เล่าประสบการณ์การดู AKB48
ท่ามกลางกระแส BNK48 ผมขอเล่าถึงตอนที่ผมได้ไปดูวงต้นฉบับ AKB48 ที่ญี่ปุ่นในเธียร์เตอร์ของวงให้ฟังสักนิด เพราะอีกหน่อย BNK ก็ต้องมีเธียร์เตอร์ของตัวเองเหมือนกัน แต่จะเหมือนกันมั้ย อันนี้ไม่รู้นะฮะ
ต้องบอกก่อนว่าผมได้ไปทำงานที่ญี่ปุ่นเมื่อสิบปีก่อน หลังจากเสร็จงาน ผมมีเวลาว่างอยู่สองวัน ก่อนที่แฟนผมจะบินตามไปเพื่อเที่ยวกันต่อ ช่วงว่างสองวันนั้นผมก็ตระเวนเที่ยวไปเรื่อยๆ แล้วผมก็แวะไปอากิฮาบาระ เดินเล่นไปจนเข้าไปในตึก Don Quijote
ผมพอจะได้ยินช่ื่อของ AKB มาบ้าง แต่ไม่เคยฟัง ไม่ได้ตาม รู้แต่ว่าเป็นไอดอลสาวๆ ชื่อดัง รู้แค่นี้จริงๆ ผมเดินขึ้นตึกไปสาม-สี่ชั้นแรกเป็นช็อปปิ้ง ผมก็ดูผ่านๆ ไม่ค่อยได้สนใจอะไรเลย ชั้นห้าเหมือนจะเป็นเมดคาเฟ่ ชั้นหกเป็นพวกตู้เกม (พวกชั้นนี่ผมอาจจะจำไม่แม่นนะฮะ สิบปีแล้ว) แล้วผมก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นบนสุด
โผล่ขึ้นจากบันไดเป็นทางเดินแคบๆ ตรงเข้าด้านใน ทางขวาเป็นช่องกระจกขายตั๋ว ทางซ้ายเป็นกำแพงที่มีรูปสาวๆ ใส่กรอบ เรียงรายเต็มกำแพงไปหมด ผมเดินเข้าไปด้านใน ก็จะกลายเป็นโถงกว้างๆ มีบู้ธขายของกระจายอยู่ พวกซีดี โฟโต้บุ๊ค ไรงี้ แต่ตอนที่ผมขึ้นไปเนี่ย ร้างสุดๆ ไม่มีคนเลย ผมก็เดินงงๆ ออกมา พอจะลงบันได พี่คนขายตั๋วแกดันโผล่ออกมาพอดี แกก็เคาะกระจกเรียก ผมก็เลยเดินไปคุยด้วย ก็คุยกันไม่รู้เรื่องอ่ะครับ 555555555 แกยิงญี่ปุ่นใส่ผมรัวมากๆ สุดท้าย ผมจับได้แค่ว่ามันแสดงเป็นรอบ ซึ่งรอบต่อไปของวันนี้คืออีกชั่วโมงกว่าๆ แล้วผมก็ว่างไง ก็เลยจัดตั๋วไปหนึ่งใบ (จำราคาไม่ได้แล้วครับ น่าจะ 3,000 เยนมั้ง) จากนั้น ผมก็ลงไปเดินเล่นแถวนั้น
พอใกล้เวลาแสดง ผมก็กลับขึ้นมา ทีนี้คนละเรื่องเลยครับ บรรดาโอตะยืนกันอยู่จนเต็มพื้นที่ (มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น) ผมก็แทรกๆ เดินเข้าไป ตอนนั้นอยากเข้าใจภาษาญี่ปุ่นมากๆ เพราะผมงงจริงๆ สักพัก ก็มีสตาฟฟ์ออกมาพร้อมโทรโข่ง พูดแบบรัวๆ บรรดาโอตะก็กระจายตัวเข้าแถวกันอย่างรวดเร็ว ผมนี่ยืนเหวออยู่ ก็มีสตาฟฟ์เดินมาหา ผมเลยยื่นบัตรให้ เค้าดูปุ๊บก็ชี้แถวให้ผมไปยืน ผมก็ไปยืนตามที่บอก แล้วค่อยมาดูที่บัตรอีกที คือบัตรผมเนี่ยมันเบอร์ 21 ไอ้ที่เค้าประกาศเมื่อกี้คือให้ทุกคนเข้าแถวเรียงกันตามเบอร์ แถวละสิบคน รอบนั้นน่าจะ 150-200 คนได้ ผมก็คือคนหัวแถวที่สามนั่นเอง
จากนั้น สตาฟฟ์ก็เอาเครื่องหมุนเสี่ยงเบอร์ออกมา พร้อมกับยิงภาษาญี่ปุ่นรัวๆ ทุกคนก็ส่งเสียงฮือฮากัน มันคือการสุ่มเบอร์ครับว่าแถวไหนจะได้เข้าเธียร์เตอร์ก่อน พอผมรู้ว่ามันคืออะไร ผมก็หันกลับไปบอกพี่คนข้างหลังผมเลยว่า ผมไม่ใช่คนญี่ปุ่นนะ ถ้าเป็นแถวเราก็บอกผมแล้วกัน เฮียก็พยักหน้าหงึกหงัก ไม่รู้เข้าใจจริงหรือเปล่า
เบอร์ก็ถูกจับออกมาเรื่อยๆ คนก็ทยอยเข้าไปเรื่อยๆ แต่ไม่ถึงแถวผมสักที จนหมดอ่ะครับ แถวผมได้เป็นแถวสุดท้าย 55555555 ทุกคนนี่หน้าตาผิดหวังกันมากๆ
พอเข้าไปในเธียร์เตอร์ พื้นที่นี่โดนจับจองแน่นไปหมดแล้วครับ พวกผมต้องไต่ขึ้นไปอยู่บนอัฒจรรย์ริมผนังชั้นบนสุด คือมันเป็นห้องน่าจะทรงรีนะครับ เวทีอยู่ด้านหน้า มีที่นั่งเป็นแถวโค้งๆ ด้านหน้าเวที ส่วนด้านข้างซ้าย-ขวาจะจัดเป็นอัฒจรรย์สามหรือสี่ชั้นนี่แหละ ผมก็ไต่ขึ้นไปบนนั้น ซึ่งก็เห็นเวทีชัดดี แค่ไกลไปหน่อย
บรรดาโอตะนี่เค้าจะมาพร้อมอุปกรณ์เชียร์ มีโปสเตอร์ มีรูป มีพัด พร้อมเชียร์โอชิตัวเองกันเต็มที่ ตอนที่น้องๆ แสดง เสียงร้องของโอตะนี่ดังกระหึ่มมากๆ ความที่ผมไม่ได้เป็นแฟนเพลง เลยดูภาพบรรยากาศรวมๆ มากกว่า น้องๆ ก็แสดงกันเต็มที่นะครับ ทั้งเต้นและร้อง พูดคุยกับแฟนคลับ ขณะที่โอตะนี่สุดติ่งกว่ามาก ร้องตามได้ทุกเพลง เต้นตามได้ทุกสเต็ป หมุนตัว สะบัด ได้หมดจริงๆ การได้เห็นผู้ชายญี่ปุ่นในคราบโอตาคุแท้ๆ มาร้องเต้นตามไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปแบบนี้ เปิดโลกผมสุดๆ อ่ะครับ
พอดูจบ ผมก็ออกมาที่ลานด้านหน้า ไปยืนเล็งๆ พวกโฟโต้บุ๊คแหละครับ แต่ก็ไม่ได้ซื้อมานะ นึกตอนนี้แล้วก็เสียดายอยู่เหมือนกัน น่าจะจัดมาให้ครบๆ มารู้ตอนจบนี่แหละว่าที่ผมได้ดูคือทีม K มีใครมั่งก็ไม่รู้ 55555555
นี่พอมาเขียนเล่านี่ เลยไปค้นข้อมูลเพิ่มเติม มีคนเขียนไว้ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงหลังกว่าที่ผมไปมา น่าจะสี่-ห้าปีก่อนนี่เอง
http://th.at1987.com/life/japan-trip-part-15/
ไปอ่านกันได้ฮะ
อีกหน่อย น้องๆ BNK ก็จะมีเธียร์เตอร์ของตัวเองแบบนี้แหละ ใครได้ไปดูก็มาเล่าให้ฟังด้วยนะ