สมาคมฟุตบอลออสเตรเลีย (FFA) ประกาศแต่งตั้ง เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ค เข้ารับตำแหน่งกุนซือคนใหม่อย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมทีม"ซอคเกอร์รูส์"ลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซีย

ตำแหน่งเฮดโค้ชของทีมชาติออสเตรเลียว่างลงเมื่อปลายที่แล้ว หลังจาก อันเก้ ปอสเตโคกลู เทรนเนอร์เลือดออสซี่ประกาศลาจากเก้าอี้ แม้ว่าจะพาทีมคว้าตั๋วลุยรอบสุดท้ายกลางปีนี้ได้ก็ตาม

FFA มีข่าวกับกุนซือดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหลุยส์ ฟาน ฮาล, ลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ หรือ สเวน โกรัน อิริคส์สัน

อย่างไรก็ตามล่าสุดพวกเขาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ฟาน มาร์ไวจ์ค จะเข้ารับหน้าที่นำทีมบุกรัสเซีย

กุนซือวัย 65 ปี ชาวฮอลแลนด์ เพิ่งแยกทางกับซาอุดิอาระเบียไปเมื่อปลายปีที่แล้วเช่นเดียวกัน หลังจากพาทีมเศรษฐีน้ำมันคว้าตั๋วลุยบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ

เขาจะนำทีมออสเตรเลียลุยรอบสุดท้ายที่รัสเซีย แต่แถลงการณ์จะไม่ได้ระบุระยะเวลาในสัญญาครั้งนี้

ฟาน มาร์ไวจ์คนั้นมีประสบการณ์พาทีมชาติฮอลแลนด์คว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้มาแล้ว

สำหรับคนที่สงสัยถึงสาเหตุที่แกพาซาอุเข้ารอบสุดท้ายได้ครั้งแรกนับแต่ปี 2006 แต่ไม่ได้คุมต่อ

คำตอบคือเพราะหมดสัญญาแล้วตกลงสัญญากันไม่ได้+เหมือนจะโดนแทรกแซงการทำงานด้วย

"ผมยุติการเจรจา สตาฟฟ์หลายคนของผมถูกไล่ออกหลังจบรอบคัดเลือก ซึ่งผมคิดว่ามันรับไม่ได้ และตอนนี้ผมก็ได้ยินจากสื่อมาว่ามีคนมารับช่วงต่อผมแล้ว ดังนั้นผมรู้ก็แล้วว่ามันจบแล้ว" ลุงเบิร์ตกล่าวไว้เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว

พาฮอลแลนด์ตกรอบแรกมาแล้วคนนี้

พาฮอลแลนด์เข้าชิงมาแล้วคนนี้

พาฮอลแลนด์ชิงกับ สเปนที่ตอนนั้นโคตรดรีมทีม ละสู้ได้อย่างสูสีด้วย

ละมาออส ใกล้บ้านเราอีก

เป็นโชคดีของออสเลยทีเดียว

ได้กุนซือระดับรองแชมป์โลกมา ตั้งเป้าหมายอย่างน้อยต้องรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถ้าตกรอบแรกนี่ล้มเหลวเลยนะ

แปลกใจที่ฮอลแลนด์ไม่ดึงกลับไปกู้วิกฤตทีมชาติตัวเอง

น่าเสียดายครับ พี่แก Hero to Zero ของแท้เลย

ไม่ดึงแล้วล่ะ บิ๊กๆฮอลแลนด์หลายๆคนไม่ชอบแกเลย แกทำทีมเน้นรับ แทคติควิ่งสู้ฟัดด้วย หลายคนไม่ปลื้ม

ยุคที่ได้รองแชมป์คนมองว่าองค์ประกอบทีมดีมากกว่าฝีมือ