ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 6404
ที่อยู่: thailand, Land of smile
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 3:35 pm
อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด
วันนี้มาทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิต พอไปหลายๆวัดอยู่ๆก็มีความคิด มีคำถามหลายๆอย่างที่ไม่เคยสงสัยมาก่อน
-เราจะแย่งกันทำบุญเบียดกันทำไม
-เรามีสิทธิตั้งคำถามไหม เพราะพอถามคนที่ไปด้วยก็มักได้คำตอบแบบ อย่าสงสัย ทำบุญต้องทำด้วยใจบริสุทธิ์ห้ามสงสัย
-อยากประสบความสำเร็จต้องทำบุญ อยากรวยต้องทำบุญ

ปล.วันนี้หัวโนเพราะกระแทกแท่งยื่นๆข้างๆลูกนิมิต จากการเบียดปิดทองลูกนิมิต
ปล2. ผมคนพุทธแต่กำเนิด เกิดมาก็นับถือพุทธเลย ทำบุญมาก็ทำๆไปไม่เคยสงสัย



“However bad life may seem, there is always something you can do, and succeed at. While there’s life, there is hope” – The Theory of Everything (2014)
เข้าร่วม: 21 Oct 2013
ตอบ: 663
ที่อยู่: Old trafford
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 3:38 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมครับ
เข้าร่วม: 23 Sep 2013
ตอบ: 810
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 3:44 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
ดีใจนะครับ ที่มีคนตั้งคำถามสิ่งรอบตัวเพิ่มขึ้นมา

ถ้าพูดกันจริง ๆ เเล้ว ส่วนใหญ่วัฒนธรรมเราถูกตั้งโปรแกรมว่าห้ามถาม ห้ามสงสัยสิ่งที่ทำมานานหรือคนโบราณ

มันก็มีข้อดีเเหละ แต่ผมว่า ถ้าเราตั้งคำถาม เราจะมองเห็นภาพในมุมที่กว้างขึ้นมาก ๆ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 3934
ที่อยู่: ตอนนี้..เพราะอยากพบเจอเธออีกสักครั้ง !!
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 3:45 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
ศาสนาพุทธ มีฝังลูกนิมิตกันตอนไหนครับ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 11303
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 3:47 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
ผมก็คนพุทธครับ พุทธแบบไม่มีทางเลือกไม่มีโอกาสเลือก เกิดมาพุทธเลย ผมก็เป็นคนนึงที่มีคำถามมากมายครับว่าคนเราทำบุญเพื่ออะไร เพราะทุกคนที่ไปทำบุญไม่ได้ทำเพราะใจบริสุท 100% ไม่ได้ทำเพราะอยากส่งกุศลโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่ไปทำบุญเพื่อหวังผล ผลกำไรจากบุญที่ไปทำ ผมมีคำถามนี้ตั้งแต่ตอนบวชเป็นพระให้พ่อแม่ละครับแต่เราก็ไม่ได้ไปขวางโลกใครสบายใจแบบไหนก็ทำ

ปัจจุบันผมไม่เข้าวัดทำบุญบ่อยแล้วแต่ผมเลือกไปทำทานตามสถานที่เด็กกำพร้า เด็กพิการแทนครับเพราะผมรู้สึกอิ่มใจมากกว่าแล้วก็ไม่ต้องไปยกมือไหว้เพื่อหวังกำไรบุญจากวัดด้วย

อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ถูกใจใครต้องขออภัยเป็นอย่างมากครับ
เข้าร่วม: 13 Apr 2016
ตอบ: 262
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 3:55 pm
[RE]อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด
ผมว่าท่านคิดถูกนะครับ
-ศาสนาพุทธเกิดจากการที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสวงหาทางดับทุกข์ จนได้ค้นพบอริยสัจ 4 และหลักคำสอนต่างๆ ล้วนเพื่อทุกคนหมดทุกข์
-หลักคำสอนมีการชำระพระไตรปิฏกหลายต่อหลายครั้ง ต่างกันทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณี ในแต่ละพื้นที่
-ส่วนประเพณีในไทย หลายประเพณีได้หลอมรวมเอาศาสนาท้องถิ่น พราหมณ์ มาไว้ด้วยกัน
-การปิดทองฝังลูกนิมิต ต้องได้รับพระราชโองการพระราชทานวิสุงคามสีมา ถึงจะฝังลูกนิมิตได้ ส่วนก่อนหน้านั้นแม้จะเป็นวัดแต่ในทางความเป็นจริงก็คือสำนักสงฆ์ครับ
-การทำบุญฝังลูกนิมิต แล้วได้บุญมาก เป็นความเชื่อครับ ถ้าถามทางปฏิบัติ คือการเชิญคนให้เข้าวัดมากกว่า เพราะเดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่ก็ห่างไกลวัดค่อนข้างเยอะ (เป็นความเห็นส่วนบุคคลนะครับ)
-การตั้งคำถาม ถือว่าถูกต้องครับ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มองเหตุและผล (กรรมและผลของกรรม) แต่ก่อนที่จะพิจารณาสิ่งใดด้วยเหตุผล ต้องศึกษาให้มากก่อนครับ
-อยากรวยต้องทำบุญ นานาจิตตังครับ ไม่อยากตัดสินความเชื่อของใคร แต่สำหรับผม อยากรวย อยากสำเร็จ ต้องศึกษาและลงมือทำ (Luck มีผลบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด)
เข้าร่วม: 02 Mar 2010
ตอบ: 6954
ที่อยู่: ทับแก้ว
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 3:58 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
ถ้าท่านเกิดคำถาม ท่านไม่ได้บุญละครับ
อันนี้ศาสนาอื่นก็เป็นนะ ห้ามเกิดข้อสงสัย
ถ้ามีข้อสงสัยนี่คือเด้งละ อยู่นอกสารบบบุญ สารบบศรัทธา

อันนี้คือเราต้องมองด้วยหลักที่ว่าบุญมันมีจริงเป็นพื้นฐานไปก่อนนะ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 6404
ที่อยู่: thailand, Land of smile
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 4:09 pm
[RE]อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด
iForte พิมพ์ว่า:
ผมว่าท่านคิดถูกนะครับ
-ศาสนาพุทธเกิดจากการที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสวงหาทางดับทุกข์ จนได้ค้นพบอริยสัจ 4 และหลักคำสอนต่างๆ ล้วนเพื่อทุกคนหมดทุกข์
-หลักคำสอนมีการชำระพระไตรปิฏกหลายต่อหลายครั้ง ต่างกันทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณี ในแต่ละพื้นที่
-ส่วนประเพณีในไทย หลายประเพณีได้หลอมรวมเอาศาสนาท้องถิ่น พราหมณ์ มาไว้ด้วยกัน
-การปิดทองฝังลูกนิมิต ต้องได้รับพระราชโองการพระราชทานวิสุงคามสีมา ถึงจะฝังลูกนิมิตได้ ส่วนก่อนหน้านั้นแม้จะเป็นวัดแต่ในทางความเป็นจริงก็คือสำนักสงฆ์ครับ
-การทำบุญฝังลูกนิมิต แล้วได้บุญมาก เป็นความเชื่อครับ ถ้าถามทางปฏิบัติ คือการเชิญคนให้เข้าวัดมากกว่า เพราะเดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่ก็ห่างไกลวัดค่อนข้างเยอะ (เป็นความเห็นส่วนบุคคลนะครับ)
-การตั้งคำถาม ถือว่าถูกต้องครับ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มองเหตุและผล (กรรมและผลของกรรม) แต่ก่อนที่จะพิจารณาสิ่งใดด้วยเหตุผล ต้องศึกษาให้มากก่อนครับ
-อยากรวยต้องทำบุญ นานาจิตตังครับ ไม่อยากตัดสินความเชื่อของใคร แต่สำหรับผม อยากรวย อยากสำเร็จ ต้องศึกษาและลงมือทำ (Luck มีผลบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด)  
เหมือนท่านจะรู้ในสิ่งที่ผมไม่รู้ ถ้าไม่เป็นการรบกวน มีหนังสืออะไรแนะนำให้อ่านไหมครับ
1
0



“However bad life may seem, there is always something you can do, and succeed at. While there’s life, there is hope” – The Theory of Everything (2014)
เข้าร่วม: 06 Apr 2014
ตอบ: 18284
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 4:10 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
ไม่ต้องทำตามคนอื่นครับ พุทธ = พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ไม่มีพระโบสถ์ พระลูกนิมิตสักหน่อย
เข้าร่วม: 07 Feb 2006
ตอบ: 12892
ที่อยู่: Theater of Dreams
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 4:12 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
ผมว่าก็คิดกันทุกคนนั้นแหละ

บุญคืออะไร?? ทำไปแล้วได้อะไร?? ส่งผลต่อชีวิตมากน้อยแค่ไหน??

คิดต่างจะโดนศาสนาลงโทษเหรอ ผมก็ว่าไม่นะ

ในโลกปัจจุบันมันทำให้คนเราออกห่างศาสนามากกว่านะ แต่ถ้ายังยึดหลักทำดี คิดดี ประพฤติดี ผมว่ามันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ

--------------------------------------------------------

ส่วนตัวผมมองว่าบุญ คือ การบริจาค การทำทานนะ มากน้อยก็ทำไป ถือว่าเป็นการให้

เป็นพื้นฐานของความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน

เข้าร่วม: 04 Nov 2010
ตอบ: 3394
ที่อยู่: Thailand
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 4:15 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
ผมเลิกไหว้พระ ใส่บาตร เข้าวัด ฟังเทศน์หรือทำกิจกรรมอะไรเกี่ยวกับศาสนาะไรครัครับทุกศาสนามานานมากล่ะ ถ้าไม่ใช่มารยาททางสังคมบังคับ
สมัยวัยรุ่นเคยทำเพื่อหาที่พึ่งทางจิตใจ หาความก้าวหน้า หรือหาโชค หาสิ่งลี้ลับสนับสนุนก็ว่าได้ จากหลายๆศาสนา

ปัจจุบันงดไปหมด ชีวิตก็ก้าวหน้าราบรื่นปรกติ ตามความสามารถ และตามการตัดสินใจในเวลาชีวิตนั้นๆที่ควรจะมี ควรจะเป็น ไม่ได้มีอะไรผิดปรกติอะไร ไม่ได้เดือดร้อนใจอะไร
แม้อาจจะมีคนกระแนะกระแหนอยู่เรื่อยๆ ว่ากินบุญเก่า ว่าดวงไม่ดี โน่นนี่นั่นครับ
Chelsea supporter since 1992 ... o_O"
เข้าร่วม: 02 Oct 2010
ตอบ: 6403
ที่อยู่: 16
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 4:23 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
อย่างไปหาคำตอบ กับ สิ่งที่เรียกว่า ความเชื่อ เพราะมันพิสูจน์ไม่ได้
หาเพื่อนเตะบอลได้ที่


www.liketaeball.com หรือ www.facebook.com/liketaeball
เข้าร่วม: 13 Apr 2016
ตอบ: 262
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 4:29 pm
[RE]อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด
ทาสรักสาวตัวเล็ก พิมพ์ว่า:
iForte พิมพ์ว่า:
ผมว่าท่านคิดถูกนะครับ
-ศาสนาพุทธเกิดจากการที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสวงหาทางดับทุกข์ จนได้ค้นพบอริยสัจ 4 และหลักคำสอนต่างๆ ล้วนเพื่อทุกคนหมดทุกข์
-หลักคำสอนมีการชำระพระไตรปิฏกหลายต่อหลายครั้ง ต่างกันทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณี ในแต่ละพื้นที่
-ส่วนประเพณีในไทย หลายประเพณีได้หลอมรวมเอาศาสนาท้องถิ่น พราหมณ์ มาไว้ด้วยกัน
-การปิดทองฝังลูกนิมิต ต้องได้รับพระราชโองการพระราชทานวิสุงคามสีมา ถึงจะฝังลูกนิมิตได้ ส่วนก่อนหน้านั้นแม้จะเป็นวัดแต่ในทางความเป็นจริงก็คือสำนักสงฆ์ครับ
-การทำบุญฝังลูกนิมิต แล้วได้บุญมาก เป็นความเชื่อครับ ถ้าถามทางปฏิบัติ คือการเชิญคนให้เข้าวัดมากกว่า เพราะเดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่ก็ห่างไกลวัดค่อนข้างเยอะ (เป็นความเห็นส่วนบุคคลนะครับ)
-การตั้งคำถาม ถือว่าถูกต้องครับ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มองเหตุและผล (กรรมและผลของกรรม) แต่ก่อนที่จะพิจารณาสิ่งใดด้วยเหตุผล ต้องศึกษาให้มากก่อนครับ
-อยากรวยต้องทำบุญ นานาจิตตังครับ ไม่อยากตัดสินความเชื่อของใคร แต่สำหรับผม อยากรวย อยากสำเร็จ ต้องศึกษาและลงมือทำ (Luck มีผลบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด)  
เหมือนท่านจะรู้ในสิ่งที่ผมไม่รู้ ถ้าไม่เป็นการรบกวน มีหนังสืออะไรแนะนำให้อ่านไหมครับ  


ยุคนี้ หาหนังสืออ่านอาจไม่ทันใจครับ Google เนี่ยละ ไวสุดละ

เปิดใจอ่านหลายๆทาง ฟังความเห็นหลายๆด้าน

ยุค 4G อย่าปล่อยให้ความสงสัยเลยผ่านไป ความรู้อยู่รอบตัวเราครับ

สู้ๆครับท่าน
เข้าร่วม: 01 Jun 2014
ตอบ: 1765
ที่อยู่: สังคมก้มหน้า
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 4:40 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
เดินทางไปประเทศที่ไม่ใช่พุทธดูครับ ยิ่งเดินทางยิ่งรับรู้
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 917
ที่อยู่: ในใจเธอ
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 4:46 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
ผมพุทธ แค่ในบัตรประชาชนคับ ตอนนี้ไร้ศาสนา ไม่นับถือไม่เชื่ออะไรทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ยุ่งกับความเชื่อใคร
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 6048
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 6:03 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
VodkaMartini พิมพ์ว่า:
ถ้าท่านเกิดคำถาม ท่านไม่ได้บุญละครับ
อันนี้ศาสนาอื่นก็เป็นนะ ห้ามเกิดข้อสงสัย
ถ้ามีข้อสงสัยนี่คือเด้งละ อยู่นอกสารบบบุญ สารบบศรัทธา

อันนี้คือเราต้องมองด้วยหลักที่ว่าบุญมันมีจริงเป็นพื้นฐานไปก่อนนะ  


ในฐานะชาวพุทธ ขอตอบว่าไม่จริงนะครับ
สงสัยได้ ถามได้ครับ ถ้าพูดแบบคร่าวๆ แม้แต่พระพุทธเจ้าท่านก็ยังบอกเลยว่าให้สงสัย อย่าเชื่อเพียงแต่เค้าทำตามต่อๆกันมา (กาลามสูตร)

เพียงแต่วิธีที่ดีที่สุดในการตอบคำถามคือ.. ปฏิบัติครับ สงสัยต้องลงมือทำเลยครับ

ถ้าไม่ใช่ ไม่เจอทางออก ก็และแต่ท่านแล้วครับ ว่าจะเพียรต่อไปหรือไม่ หรือจะลองหาวิธีการอื่นๆ

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งเรามักตีความคำว่า "บุญ" ผิดไปไกลครับ

บุญ หมายถึง ความดี เป็นชื่อของความสุข ผู้ที่ปรารถนาจำต้องรู้ว่าอะไรเป็นบุญ จะได้ทำให้สำเร็จผลสมความมุ่งหมาย ผู้ที่ทำตามๆ กันมาไม่รู้ว่าอะไรเป็นบุญ จะทำให้ถูกต้องไม่ได้ แม้จะทำด้วยความงมงาย ก็ไม่นำให้สำเร็จประโยชน์

บุญมาจากภาษาบาลีคือคำว่า ปุญญะ แปลว่า เครื่องชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ การชำระจิตใจจากเครื่องเศร้าหมองทั้งหลายโลภะ โทสะหรือโมหะ บุญอีกความหมาย แปลว่าเต็ม มีความสุขเป็นการตั้งใจและเต็มใจทำ

ดังนั้นแล้วการที่เราไปทำบุญ ไม่ได้หมายถึงการไปสะสมแต้มบุญในชาตินี้หรือชาติหน้า
แต่เป็นการที่เราไปประพฤติ ปฏิบัติตนเพื่อทำจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ครับ

เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 6048
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 6:08 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
ทาสรักสาวตัวเล็ก พิมพ์ว่า:
วันนี้มาทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิต พอไปหลายๆวัดอยู่ๆก็มีความคิด มีคำถามหลายๆอย่างที่ไม่เคยสงสัยมาก่อน
-เราจะแย่งกันทำบุญเบียดกันทำไม
-เรามีสิทธิตั้งคำถามไหม เพราะพอถามคนที่ไปด้วยก็มักได้คำตอบแบบ อย่าสงสัย ทำบุญต้องทำด้วยใจบริสุทธิ์ห้ามสงสัย
-อยากประสบความสำเร็จต้องทำบุญ อยากรวยต้องทำบุญ

ปล.วันนี้หัวโนเพราะกระแทกแท่งยื่นๆข้างๆลูกนิมิต จากการเบียดปิดทองลูกนิมิต
ปล2. ผมคนพุทธแต่กำเนิด เกิดมาก็นับถือพุทธเลย ทำบุญมาก็ทำๆไปไม่เคยสงสัย  


1. เรื่องแย่งกันทำบุญนี่ -*- คงเป็นนิสัยละครับ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องบุญ อะไรแย่งได้ก็แย่งกันหมดละครับ ผมเลิกไปวัดช่วงศาสนพิธีสำคัญๆในบางช่วง เพราะเบื่อที่จะต้องมาแย่งนี่แหละครับ แต่ก็บังคับใครไม่ได้ครับ เราก็เลี่ยงๆเอา

2. มีสิทธิที่จะตั้งคำถามได้ครับ โดยพิจารณาอย่างถี่ถ้วน คิดแล้วลองหาคำตอบ คิดแล้วลองปฏิบัติตามดูครับ พระพุทธเจ้าเองท่านก็บอกว่าอย่าเชื่ออะไรครับ แม้ว่าคนรอบข้างท่านบอกก็เถอะ ลองพิจารณาดูครับ (ลองอ่าน กาลามสูตร 10 เพิ่มได้ครับ การสงสัยและตั้งคำถามเป็นสิ่งที่ดีครับ)

3. จริงๆการทำบุญ หรือการสร้างกุศล การให้ "ทาน" เป็นการสร้างบุญขั้นที่ต่ำที่สุดเลยครับ ถ้าตามที่ผมศึกษาและเข้าใจ ยังมีการสร้างบุญ ที่มากกว่าการให้ "ทาน" ที่เป็นวุตถุปัจจัยอีกมากครับ แค่การทำสมาธิ ก็ให้กุศลมากกว่าทานแล้วครับ (ลองศึกษาเรื่อง บุญกิริยาวัตถุ 10 ดูครับ)
เข้าร่วม: 24 May 2011
ตอบ: 969
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 6:41 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
อาจจะไม่เกี่ยวโดยตรง แต่อ่านแล้วนึกขึ้นได้พอดีครับ

หนังสือเรื่อง homo sapiens (หรือไม่ก็ selfish geneนี่แหละจำไม่ได้เล่มไหน)

เค้าอธิบายว่า การทำดีแล้วป่าวประกาศ มันฝังอยู่ในยีนมนุษย์ เพราะมนุษย์ไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่งและว่องไวเหมือนสัตว์อื่น ต้องอาศัยว่าทำงานเป็นทีม ดังนั้น การทำความดีและป่าวประกาศมันเป็นการทำให้คนรอบข้างยอมรับอะไรประมาณนี้ สังเกตุส่วนใหญ่ทำบุญกันก็ต้องมาลงโซเชี่ยล อาจจะไม่รู้ตัวแต่ว่าลึกๆก็เพื่อต้องการการยอมรับจากสังคม ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรเพราะในสมัยก่อนมันเป็นหนึง่ในปัจจัยที่ทำให้ มนุษย์มีชีวิตรอดท่ามกลางสัตว์ที่แข็งแกร่งกว่า
บางคนอาจจะเถียงว่า ตัวเองไม่เห็นเป็น ทำบุญเงียบๆก็ได้ ซึ่งก็จริงครับ มนุษย์สมัยก่อนก็ไม่ได้มีนิสัยแบบเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่ว่า เพราะพวกที่ไม่ได้ต้องการการยอมรับ ก็อยู่คนเดียวละโดนสัตว์อื่นล่าไปเกือบหมด (natural selection)

มมนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีจินตนาการ และมีการใช้จินตนาการนั้น รวมพลังกัน ยกตัวอย่างเช่น การประกาศศาสนา รวมถึงสงครามศาสนา การแบ่งประเทศ การตั้งบริษัท ฯลฯ ขึ้นชื่อว่าจินตนาการมันก็ไม่ใช่ของจริงอยู่แล้วครับ แต่มนุษย์ที่อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะมีสิ่งที่เรียกว่า"ตามน้ำ" (conform to societal norms) อยู่ในตัว

ปล นึกถึง คำนึงในพุทศาสนา ฟังท่านพุทธทาสมาบอกว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นอนัตตา ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ตามที่ผมเข้าใจก็คือ ทุกอย่างคือการปรุงแต่งทั้งนั้น หรือในพระไตรปิฏกเองก็ยังมีคำที่บอกว่า ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

ปล2 ปกติเวลาผมทำบุญ ผมจะใช้หลักว่า อัตราส่วนความสุข/จำนวนเงินที่ให้ เป็นตัวตัดสิน อย่างวัดต่างๆที่รวยๆอยู่แล้วเนี่ย เราให้ไปร้อยบาท แทบจะไม่ได้เศษขี้เล็บ output ก็แทบจะไม่มีอะไรเลย แต่ร้อยบาท เอาไปซื้อข้าวห่อ แจกคนตามสถานีรถไฟ กลับต่างจังหวัดหิวๆ อัตราส่วนความสุขต่อจำนวนเงินที่ให้ เยอะกว่าแบบมหาศาล
(ไม่ได้บอกว่าวิธีผมดีกว่านะครับ แค่ลองแชร์ดู เพราะก็มีคนบอกผมมาอีกทีเหมือนกัน)

เข้าร่วม: 02 Mar 2010
ตอบ: 6954
ที่อยู่: ทับแก้ว
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 6:52 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
BeBlue พิมพ์ว่า:
 

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ

ผมมองง่าย ๆ แบบนี้ครับ
บุญคือความสุข ในแง่ความสงบทางใจ อันนี้ผมเห็นใกล้เคียงกันกับท่านแน่
ความสงสัย ข้อสงสัย ก็คือความขุ่นมัว นี่ไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับบุญแน่

จนถึงตรงนี้ เผื่อท่านสงสัยว่าต้องการบอกอะไร
ผมต้องการบอกว่า ผมไม่ได้บอก จขม ว่า ห้ามสงสัยนะ ทำไปเหอะ จงเชื่อ จงศรัทธา
ท่านพอนึกภาพตามผมออกไหมครับ คือตอนนี้ จขม เขาสงสัยแล้วละ นี่ฝังลูกนิมิตมาได้บุญจริงเหรอ
นี่แปลว่าที่ทำไปนั่นไม่เกิดบุญแล้ว จขม เขาไม่เกิดความสุขในใจเขา

แต่จริงที่ตอนตอบไปผมก็ไม่รู้หรอกว่า จขม ควรจะทำอะไรต่อกับข้อสงสัยนี้
ก็หวังว่าเขาจะได้คำตอบจากท่านตรงนี้ครับ
เข้าร่วม: 02 Mar 2010
ตอบ: 6954
ที่อยู่: ทับแก้ว
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 7:05 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
แต่เอ๊ะ เม้นแรกผมนี่มันมีคำว่า "ห้ามสงสัย" เต็ม ๆ เลยนี่หว่า
เอาเป็นว่าให้เน้นที่คำ่า "ถ้าสงสัย" ก็แล้วกันครับ เผื่อใครผ่านมาอ่าน
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 6048
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Feb 18, 2018 7:43 pm
[RE: อยู่ๆก็มีคำถามให้คิด]
VodkaMartini พิมพ์ว่า:
BeBlue พิมพ์ว่า:
 

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ

ผมมองง่าย ๆ แบบนี้ครับ
บุญคือความสุข ในแง่ความสงบทางใจ อันนี้ผมเห็นใกล้เคียงกันกับท่านแน่
ความสงสัย ข้อสงสัย ก็คือความขุ่นมัว นี่ไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับบุญแน่

จนถึงตรงนี้ เผื่อท่านสงสัยว่าต้องการบอกอะไร
ผมต้องการบอกว่า ผมไม่ได้บอก จขม ว่า ห้ามสงสัยนะ ทำไปเหอะ จงเชื่อ จงศรัทธา
ท่านพอนึกภาพตามผมออกไหมครับ คือตอนนี้ จขม เขาสงสัยแล้วละ นี่ฝังลูกนิมิตมาได้บุญจริงเหรอ
นี่แปลว่าที่ทำไปนั่นไม่เกิดบุญแล้ว จขม เขาไม่เกิดความสุขในใจเขา

แต่จริงที่ตอนตอบไปผมก็ไม่รู้หรอกว่า จขม ควรจะทำอะไรต่อกับข้อสงสัยนี้
ก็หวังว่าเขาจะได้คำตอบจากท่านตรงนี้ครับ  


ตามนี้เลยครับ ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ