ทีมอื่นๆ ก็พัฒนาไปมาก (แซงไปเยอะ)
ถ้าจะไปหวังแชมป์ต้องคั้นฟอร์มขั้นเทพออกมา
และคงต้องมีโชคเข้าข้างซะด้วย

อย่างมากก็แพ้ สู้โว้ยยย

ซาล่าห์ ห้ามเจ็บห้ามป่วยอะเวลานี้

ตอนนี้คิดว่าหงส์ขาดแต่กัปตันแบบเจิด

ควรจะหาคนที่สามารถทำเกม ปลุกใจ เป็นแรงบันดารใจให้ลูกทีมได้ในยามตันๆ

แต่ฟอร์มของโค้ช ตอนนั้น เก่งกว่า
พาทีมได้ถ้วยใหญ่ยุโรปมาแล้ว

ชุดนี้ กองกลางเทพ

ชุดนั้นนอกจาก เจิด อลองโซ่ ที่เด่นๆ พอมาไล่ตัวดู กองหน้าบารอส กองกลางซมิเซอร์ที่เพิ่งหายเจ็บยาวกลับมา และพีคสุดคือกองหลัง ตราโอเร่ ต้องยอมรับว่าครึ่งหลังราฟาแก้เกมส์มาสุดยอดและนักเตะทุกคนก็เล่นได้แบบเหมือนเป็นเกมส์สุดท้ายของชีวิตยังไงยังงั้น พอเชฟเชนโก้ยิงจุดโทษลูกสุดท้ายไม่เข้า ผมนี่เฮลั่นบ้านนน

ตราบใดที่ยังประสบความสำเร็จในแบบเดียวกันไม่ได้

ก็คงพูดได้ไม่เต็มปากว่าเก่งกว่า

ชื่อชั้นตอนนี้ดีกว่า

แต่ทีมคู่แข่งอื่นๆตอนนี้ก็เก่งกว่าและเยอะกว่าด้วย

ตอนนั้น นักเตะเกรด B เกือบยกทีม แต่มี เจิดเป็นผู้นำรบ
และมีมันสมองอย่าง เอลบอส
ไม่มีใครกล้าคิดถึงแชมป์แน่แน่ ปี 2005 ผมนอนดูนัดชิงจนดวลจุดโทษ
ปาฏิหารล้วน ๆ ครับ
แบ็คอย่างตาโอเร่ โคตรรั่วและโฉ่ง ยังได้แชมป์

ปีนี้ครบเครื่องกว่าเยอะ และ ยังมี VVD มาคุมแผงหลัง ดูดีขึ้นเยอะ
ดึง ลอฟเร็นให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน

แต่ก็อย่างว่า บอล มันวัดกันไม่ได้แค่ความเก่ง
ทุกอย่างมันพลิกผันได้หมด
ยังไงก็ยังหวังลึกลึกเช่นกันครับปีนี้

ชุด 2005 สมดุลดีกว่าครับ ชุดนี้ตัวรุกดีจริงทั้งมาเน่ ซาล่า ฟิร์มิโน่ แต่ตำแหน่งอื่นๆชุดนั้นส่วนตัวผมว่าดีกว่าครับ

โกล์ ดูเด็ก ดีกว่ามินโย่เล่กับคาริอุสแน่นอน
แผงหลัง ฟินแน่น ,ฮูเปีย, ริเซ่, คาร์ราเกอร์, ตราโอเล่ เท่าที่ลิสมาผมว่ามีแค่คาร่าที่พอๆกับหลังชุดปัจจุบัน ตราโอเล่นี่ห่วยกว่าเลยอันนี้ยอมรับ ส่วนอีก 3 คนที่เหลือนี่กินขาดทุกคน
กองกลาง เจอร์ราด, อลอนโซ่ คงไม่ต้องเทียบกับหัวเจลและดุม เพราะ 2 รายนั้นเป็นกลางที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยดูลิเวอร์พูลมาละ
ปีก แฮรี่ คีล, หลุยส์ การ์เซีย คือก็ดังพอตัวในยุคนั้นะครับ แต่ส่วนตัวคิดว่าสู้มาเน่ ซาล่าไม่ได้
กองหน้า มิลาน บารอส ส่วนตัวผมให้ฟิร์มิโน่ดีกว่า คือ ฟิร์มิโน่ทำเกมได้ เลี้ยงบอล ต่อบอลได้ ส่วนบารอสนี่ไว้ใจเรื่องลูกโหม่งได้ แต่ยุคนั้นลิเวอร์พูลมีกองหน้าอีกคนคือซิสเซ่ซึ่งมีสปีดจัดไว้ทดแทนในเกมที่ลูกกลางอากาศใช้ไม่ได้ผล

เกมรุกชุดปัจจุบันโหดกว่ามาก ติดแค่เกมรับยังไม่แน่นพอ ถ้าแก้ไขได้ แชมป์ UCL สมัยที่ 6 ก็ไม่ไกลเกินคว้า

ตอนนี้ที่ยังขาดคือ ดวง แบบชุดนั้น

ขาดแม่ทัพครับยุคนี้

กองกลางยวบก็เตรียมแพ้ได้เลย

ถ้าหงส์ยุคที่สมดุลสุดโหดสุด ผมให้ยุค

เจิดตอสนะ ปีกดี หน้าคม กลางนี่โคตรแน่น

หลังก็ไว้ใจพอได้อยู่ โกลนี่หายห่วง เรน่าก่อนตอสไปนี่ โคตรเหนียว

ยุค เจิดตอส ปีกนี้เเหละจุดอ่อนของทีมเลย ถ้ามีปีกโหดๆผมว่าถึงเเชมป์อ่ะ

เเต่เห็นด้วยว่าชุดนี้กองกลางยังเป็นจุดอ่อนของทีม

ชุดนี้ยังเทียบ 2005 ไม่ได้หรอก ยังขาดนักเตะแบบระดับตำนานอยู่คนนึง
ไม่ใช่เจอร์ราด
ไม่ใช่อลอนโซ่
ไม่ใช่คาราเกอร์
ไม่ใช่ฮูเปีย
ไม่ใช่หลุยส์ การ์เซีย
แต่เป็น ชิมี่ ตราโอเร่!!!

จำได้ว่าราฟาเคยให้สัมภาษณ์ประมาณว่า ย้อนไปดูนักเตะชุดนั้นกูยังงว่าได้แชมป์ยุโรปได้ไงวะ

ชุดนั้นแนวรับก็กาก หน้าก้อกาก กลางพอไปวัดไปวาได้ ดวงล้วนๆ

หลายๆ ทีมตอนนี้ก็ถือว่าคุณภาพนักเตะรวมๆ ดีกว่ายุคโน้นแล้ว แต่อย่างบอกว่า เพราะนักเตะชุดนั้นรวมๆ แล้วมีทีมเวิร์ค เล่นเป็นทีมและแท็คติกดีเยี่ยม ทำให้พอเอามาสู้กันจริงๆ มันสู้ยากนะ เพราะทีมเวิร์คหล่อหลอมมสเต็มเปี่ยม แต่ทีมปัจจุบัน มีนักเตะตัวรุกจัดจ้านหลายตัว แต่คล็อปจัดสรรให้มันเล่นเป็นทีมดีมาก เหลือเพียงความสม่ำเสมอ ผมว่าหงส์ มีสิทธิ์จบที่ 2 นะ เกมลงตัวอยู่แล้ว อาจจะขาดแผน 2-3 ที่ยังไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่

มีการ์เซีย ไว้ยิง ปาฎิหาร์ย เพื่อเข้ารอบ

เห็นด้วยตรงศักยภาพรวมๆตอนนี้ดีกว่าชุดปาฏิหาริย์ที่อิสตันบุล แต่ทีมอื่นๆในเส้นทางตอนนี้ก็โคตรแข็งเลย โอกาสถึงแชมป์ต้องมีดวงช่วยแบบสุดๆเลย แต่ละแมทช์ที่เหลือตัองเล่นเข้าฝักทุกนัด ซึ่งเป็นไปได้ยากสำหรับลิเวอร์พูลตอนนี้

ผมว่า ยุค เบรเดน ร๊อดเจอร์ ดีสุดนะ

เจิด ซัวเรส เล่นเป็นทีม สุดท้ายมาพลาดรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ

ไม่เทพตรงไหนครับ ปรับแผนเป็น 3-5-2 เพราะกลางสู้ไม่ได้ อัดกลางลงไป 5 คน สิ่ง ดิม่าร์ ฮามันนส์ ลงไปเพื่อเบรคเกมตรงกลางของมิลาน ประกอบกับ ทีมของลุงเจ้ อันเช่ ล๊อตติ ผมเห็นจะมีแรงวิ่งครึ่งแรกครึ่งเดียว แฟนมิลานสมัยนั่นยังชอบบ่น ครึ่งหลังเล่นแผน 5-5-0 พอผ่อนเกมเยอะ โดนไล่มา 2 ลูก ใจน่าจะไปแล้ว 3-3 ได้นี่ผมนึกว่าจะดับในเกมหละ

ถ้าราฟาไม่แก้เกม 3 ลูกรวดคงไม่มีหรอก

แต่ทีมนั้นแท็คติคเขี้ยวกว่า ใจสู้มีมากกว่านะ
ทีมนี้ถ้าโดนพวกยักษ์นำนี่คิดว่าฝ่อไปครึ่งตัวแล้ว แต่ถ้ายิงนำแล้วรอสวนสู้ได้ทั้งโลก

เกมนั้น ต้องบอกว่าดวงล้วนๆ ครึ่งแรกโดนไป 3-0 แบบสู้ไม่ได้

ครึ่งหลังมา ลิเวอร์พูลได้ยิงเป็นเข้า ซึ่งเกมก็ไม่ได้ดูดีขนาดที่จะตีมา 3-3 ได้

แต่ต้องยอมรับว่าเกมนั้น ผมขนลุกซู่เลย

ผมว่า ยุคนั้น มีกลางที่มีภาวะผู้นำสูง และมีลูกทีเด็ดที่เปลี่ยนเกมส์ได้เสมอ (พี่เจิดโหม่งลูกนั้นเลย) และมีอลองโซ่ที่ไว้ใจได้เรื่องตัดเกมส์และวิชั่น มีลูกยิงไกลด้วย
มีภูผาน้ำแข็ง เฮียปู ที่ไว้ใจได้เสมอ มีฟินแนนที่สม่ำเสมอสุดๆ ตัวอื่นๆ พอไปวัดไปวาได้
กองหน้าก็กลางๆ นะผมว่า ไม่ขี้เหล่
ที่สุดเลย ผมว่า เอลบอส ถ้าบอถ้วนต้องยกให้แกจริงๆ แก้เกมส์ดีสุดๆ

ยุดนี้กองหน้าอย่างโหด
กองหลังยุ่ยสุดๆ เพิ่งได้ VVD มา ยังต้องรอพิสูจน์ตัวเองต่อไป
กองกลางไม่มีตัวตัดเกมส์และมีวิชั่นแบบอลองโซ่ ไม่มีผู้นำแบบเจิด ไม่มีลูกยิงไกลแบบเจิกดและอลองโซ่
โค้ชแบบคลอป ปลุกใจดี แต่เรื่องแทคติค เป็นรองเอลบอสเยอะ โดยเฉพาะแบบนัดต่อนัดแบบบอลถ้วยครับ

เอลราฟา แกเปนคนแก้เกม เก่งด้วย

ไม่มีใครพูดถึง ซมิเซอร์ เลย
ลงมาเป็นซุปเปอร์ซับแท้ๆ

ถ้าจะมีปาฏิหารย์ถึงแชมป์ต้องให้จับฉลากรอบหน้าทีมใหญ่ๆ เจอกันเอง ส่วนหงส์เจอทีมที่อ่อนที่สุด และสุดท้ายรอบลึกๆขอให้หงส์องค์ลงและมีดวงแบบปี 2005 รับรองมีลุ้น

ฟินแนน ฮูเปีย รีเซ่ น่ะรึกาก?

ราฟาปรับหมากนะใช่ครับ แต่ผลลัพธ์มันก็ไม่ได้ต่างจากครึ่งแรกมาก เพราะตลอด 120 นาทีมิลานขย่มอยู่แทบทั้งเกม ลิเวอร์พูลโดนบุกจนป้อแป้จวนเจียนจะโดนอยู่ตลอด

มันเป็นเกมที่แฟนมิลานเจ็บใจกันทุกคน จบเกมนั้นผมเดินออกมานั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้าน รูปเกมมันไม่ควรจะแพ้ มิลานเล่นเหนือกว่าชัดมากทั้งเกม แต่ก็แพ้

ผมให้เครดิตดูเด็ค มันเป็นความโชคร้ายของเชว่าด้วย แต่ผมไม่ให้เครดิตราฟาสักเท่าไรหรอกนะเกมนั้น

เจิด โซ่ สมิสเซอร์ ฮามัน vs เฮนโด ชาน ดุม มิลเนอร์

อย่าเอาไปเปรียบกันเลย คนละยุค ถ้าบอกชุดนี้เก่งกว่า ก็เข้าชิงให้ได้ 2 สมัย แบบยุค ของ ราฟา ให้ได้ก่อนค่อยเอามาเปรียบเทียบกัน............

ทำไมผมเหมือนดูบอลคนละคู่กับคุณเลยครับ
ผมเห็นมิลาน ขยี้แค่ 45 นาทีแรก พอครึ่งหลัง เป็นเกมที่ หงส์ทำได้ดีกว่า ช่วงต่อเวลา เป็นเกมที่น่าเบื่อ เพราะเหมือนไม่มีอะไรใส่กันแล้ว

หลังจากหงส์ตีเสมอ มิลานกลับมาเป็นฝ่ายบุกใส่มากกว่า แล้วก็มีโอกาสน่าจะได้ประตูหลายครั้ง อย่างช่วงต่อเวลาที่เชว่าซัดจ่อ ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลาแต่ไม่เข้า

ที่ต่างมากๆคือชุดนั้นเรามีดูเด็คครับและมีปาฏิหาริย์หลุยส์ การ์เซีย
แต่ผมมองก็เห็นด้วยครับว่าชุดนี้ชื่อชั้นดีกว่านะ

คือชุดนี้อาจจะเก่งกว่าเเหละ เเต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ
เมื่อเวลาผ่านไป คนก็ไม่จดจำเท่าชุดที่ประสบความสำเร็จอยู่เเล้ว

ต้องได้ UCL ในปีนี้นะ ถึงจะพูดได้เต็มปาก ว่าเก่งกว่า ตอนนั้น ดูตอนโดนนำ 3-0 ปิดทีวี คิดว่าแพ้ๆแน่ๆ แต่กลับมาได้ซะงั้น 55