมแค่เชื่อมั่นในความสามารถของผม และพยายามเริ่มต้นฝึกซ้อมการยิงลูกโทษและฟรีคิกจนกว่ามันจะสามารถหวังผลได้จริง”
หลังเสร็จจากการซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมซาราโกซ่า เขาจะนำลูกบอลมาตั้งเพื่อฝึกซ้อมยิงฟรีคิกวันละ 80-120 ลูก และพยายามพัฒนาให้ค้นพบเทคนิคที่ดีที่สุด
เขาติดทีมชาติ ปารากวัย ในปี 1989 และเมื่อผ่านพ้นสามฤดูกาลกับฟุตบอลสเปน เขาย้ายกลับมายังลีก อาร์เจนติน่า อีกหน กับทีม เบเลซ ซาร์สฟิลด์ โดยหนนี้ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์กับสโมสร และประวัติศาสตร์ของตนเองอย่างแท้จริง โดยเขาสามารถคว้าแชมป์ลีก อาร์เจนติน่า 4 ครั้ง (1993, 1995, 1996, 1998) แชมป์โคปาลิเบอร์ตาดอเรส คัพ ปี 1994 พร้อมกับสร้างสถิติเป็นผู้รักษาประตูที่ยิงให้สโมสรรวม 45 ประตู ตลอดสิบฤดูกาล
ไฮไลต์สำคัญจากประตูทั้งหมดที่เขาทำได้เกิดขึ้นในเกมหนึ่งที่ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ถล่มคู่แข่ง 6-1 โดยมีชื่อผู้รักษาประตูเป็นคนยิงแฮตทริกจากจุดโทษในเกมวันนั้น
เขายิงทั้งหมด 8 ประตู ในการลงเล่นให้ทีมชาติ ปารากวัย และได้รับการโหวตให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งทวีป อเมริกาใต้ ปี 1998 ตลอดอาชีพค้าแข้ง เขาทำประตูไปทั้งหมด 67 ประตู เป็นอันดับสองรองจาก โรเจริโอ เซนี่ แห่งบราซิล เพียงคนเดียว
ฤดูกาล 2000-2001 เขาหวนคืนลีกยุโรปอีกครั้ง โดยตกลงย้ายมาเฝ้าเสาให้กับสโมสรเล็ก ๆ ในฝรั่งเศส อย่าง สตาร์บูร์ก และประวัติศาสตร์ก็ถูกจารึกขึ้นอีกครั้ง เมื่อสตาร์บูร์ก ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศรายการ เฟร้นส์ ลีก คัพ พบกับ อาเมียงส์ สุดท้ายเกมต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษหาแชมป์
ลูกยิงจากตัวยิงคนที่สี่ของ อาเมียงส์ ถูกปฏิเสธจาก มือประตูทีมชาติ ปารากวัย และเมื่อมาถึงคนยิงคนสุดท้ายของ สตาร์บูร์ก หากลูกนี้เข้าประตู สโมสรจะคว้าแชมป์ พร้อมกับตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปปีหน้าทันที
ผู้รักษาประตูของ สตาร์บูร์ก ถือบอลมาตั้งยังจุด หลังเสียงสัญญาณนกหวีดจากกรรมการ เขาวิ่งเข้ามายิงบอลเต็มข้อเท้าตามสไตล์ถนัด บอลพุ่งวาบกระทบตาข่าย สตาร์บูร์ก กลายเป็นแชมป์ฟุตบอลถ้วยฝรั่งเศส แม้ทีมต้องตกชั้นในฤดูกาลหน้า
จากวันที่เสียงร้องตะโกนให้เขากลับไปที่โกล์อย่างไม่เชื่อใจในช่วงค้าแข้งที่สเปน แต่แล้วนักเตะตำแหน่งผู้รักษาประตูคนนี้ทำได้ทำในสิ่งที่เขาเชื่อมั่นในตัวเองมาตลอด เขาสามารถคว้าแชมป์หนึ่งรายการกับสโมสรเล็ก ๆ ในลีกทวีปยุโรปในที่สุด และความสำเร็จครั้งนี้มันมาจากสองมือและสองเท้ากับความเชื่อมั่นของเขานั่นเอง
‘เดอะ บูลด็อก’ โฆเซ่ หลุยส์ ชิราเวิร์ต
Credit - Referee no 4
แฟนๆรุ่นเก่าหรือคนที่ชอบเล่นวินนิ่งเมื่อก่อนน่าจะรู้จักเขาดี