[twitter]https://twitter.com/HLNinEngeland/status/954997804497358848[/twitter]

Financial Fair-Play 2.0 วางแผนจะจำกัดเงินซื้อขายต่อฤดูกาลไว้ที่ 100 ลย
ยังเป็นแค่ข่าวนะครับ มาจาก le parisien รายละเอียดอ่านไม่ออก
แต่ถ้าแบบก็แก้ปัญหาได้ดีเลยนะผมว่า

น่าจะลดหลั่นตามรายได้แต่ละทีมนะ แบบนี้ทีมใหญ่ๆก็เสียเปรียบสิ

net tranfer €100m ตั้งค่าฉีกสัญญาสัก 150m ก็ปลอดภัยละ

ก็ไปซื้อขายหลังโต๊ะ แล้วลงว่าซื้อมาตัวหละ 1 ล้าน

พูดตอนนี้ช้าไปแล้วครับ ตลาดมันเฟ้อแล้ว 100m สมัยนี้ ซื้อบิ๊กนมไม่ได้ซักตัวเดียว
ผมว่าซัก150ยังพอฟังขึ้นแบบ ถ้าจะซื้อบิ๊กเนมก็ได้ตัวเกียวต่อฤดูกาลซึ่งผมเชื่อว่า ไม่มีใครยอมหรอกเพราะตอนนี้มันมีทีมที่ได้เปรียบใช้เงินไปเต็มที่แล้ว

ถ้าทำแบบนั้นได้ PSG มันไม่ยุ่งยากไปจ้างเนย์มาร์เป็นพรีเซนเตอร์บอลโลกหรอกฮะ

นั่นสิ แบบไม่อยากขายใครก็ตั้งให้เกิน100ล้าน ก็ซื้อไม่ได้แล้ว ดีมากกฏนี้

ซื้อได้ แต่ต้องขายก่อน

เปลี่ยนเป็นสัญญายืมตัว5ปี ค่ายืมปีละ20-30ล้านแทน แค่นี้ก็ได้ละไม่ผิดกฏ

แก้ปัญหายังไงอ่ะครับ ถ้าสโมสรไหนหาเงินได้เยอะด้วยตัวเองโดยไม่ได้ใช้เงินเจ้าของ แล้วมาจำกัดเงินให้เขาใช้ได้จำกัดนี่โคตรตลก เหมือนใช้ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมอยู่ดีๆ แล้วกลับไปอยู่ในระบบคอมมิวนิสต์อ่ะ ซึ่งมันโคตรย้อนแย้งกับคำว่า "Financial Fair Play" เลยนะ คือมันควรเป็นการแข่งขันกันอย่างยุติธรรม แต่ไม่ใช่หาได้น้อยหาได้มาก แล้วให้ใช้เงินเท่ากันอ่ะ

วิธีที่ดีที่สุด ไม่ใช่การจำกัดงบ แต่เป็นการใช้จ่ายเท่าๆกับเงินที่หาได้มากกว่า

คือพวกเนมาร์หรือปั๊ปเป้ที่ย้ายมาราคาเกิน 150 ล้านนี่แทบไม่ต้องคิดเรื่องย้ายไปทีมอื่นเลยนะ ขายยังไงก็ทะลุ 200 ล้าน ไอทีมที่มาซื้อต้องขายนักเตะในทีมให้ได้ 100 ล้านก่อน แมร่งเป็นไปได้ยากมาก

ถ้ากฎนี้ออกจริงไอพวกที่ลงทุนไว้ก่อนอย่างบาซ่าหรือปารีสนี่สบายเลยนะ

โอ้ย แก้ให้มันถูกทางหน่อยเห้อะ

ดูamerican games เป็นแนวทางก็ได้ ปัดโธ่

เดี่ยวมันก็ยืมล่วงหน้า ไปจ่ายฤดูกาลหน้าแทน

ผมหมดศรัทธากับ Financial Fair-Play ไปแล้วครับ

100 ล้าน สมัยนี้ เต็มที่เลยได้เกรดบีราว 2 คนครึ่ง

คงเป็นกรณีหักลบมากกว่านะครับ

อย่าง ปารีส จ่ายไป 220 ล้านยูโรงี้ ควรมียอดขายออกเพื่อหักลบด้วย

อะไรทำนองนี้ อาจจะมี Extra ตามยอดกำไรของสโมสร

เอาไว้ควบคุมกันซะหน่อย

อย่างบาซ่า ขายได้ 220 ล้านยูโร ซื้อเข้า 275 ล้านยูโร(160+115 ล้านยูโร) << ไม่รู้ถูกไหมนะ

หักลบละ ก็ยัง ติดลบ 55 ถือว่าผ่านเกณอะไรทำนองนี้ มันจะทำให้ยากต่อทีมที่มีคนรวยมา

แล้วลงทุนแบตู้มเดียวละไม่มียอดขายเป็นรายรับมาหักลบสุทธิ

เหมือนจะออกฎ มาช่วย psg

กฏเพ้อเจ้อขยันแต่ไปยุ่งเรื่องคนอื่น เงินเขาๆจะใช้ยังไงก็เรื่องของเขาดิ
แต่ละทีมมีพื้นฐานรายละเอียดต่างกัน ลีคแต่ละลีคก็ยังแบ่งเงินในอัตราส่วนที่ต่างกัน
เพราะความต่างนี้เวลาออกกฏอะไรมามันก็ส่งผลกระทบบางทีมและเอื้อประโยชน์ให้บางทีมเสมอ

อันนี้สมมตินะ
เหมือนกับอยู่ๆวันนึงผมรวยล้นฟ้าแล้วมีอำนาจในยูฟ่าขึ้นมา
แล้วผมไปบอกว่าบอร์ดบริหารยูฟ่าไม่ควรได้เงินเดือนเกิน 500 ยูโรต่อเดือน
เจตนาก็เพื่อป้องกันไม่ให้รายจ่ายในองค์กรมากเกินไป
ส่วนผมซึ่งรวยแล้วไม่รับเงินเดือนยังได้อะไรแบบนี้
คือเอาหลักเกณฑ์ตัวเองเที่ยวไปกำหนดคนอื่นแบบนี้อ่ะดีมั้ย บอร์ดจะชอบมั้ย

ซื้อ90ล้าน + add on ลงเล่นครบ20นัด หรืออยู่ครบ1ปี จ่ายอีก 30ล้านปอนด์
ผมว่าช่องโหว่มันเยอะ มันมีช้าไป พลาดตั้งแต่ปารีสจัดการดีลเอ็มบัปเป้ละ

ยุ่งตายเลยทีนี้ ถ้าทีมอื่นแจ้งฟีฟ่าบอกไปว่ายื่นซื้อแพงกว่าเยอะแต่ทีมปัดข้อเสนอ
ก็ต้องสืบสวนกันใหญ่ สาเหตุใดถึงปัดข้อเสนอที่มี่มูลค่ามากกว่าหลายเท่า

ถ้ากฏนี้ออกมาจริง สมดุลทีมใหญ่จะเปลี่ยน แล้วเงินจะไปตกกับเอเย่นและนักเตะมากกว่าเก่า
ทีมจะได้ผลประโยชน์น้อยลง เพราะโก่งราคานักเตะไม่ได้ ถามว่าทีมเล็กจะได้รับผลดีไหม
บางทีมันก็ตอบยาก เพราะขายนักเตะราคาสูงไม่ได้ แต่ต้องจ่ายค่าจ้างนักเตะสูงขึ้น
แค่คิดก็ปวดหัวละ

ค่าตัว1m ออปชั่นเมื่อลงครบ10นัด100m

ตั้งค่าฉีกสัญญา 100,000,001 รอดแน่นอน

แก้ไปมันก็มีช่องทางซิกแซกแบบ PSG แหละ
ได้เซ็นเนย์มาแบบไม่มีค่าตัว

ชื้อขายตามรายได้สโมสรแฟร์สุดแล้ว หากจำกำหนด100ล้านคือกรณีใช้เงินเจ้าของทีมรายใหม่ (ถ้าจำไม่ผิดเจ้าของรายใหม่ชื้อขายได้3ปีมั้ง หลัง3ปีจะเข้ากฏFinancial Fair Play)


ผมคิดว่า เน้นผลประกอบการเป็นหลัก

American games ใช้แบบไหนหรอครับ แล้ว NBA หละครับ
ขอข้อมูลทีนะครับ

จากที่ทุกคนพูดๆมา ผมคิดว่าเค้าลงมือทำก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ส่วนที่บอกว่าเด๋วก็มีช่องโหว่อีก ก็แค่ปรับกฎไปเรื่อยๆ เด๋วมันก็ดีเองแหละ

ส่วนเงินที่เหมาะสมในการซื้อขายที่ผมคิดคือ หักลบกำไรขาดทุนแล้ว ไม่ควรเกิน 150 ล้าน เพราะว่าถ้าไม่มีกฎ FFP นี้ออกมาใช้ รับรองอนาคตนักเตะราคาเฟ้อไปถึง 300 ล้านไม่ยาก นักเตะธรรมดาในทีมเล็กก็คง 30-40 ล้าน

ส่วนถ้าห่วงว่างั้นแบบนี้นักเตะก็ไม่ได้ย้ายกันพอดีหากต้นสังกัดไม่ขาย เชื่อเหอะเด๋วมันก็หาทางจนได้ อาจจะแกล้งฟอร์มตก หรือโดดซ้อม(อย่างเช่น ดิมาเรีย เดมเบเล่) ฯลฯ ที่เหลือก็อยู่ที่สโมสรแล้วแหละว่าจะจัดการยังไง

แล้วยิ่งบางลีคยังแบ่งส่วนต่างค่าลิขสิทธิ์ไม่เหมาะสมอีก เช่น ลาลีก้า ที่มาดริดกับบาร์ซ่าได้ส่วนต่างห่างกันลิบลับ แล้วแบบนี้ทีมเล็กๆจะเอาอะไรเสริมทัพไปสู้