เงินเดือนสูงได้ โดยไม่ต้องเป็นอ่านPantip
เบื่อและหมั่นไส้กับกระทู้พันธ์ทิพย์ พวกอายุน้อยๆแล้วได้เงินเดือนเยอะ
พวกที่อ้างว่าทำงานสายการเงิน,หุ้น บอกว่าอายุยี่สิบกลางๆเงินเดือนห้าหมื่น อายุยี่สิบปลายๆเงินเดือนแสนนึง
เห้ยยยยย....เกินตัวป่าวว่ะ?? โม้รึป่าว??
วันนี้ผมจะแชร์ชีวิตผมให้อ่านกัน เผื่อจะเป็นกำลังใจและแนวให้ให้น้องๆหรือเพื่อนๆ ถ้าไม่รังเกียจครับ
สำหรับคนที่ได้เยอะแล้วก็ยินด้วยครับ มาแชร์กันได้ครับ
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด เกิดมาในครอบครัวข้าราชการ
เรียนจบมหาลัยท็อป10ของประเทศ ในคณะวิทยาศาสตร์บ้านๆทั่วไป เกรด2.7
1. จุดเริ่มต้นมาจากที่ผมมีโชคน่ะ รวมถึงชื่อเสียงของมหาลัยด้วย
ผมจึงได้เริ่มงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจRetail ในตำแหน่ง Warehouse Supervisor ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่มากๆทั้งตัวองค์กร และตัวตำแหน่ง ตอนนั้นกินเงินเดือนหมื่นหน่อยๆ ทำโอที100ชั่วโมงอัพ ..... เราอายุแค่นั้นแต่ก็ต้องรับผิดชอบอะไรหลายอย่าง มีลูกน้องอายุเยอะกว่าเพียบ ถือว่าบริษัทเค้าก็ใจดี และนับเป็นบุญคุณที่ผมไม่มีวันลืม
2. จากนั้นผมก็เปลี่ยนงาน โดยอัพเงินขึ้นเป็นสองหมื่นต้นๆ งานสายเดิมตำแหน่งเดิมแต่เปลี่ยนบริษัท แล้วมันก็มีโชคมาเกี่ยวข้อง , บริษัทนี้มีระบบ AS/RS ให้ใช้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสูงสุดของประเทศไทย(ในขณะนั้น อาจจะรวมถึงขณะนี้)
.... OK ทำงานไปเรื่อยๆ .....
3. จากนั้นผมก็มีโชคเล็กๆ ตอนอายุ27 เมื่อบริษัทสัญชาติเยอรมันติดต่อมา ให้เป็น ผช.ผจก.คลังสินค้า แลกกับเงินเดือนสองหมื่นปลายๆ มีหรือที่ผมจะปฏิเสธ
แต่เมื่อเข้าไปปรากฏว่า การเป็นผช.ของผมนั้น ที่จริงแล้วมันคือ Acting Manager เพราะมันไม่มีตำแหน่ง Manager มาคุมเราอีกที.....ชิปหายแระ งานหนักมาก โดนนายฝรั่งอัดทุกเช้าเย็น โดนแผนกอื่นๆกดตลอด เพราะเราเด็กมาก ..... แต่มันก็คุ้มมาก เพราะได้มีโอกาสทำโปรเจคต่างๆ มีโอกาสนำเสนองาน มีโอกาสได้นำทีมทำกิจกรรมต่างๆขององค์กร และที่สำคัญคือได้พบเจอกับพวก Supplier,Vendor ทำมี connection เพิ่มมากขึ้น
4. และแล้วก็มีจุดเปลี่ยนที่สำคัญ คือ Supplier ไปได้งานโปรเจคนึงแล้วปิดไม่ลง เพราะลูกค้าไม่มีคนรู้ระบบ(บริษัทเล็กๆ บริหารสไตล์ไทย-จีน) เค้าเลยแนะนำผมให้กับเจ้านายฝั่งนั้นให้รู้จัก เค้าก็ติดต่อเข้ามามีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์2รอบ แล้วเสนอเงินเดือน 4หมื่นบาทให้....ผมปฏิเสธ เพราะงานปัจจุบันค่อนข้างดี ยังมีโปรเจคค้างอีกหลายงาน ผมเลยบอกว่าได้6หมื่นถึงจะไป.......ปรากฏว่าเค้ายอมจ่าย!!!!!!!
เห้ย กระโดดเงินเดือนเกือบสองเท่า!!!!
ผมก็เข้าไปทำงานสักพัก ก็ได้เข้าใจว่าทำไมโปรเจคมันปิดไม่ลง เพราะมันเละมากตั้งแต่คน ระบบ การเงิน ทัศนคติของพนักงานยันผู้บริหาร......โอเค สุดท้ายผมปิดโปรเจคได้
แต่ด้วยเราทำงานบริษัทใหญ่และบริษัทฝรั่งมาตลอด ก็เลยมีจุดแตกหักกันทางความคิด แล้วที่ทนไม่ได้คือหาว่าผมทุจริต ผมเลยหักดิบลาออกแม่งเลย!!!
5. ก็มานอนหางานไปเรื่อยๆ จนได้เจอยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลกทางด้าน Logistics เรียกไปสัมภาษณ์ ตำแหน่ง Warehouse Manager ผมก็ไปตามนัด.....สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษเราก็ผ่าน ประสบการณ์ก็ตรง ที่สำคัญเค้าใช้ AS/RS ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่เค้าเลือกเรา (สัมภาษณ์วันศุกร์รู้ผลวันจันทร์ )
แล้วการที่เราว่างงานอยู่ แน่นอนว่าเค้าคงกดราคา แต่ผมไม่ยอมครับ ผมยืดเข้าไปเลย ประสบการณ์,ผลงาน,สกิลที่ตรงกับความต้องการ ผมเลยอัพขึ้นไปอีก 15K +Bonus2เดือน
สุดท้ายแล้วทางนั้นเค้าก็ต้องยอม
สุดท้ายผมก็สามารถมีเงินเดือนรวมปีละเกือบล้านบาทได้ ภายในอายุสามสิบเท่านั้น
ที่จริงแล้วมนุษย์เรามีความสามารถไม่มีขีดจำกัด เราไม่จำเป็นต้องไปเดินสายการเงิน,หุ้นหรือเป็นเซลล์ เราก็แค่ทำงานในคลังสินค้ามอมแมม เถื่อนๆ(ไม่นับพวกอยู่แท่นกับอยู่เหมืองน่ะ อันนั้นเค้าจ่ายหนักชัดเจนอยู่แล้ว) แต่ภายใต้รูปลักษณ์นั้นเราก็จำเป็นต้องมีความรู้ให้กว้าง รู้ให้ลึก และต้องมีความกล้า ความทุ่มเทกับงาน กับลูกทีมใต้บังคับบัญชา แล้วก็มีโชคเล็กๆ 
ขอให้ทุกคนใช้ความรู้ความสามารถให้เต็มที่ อย่าไปกลัวใคร โดยเฉพาะฝ่ายบุคคล(HR)
ผมเองก็ถือคติแบบเดียวกับสโลแกน อดิดาส คือ Impossible is nothing
ลองดู Salary Survey แล้วไขว่ขว้ากันให้ได้ครับ
https://www.robertwalters.co.th/content/dam/salary-survey-2017.pdf
Spoil
Key Success ของผม
1.ที่จริงแล้วผมเอ็นทรานส์ไม่ติดน่ะ ตอนแรกว่าจะไปเรียนเอกชน แต่มหาลัยดังๆสมัยนั้นก็เริ่มเปิดภาคค่ำ ผมจึงเลือกเพราะชัดเจนเลยคือแบรนด์ของมหาลัย
2.พื้นฐานผมเป็นคนเสียงดัง ชอบเสนอความคิด ไม่ใช่คนขี้อาย เป็นผู้นำตั้งแต่สมัยเรียน
3.ตอนได้งานที่แรก ที่เค้ารับเพราะผมแสดงความจริงใจและความตั้งใจ ข้อไหนผมไม่รู้ผมก็ตอบไม่รู้ ข้อไหนผมตอบได้ก็ตอบไป ไม่มั่วไม่ดำน้ำ....เจ้านายมาบอกตอนที่เข้ามาทำงานแล้วว่า เค้าชอบการตอบของผมมาก เพราะตำแหน่งนี้ปกติรับเฉพาะคนมีประสบการณ์
4.ผมฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง soundtrack , ไม่เคยเรียนเสริมตามสถาบันต่างๆเลย
5.ผมเปลี่ยนงานบ่อย แต่ที่สำคัญคือผมยอมย้ายที่อยู่ตามงานไปด้วย และแลกมากับการเลิกรากับแฟนบ่อยครั้ง
6.ผมมาได้ทริคการเรียกเงินเดือนมาจากแฟนคนปัจจุบัน เพราะเธอทำงานฝ่ายบุคคล....คือให้ดูราคาตลาดแล้วเรียกไปเลย ไม่ต้องสนเงินที่เก่าแล้วบวกเท่านั้นเท่านี้ ถ้าเค้าถามว่าทำไมต้องจ่าย ก็ตอบเรื่องความรับผิดชอบและปัญหาที่จะต้องเจอ ไม่ต้องไปอธิบายว่ามีภาระกี่บาท,จะต้องส่งน้องเรียนกี่บาท ให้เสนอความเป็นมืออาชีพอย่างเดียวไปเลย
