16 January 2018 10:05 PM by Zaine_R
ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?
ควันหลงหลังจากเกมที่แอนฟิลด์ในนัดสุดมันส์ที่ ลิเวอร์พูล เฉือนเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 4-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากแอ็คชั่นตลอด 90 นาทีในสนาม ยังมีการดึงเอาเพื่อนบ้านร่วมเมืองแมนเชสเตอร์มาเอี่ยวเสียด้วยนี่

“เปิดแลก” คือคำจำกัดความที่น่าจะเหมาะที่สุดสำหรับภาพรวมของเกมนี้ เนื่องจากทั้งสองทีมต่างก็มีจุดแข็งที่เกมบุกเหมือนกันทั้งคู่ จึงทำให้บังเกิดเกมทีเอ็นเตอร์เทรนคนดูมากที่สุดเกมหนึ่งของพรีเมียร์ ลีกซีซั่นนี้ขึ้นมา

แม้ว่าจะขาดเฟลิปเป้ คูตินโญ่แข้งพ่อมดน้อยไปให้กับ บาร์เซโลน่า มาหยกๆดั่งแผลสดไม่กี่วัน แต่ “หงส์แดง” ก็โชว์ให้แฟนบอลได้เห็นว่าประสิทธิภาพในเกมรุกของพวกเขาดุเดือดเพียงใด แทบจะทุกการเซ็ตเกมบุกของทีม ผมเห็นได้ถึงความมุ่งมั่น ทะลุทะลวง กดดันแนวรับของ แมนฯซิตี้ ได้อยู่ตลอด ถ้าจะให้หย่อนหน่อยก็ช่วง 10-15 นาทีสุดท้ายที่มีการปรับแท็คติกมาเป็นสวนกลับแบบไม่ได้ไม่เสีย

จริงๆจุดนี้น่าจะเป็นการปลดแอกความไหลลื่นของเกมรุก ลิเวอรพูล ในแง่มุมหนึงอยู่เหมือนกัน เพราะแม้ว่า คูตินโญ่ จะยอดเยี่ยมและช่วยเหลือทีมในยามที่เครื่องจักรสีแดงเกิดขัดข้องขึ้นมาได้เพียงใด แต่ไม่น้อยเลยที่บอลมักจะต้องไปฝากอยู่กับแข้งบราซิเลี่ยนอย่างน้อยหนึ่งจังหวะ ก่อนจะถ่ายต่อขึ้นหน้าหรือไม่ก็โดนเจ้าตัวพยายามกดสูตรส่องจากพื้นที่นอกกรอบเขตโทษตามถนัด ถ้ามองในมุมนี้จะว่าดีก็ได้เช่นเดียวกัน

ทุกคนน่าจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การเล่นแบบซูเปอร์เพรสซิ่ง ที่เป็นแผนถนัดของเจอร์เก้น คล็อปป์บีบให้แข้ง “เรือใบ” เล่นได้อึดอัดและไม่ถนัดมากแค่ไหน เอาว่าตัวทำเกมที่ฟอร์มโคตรท็อปในซีซั่นนี้อย่างเควิน บรอยน์นี่แทบจะไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไรเลย รวมทั้งกุน อเกวโร่และเลรอย ซาเน่ที่แม้ว่าจะยิงได้ก็จริง แต่ก็ไม่ได้เล่นตามเกมของตัวเองสักเท่าไหร่

เกือบทั้ง 4 ประตูที่ ลิเวอร์พูล ยิงได้มีส่วนมาจากการเพรสซิ่งอย่างหนักหน่วงจนทำให้ลูกทีมของเป๊บ กวาร์ดิโอล่าก่อความผิดพลาดกันขึ้นมาเอง บ่งบอกได้ชัดเจนว่าการโดนเพรสซิ่งหนักๆนั้นไม่ใช่ของชอบของทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้เอาเสียเลย

กว่าลูกทีมของ เป๊บ จะฟื้นก็เข้าสู่ช่วงท้ายเกมซึ่งโดนนำอยู่ 4-1 แล้ว ซึ่งเป็นจังหวะที่ทาง “หงส์แดง” เริ่มผ่อนเกียร์ มีการปรับแผน เปลี่ยนนักเตะ จังหวะการเล่นถอยสปีดลงไปตามสเต็ป เปิดช่องให้ แมนฯซิตี้ ได้เริ่มตั้งเกมเป็นจริงเป็นจัง ก่อนจะยิงไล่มาเป็น 4-3 แถมยังเกือบๆจะตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกมที่โมเมนตั้มมาเต็มอีกด้วย

จริงอยู่ที่บางคนอาจจะมองว่าในช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูล ผ่อนการเล่นของพวกเขาเองจนเสียสมาธิและเปิดช่องให้โดนโจมตีจนเกือบจะเสีย 3 คะแนนที่มีค่าไป แต่เอาจริงๆ ถ้าหากทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มุ่งมั่นมากพอที่จะยังคงสู้ไม่ถอย แม้ว่าจะตามอยู่ถึง 3 ลูกและเหลือเวลาอยู่แค่ไม่ถึง 20 นาที โมเมนตั้มในการลุ้นตีเสมอช่วงท้ายเกมก็คงไม่เกิดขึ้น

จึงไม่แปลกที่ว่าทำไมหลายคนถึงได้ออกมาชื่นชมอดีตกุนซือบาร์เซโลน่า จากแอ็คชั่นข้างสนามที่เขาจะยังตะโกนสั่งลูกทีมให้มีสมาธิและสู้ต่อ แม้ว่าสุดท้ายจะจบเกมด้วยการพ่ายแพ้

และจึงเป็นสาเหตุของการดึงเอาเพื่อนบ้านร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเข้ามาเป็นประเด็นด้วย

ในขณะที่มีเสียงชื่นชม อีกด้านก็มีเสียงวิจารณ์ตามมาเช่นเดียวกันสำหรับการตัดสินใจของ เป๊บ ที่มีบางส่วนมองว่า เขาไม่ควรต้องเสี่ยงเปิดหน้าแลกอะไรกับทาง ลิเวอร์พูล ที่เป็นเจ้าบ้านแถมยังโคตรดุในเกมรุกขนาดนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีสถิติการเล่นไม่แพ้ใครติดตัวอยู่ แถมคะแนนยังทิ้งห่างนำฝูงอยู่เยอะ โดยได้มีการยกเอาตัวอย่างของ “ปีศาจแดง” จากการนำทีมของโจเซ่ มูริญโญ่ที่บรรจงเอารถบัสไปจอดขวางหน้าประตูตัวเองเมื่อยามเยือน แอนฟิลด์ พร้อมกลับออกมาด้วย 1 แต้มในมือ ซึ่งบางคนมองว่า เป็นการกระทำที่สมเหตุสมผลในการคว้าคะแนนสำคัญมากกว่าการลุยสู้แต่เจ๊งชัย

มันจึงทำให้คำถามคลาสสิคหวนกลับขึ้นมาเปนที่พูดถึงอีกครั้ง ระหว่างการเล่นฟุตบอลเพื่อความสนุก เร้าใจ โดนใจแฟนบอลกับการเล่นเพื่อหวังในชัยชนะ เน้นแต้ม มีคะแนน เพื่อไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย เพื่อเกียรติยศ ติดตรงที่ว่าในปัจจุบันอาจจะไม่ใช่เพียงแค่เกียรติยศอย่างเดียว แต่ยังเดิมพันด้วยเม็ดเงินมูลค่าหลายพันล้านในวงการลูกหนังอีกด้วย โดยผ่านตัวแทนอย่าง เป๊บ และ มูริญโญ่ ที่เป็นดั่งความต่างกันคนละด้าน

เพียงแต่ในสมัยปัจจุบันนี้เนื้อนัยของคำถามอาจจะเปลี่ยนไปสักหน่อย ด้านหนึง ยังคงเป็นเรื่องของความสนุกเร้าใจอยู่ อีกด้านนั้นไม่ใช่เพียงแค่เกียรติยศเท่านั้น แต่มันยังเดิมพันด้วยมูลค่าเม็ดเงินจำนวนหลายพันล้านในวงการลูกหนังอีกด้วย

ว่ากันด้วยความเป็นฟุตบอลจากเนื้อแท้ แน่นอนว่าความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจตลอดการแข่งขันที่สู้กันด้วยพละกำลัง ร่างกาย จิตใจ เทคนิค ความสามารถและแท็คติกในสนามคือส่งที่ดึงดูดใจให้ฟุตบอลกลายเป็นกีฬาที่โด่งดังและมีแฟนติดตามมากที่สุดชนิดหนึ่งบนโลกใบนี้ จึงไม่แปลกจนถึงขั้นเรียกว่าเป็นข้อเท็จจริงหนึ่งอย่าง หากใครจะคิดว่าเกมการเล่นควรเต็มไปด้วยความสนุก เร้าใจ มากกว่าการเล่นแบบน่าเบื่อเพียงเพื่อเอาคะแนน

แต่อีกมุมหนึ่งบนผืนหญ้าสี่เหลี่ยมก็มีข้อเท็จจริงอีกหนึ่งอย่าง เมื่อฟุตบอลกลายเป็นหนึ่งในกีฬาที่มีคนติดตามและสนใจมากที่สุดชนิดหนึ่ง มันจึงนำมาด้วยมูลค่าทางการตลาดที่สูงลิบลั่ว สูงถึงขนาดการซื้อ-ขายนักเตะแค่คนเดียวต้องใช้เงินถึง 200 ล้านปอนด์จากการที่ เนย์มาร์ ย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไปยัง ปารีส แซงต์ แชร์แมงต์ นี่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนที่สุดว่า ชัยชนะที่มีนั้นถูกเดิมพันด้วยเงินมูลค่ามากมายมหาศาลแค่ไหน

ภายใต้เกียรติยศ ชื่อเสียงและคุณค่าทางจิตใจจากถ้วยแชมป์ใบงาม เต็มไปด้วยความคาดหวังทางธุรกิจที่มีผู้เกี่ยวข้องมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมปัจจุบันนี้แต่ละสโมสรถึงได้มีความอดทนกันน้อยนักต่อการก้าวเดินที่ไม่มั่นคงบนเส้นทางแห่งความสำเร็จของกุนซือในทีม

ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นความคิดส่วนบุคคลซึ่งคงจะมีความแตกต่างกันออกไปทั้งในแง่ของมุมมองและสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น

บางครั้งความภาคภูมิใจก็กินไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าเราจะสุขล้นปรี่ได้ทุกครั้งเมื่อสิ่งที่ได้มานั้นมันไร้ซึ่งความภาคภูมิ

ฉะนั้นมันจึงอยู่ที่ว่าใครให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองได้มาแบบไหนและพอใจกับมันหรือไม่มากกว่านั่นแหละครับ …






-----------------------------------------------------------------------




ปล.ติชมได้เช่นเคยครับ ขอบคุณครับ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 15128
ที่อยู่: ไม่เอาดิ อย่ามายุ่ง
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:08 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
นึกสภาพเล่นๆ ทีมเล็กบุกใส่แมนซิสิ บรรเทิงแน่



0
0
เข้าร่วม: 07 Feb 2006
ตอบ: 12366
ที่อยู่: Theater of Dreams
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:10 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
ผมเฉยๆนะ แต่ละทีมก็เล่นตามแนวทางที่ผู้จัดการทีมตัวเองถนัดนั้นแหละ

แต่บังเอิญชอบมีคนหลายๆจำพวกที่มายัดเยียดว่า ความคิดตนเองดีสุด เจ๋งสุด แบบนี้ถึงจะดี ถึงจะเป็นฟุตบอล ฯลฯ

อีกหลายหลายคำหรือประโยคที่จะสรรหามากดคนอื่นที่เล่นไม่เหมือนที่ตัวเองคิดให้ต่ำลง

ส่วนตัวมองว่ามันคือเกมกีฬา มีหลากหลายรูปแบบการเล่น ถ้าคุณทำแบบที่ว่ามาข้างบน คุณก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเหยียดผิวเลย
เข้าร่วม: 11 Aug 2009
ตอบ: 2654
ที่อยู่: La Ciudad de Los Citizens
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:12 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
ก็เอาเหอะ นี่เรือเล่นเกมส์บุกแล้วแพ้ครั้งแรกจากทั้งฤดูกาลนะ

พูดยังกะว่ามีทีมที่เล่นอุดทีมไหนไม่แพ้หรือเก็บแต้มได้ตลอดงั้นแหละ

จะว่าไปไม่ค่อยเห็นแฟนเรือบ่นเลยนะ เรื่องบุกแล้วแพ้น่ะ

แต่ถ้าเล่นอุดแล้วแพ้นี่น่าจะเป็นปัญหากว่ามั้งครับ

เข้าร่วม: 10 Oct 2010
ตอบ: 4439
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:21 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
ใครเอาไงได้หมด

อยากอย่างเดียว คือ ให้บอสติวการรับการอุดเนียนๆ
ขจัดปัญหาแบบนี้ให้ได้ซักที คราวนี้ 4-1 เป็น 4-3
หัวใจจะวาย ถ้าแก่กว่านี้คงต้องเลิกเชียร์
0
0
เข้าร่วม: 28 Sep 2010
ตอบ: 649
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:22 pm
[RE]ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?
ผมเหมือนคุ้นๆว่า เป๊บกวาดีโอล่าแพ้ทางเพลสซิ่งอยู่แล้วโดยเฉพาะเพรสซิ่งสูงๆ ผมไม่มั่นใจเหมือนกันต้องถามแฟนบาร์เซโลนาและบาเยิร์นมิวนิคว่าตอนที่เป๊บคุมแล้วมีผลการแข่งขันที่แพ้เพราะโดนอีกฝ่ายเพรสซิ่งอย่างนัดเจอลิเวอร์พูลอย่างนี้หรือเปล่า

ส่วนวิธีการเล่นนั้นแฟนบอลโดยปกติก็ชอบ footballเกมรุกอยู่แล้วซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ แต่บางคนก็ยังชอบการเล่นเกมรับอยู่เหมือนกัน เพราะการยิงประตูทำให้ทีมชนะแต่การไม่เสียประตูทำให้ทีมไม่แพ้ถ้าเปรียบเทียบการบุกคือหัวใจของ football หรือเปล่าคำตอบอาจจะต้องตอบว่าใช่ แต่ถ้าเล่นเกมส์รุกดียิงประตูได้ดีคนจะจดจำไปห้าถึง 10 ปี เป็นคำบอกเล่าถึงรุ่นหลังหลังว่าทีมที่เล่นเกมรุกนี้เล่นได้ยอดเยี่ยมมาก แต่ถ้านานกว่านั้นผู้คนอาจจะหลงลืมการยิงประตูและการเล่นของทีมนั้นนั้นไปจะเหลือแต่การจดจำในถ้วยแชมป์ที่ทีมนั้นๆได้มากกว่าซึ่งจะถูกจดจำในหน้าประวัติศาตร์สโมสร ไปตลอดกาล

ดังนั้นสำหรับผมแล้วการที่ทีมชนะและได้แชมป์จะเป็นที่จดจำในอนาคตมากกว่าการเล่นเกมรุกที่ยอดเยี่ยมแต่ไม่เคยได้แชมป์อะไรเลย ถ้าหากจะเป็นการเล่นเกมรุกที่ดีต้องมีแชมป์ถึงจะได้รับการยอมรับครับ

เข้าร่วม: 02 Nov 2009
ตอบ: 455
ที่อยู่: Stadium of kite
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:43 pm
[RE]ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?
บุกละต้องแพ้ ???
อุดละจะมีแต้ม ???

มันไม่ใช่ยังงั้นเสมอไปนี่นา
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 890
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:49 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
แมนซิก็ยังอยู่ที่หนึ่งอยู่ดี ถึงจะแพ้ทีมที่บุกใส่ แต่ในลีกก็มีแค่หงส์ กับไก่เท่านั้นที่สามารถบุกแลกกับแมนซิได้ ทีมอื่นมันก็ทำไม่ได้ เก็บแต้มจากทีมเล็กได้สบาย แมนซิ ถ้าดูจากผลงานที่ผ่านมา หงส์กับแมนซิต่างกันแค่กองหลังกับผู้รักษาประตูเสียบอลโง่ ๆ ถ้าไม่โดนบีบหนัก ๆ กองหลังแมนซิกับผู้รักษาประทำงานสบาย ๆ ส่วนหงส์ ถึงเป็นลูกง่าย ๆ มันก็พลาดได้
0
0
เข้าร่วม: 06 Sep 2006
ตอบ: 1748
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:50 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
เท่าที่ดูฤดูกาลนี้ บุกละมีแต้ม อุดละแพ้ก็มีให้เห็นบ่อยๆนะ
เข้าร่วม: 24 Dec 2007
ตอบ: 7539
ที่อยู่: 西潟家
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:51 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
แบบไหนดีกว่าไม่รู้ แต่ผมก็พอใจในแนวทางของเป็ปแบบนี้แหละ

เกมนี้ถึงจะแพ้ก็ใช่ว่าซิตี้จะเสียประโยชน์อย่างเดียว

บางทีการหาข้อเสีย ก็ต้องพึ่งทีมอื่นมาหาให้ เป็ปก็น่าจะกลับไปดูนัดนี้

หลายครั้งต่อหลายครั้ง แล้วเจ้าตัวก็น่าจะมองเห็นจุดที่ต้องแก้ไขของทีมชุดนี้ได้

นัดนี้เราจะแพ้เพื่อแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมครับผมเชื่อมั่น
キムサン❤西潟家 NGT48 西潟茉莉奈❤神推し
LAST IDOL FAMILY - NOT EQUAL ME - EQUAL LOVE❤

เข้าร่วม: 20 Aug 2008
ตอบ: 2907
ที่อยู่: Stand Alone Complex
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:52 pm
[RE]ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?
ดูบอลมานานๆแล้วนะ คือ พอแก่แล้วด้วยมั้ง แบบใช้ชีวิตจบสัปดาห์มาก็อยากจะดูอะไรสนุกๆอะ บอลก็ดูทุกคู่น่ะแหละ

กีฬามันออกได้ทุกหน้าแหละ การเปิดเกมรุกมันไม่ได้แพ้เสมอไป อันนี้มาพูดหลังเกมก็พูดได้ มันเลยมีประเด็น แต่ซิตี้เล่นแบบนี้คว้าแต้มมาเท่าไหร่แล้ว? 1 แต้มบางทีมันไม่พอเป็นแชมป์อะ ยิ่ง EPL เดี๋ยวนี้จะแชมป์มันต้องหวังชนะทุกนัดแล้วมั้ง และต้องเก็บทีมใหญ่ให้ได้ด้วย เพราะทีมแชมป์หลังๆ นี่นอกจากจะเก็บทีมเล็กได้แล้วยังชนะทีมใหญ่ๆได้ด้วย

อีกข้อคือส่วนตัวคิดว่า การเล่นเกมรุกเป้าหมาย = บีบให้เค้าพลาด เล่นรับ = รอให้เค้าพลาด จากที่ดูลิเวอร์พูลมาตั้งแต่ยุต อุลลิเยร์ ราฟา จนมา JK บอกเลยว่า ต่อให้ได้ผลการแข่ง แต่รูปเกม แบบ อุลลิเยร์นี่ไม่เอาอะ คือ แบบเบื่อ แล้วก็อึดอัดมาก เชียร์ยุค คิงเคนนี่ที่ ยิงแต่เสากับคาน หรือ JK ที่บุก + เล่นเร็วเอามันส์ แต่มานั่งด่าความพลาดโง่ๆของเกมรับ ยัง Entertain กว่า มันรู้สึก อินกับมีส่วนร่วมในการเติบโตไปของทีมมากกว่า

อีกอย่าง ขอเทไปทางเกมรุกมากกว่า ที่เลือกแบบนั้นอีกอย่างเพราะ เสมอ 0-0 กับ แพ้แต่ยิง 4-3 มันสะท้อนว่าอนาคตนัดต่อๆไป ก็มีโอกาสได้ 3 แต้ม เพราะยังยิงประตูได้ แต่เสมอ 0-0 หรือแม้กระทั่งชนะ 1-0 มัน สะท้อนว่า แพ้ยาก เฉยๆอะนะ ยิงประตูได้น้อยมัน สะท้อนว่าเกมรุกมีปัญหา ไม่เสียประตูอย่างน้อยแค่ "ไม่แพ้" แต่อนาคตก็น่าเป็นห่วงอยู่ดี

ทั้งนี้ทั้งนั้น องค์ประกอบการได้แต้ม มันมีแค่ยิงประตูมันทำให้ทีมชนะ เล่นเกมรับดีมันทำให้ไม่แพ้ ทำได้ทั้ง 2 อย่างคือเป็นแชมป์ ไม่ใช่ว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างนึงอะ ทีมสูงสุดต้องพร้อมทั้ง 2 อย่างอะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่แต่ละทีมละ ว่าแค่อยากไม่แพ้ หรืออยากชนะ มากกว่ากัน อยากให้ทีมไปอยู่จุดไหน และศักยภาพของทีมไปอยู่จุดไหน ลองนึกภาพทีมที่มีนักเตะเกมรุกเทพแบบบาซ่า แล้วมาเล่นหวังไม่แพ้ อุดหน้าประตูเตะบอลให้อีกฝ่ายบุก ได้แล้วโยนยาวให้เมสซี่ไปยิงสิ น่าเบื่อขนาดไหน
เข้าร่วม: 21 May 2011
ตอบ: 2447
ที่อยู่: Eveve
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:53 pm
[RE]ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?
ทุกอย่าง พิสูจน์ด้วยตารางคะแนนครับ

ศาสตร์ลูกหนัง มันไม่มีอะไรตายตัว อยากจะเล่นสไตล์ไหนก็แล้วแต่โค้ชแต่ละคน สุดท้ายแล้ว ใครเป็นแชมป์ ทีมนั้นคือทีมที่ใช่ ในปีนั้นๆ
0
0
Oh YeaHH !!!
เข้าร่วม: 22 May 2008
ตอบ: 1727
ที่อยู่: ~The Theatre of Dreams~
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:54 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
จะอุด จะบุก มันก็ฟุตบอลเหมือนกัน จะอะไรกันหนักหน้า ส่วนตัวก็ชอบบอลบุกอยู่แล้ว แต่ถ้าโค้ชถนัดอุด ก็ไม่ได้มีปัญหาครับ ผมดูกีฬาเพื่อผ่อนคลาย และมีความสุขกับมัน ไม่ได้ดูเพื่อดราม่า เน้นอุดก็ไม่ใช่ไม่ได้บุกเลย เน้นบุกมากกว่าก็ไม่ใช่จะไม่อุดเลย คงไม่มีทีมไหนเล่นบุกตลอด 90นาทีหลอกมั้ง
0
0


เข้าร่วม: 25 May 2011
ตอบ: 20702
ที่อยู่: 1244/8
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:55 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
ทำไมไม่ตั้งคำถามตอนแมนยูตั้งรับแล้วแพ้แมนซิตี้คาบ้านมั้ง โดนยิงถึงคิดบุก แฟนบอลเค้าไปดูบอลก็หวังสนุกทั้งนั้น ยิ่งทีมใหญ่เจอกัน คงไม่อยากดูทีมหนึ่งบุกทีมหนึ่งตั้งรับหลอก ถ้าพูดถึงประสบความสำเร็จในการได้แต้มอะใช่ แต่ถ้าพูดถึงความสนุกในเกมคนเข้าไปดูถือว่าล้มเหลวสิ้นเชิง
0
0
เข้าร่วม: 23 Mar 2011
ตอบ: 100
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:57 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
นำอยู่ 12 แต้ม บุกแล้วแพ้ก็ไม่น่ามีปัญหาแหล่ะ ตรงข้ามผมว่า แพ้นัดนี้เรือเหมือนคลายความกดดันปลดล๊อคเงื่อนไขห้ามแพ้ไปแล้ว หลังจากนี้เล่นสบายอาจจะโหดกว่าเดิมและไร้พ่ายตลอดทางที่เหลือก็เป็นได้

และแม้ว่าหงส์จะเฉลยข้อสอบให้ดูว่าเล่นยังไงให้จมเรือได้ แต่จะมีซักกี่ทีมที่เล่นตามแผนนี้ได้เพราะขนาดหงส์ เอาตรงๆช่วงท้ายเกมนี่ ไม่ได้ผ่อนเกมตามแทคติคอะไรหรอก นักเตะหมดแรงแล้วคร๊าบ

0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 14456
ที่อยู่: กรุงเทพ
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 10:58 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
Believe พิมพ์ว่า:
ผมเฉยๆนะ แต่ละทีมก็เล่นตามแนวทางที่ผู้จัดการทีมตัวเองถนัดนั้นแหละ

แต่บังเอิญชอบมีคนหลายๆจำพวกที่มายัดเยียดว่า ความคิดตนเองดีสุด เจ๋งสุด แบบนี้ถึงจะดี ถึงจะเป็นฟุตบอล ฯลฯ

อีกหลายหลายคำหรือประโยคที่จะสรรหามากดคนอื่นที่เล่นไม่เหมือนที่ตัวเองคิดให้ต่ำลง

ส่วนตัวมองว่ามันคือเกมกีฬา มีหลากหลายรูปแบบการเล่น ถ้าคุณทำแบบที่ว่ามาข้างบน คุณก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเหยียดผิวเลย  


+ล้าน

ตามนี้ครับ
1
0
<___คนธรรมดา___>
เข้าร่วม: 12 Jan 2009
ตอบ: 12815
ที่อยู่: 19th hole
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 11:03 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
Carlitos-Lorenzo พิมพ์ว่า:
ก็เอาเหอะ นี่เรือเล่นเกมส์บุกแล้วแพ้ครั้งแรกจากทั้งฤดูกาลนะ

พูดยังกะว่ามีทีมที่เล่นอุดทีมไหนไม่แพ้หรือเก็บแต้มได้ตลอดงั้นแหละ

จะว่าไปไม่ค่อยเห็นแฟนเรือบ่นเลยนะ เรื่องบุกแล้วแพ้น่ะ

แต่ถ้าเล่นอุดแล้วแพ้นี่น่าจะเป็นปัญหากว่ามั้งครับ

 


อุ้ยยยยยยยยยยยยย

ใครเหรอ อุดแล้วแพ้อ่ะ?

มีจริงๆเหรอ?
#ใสๆ
0
0
เชียร์หงส์ ชอบเชลซี ปลื้มเฟอร์กี้และมูรินโญ่
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 18518
ที่อยู่: at sea
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 11:05 pm
ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?
ประวัติศาตร์บันทึก ทีมที่เป็นแชมป์ครับ
ไม่ได้บันทึกว่ารถบัส หรือบุก
0
0



เข้าร่วม: 29 Apr 2009
ตอบ: 10455
ที่อยู่: Promised Land
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 11:18 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
มันไม่ได้บุกแล้วแพ้ทุกนัด หรือ อุดแล้วได้แต้มทุกนัด

แล้วเกมมันก็มีนัดบุก นัดอุด แทบทุกทีมอยู่แล้ว ถึงจังหวะที่ต้องปิดเกมทีมที่ว่าบุกๆก็ต้องลงมาอุดเหมือนกัน ทีมที่ว่าอุดๆ ต้องการประตูมันก็บุก

เพราะ บุก กะ อุด มันเป็นส่วนนึงของเกม
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1416
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 11:18 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
Believe พิมพ์ว่า:
ผมเฉยๆนะ แต่ละทีมก็เล่นตามแนวทางที่ผู้จัดการทีมตัวเองถนัดนั้นแหละ

แต่บังเอิญชอบมีคนหลายๆจำพวกที่มายัดเยียดว่า ความคิดตนเองดีสุด เจ๋งสุด แบบนี้ถึงจะดี ถึงจะเป็นฟุตบอล ฯลฯ

อีกหลายหลายคำหรือประโยคที่จะสรรหามากดคนอื่นที่เล่นไม่เหมือนที่ตัวเองคิดให้ต่ำลง

ส่วนตัวมองว่ามันคือเกมกีฬา มีหลากหลายรูปแบบการเล่น ถ้าคุณทำแบบที่ว่ามาข้างบน คุณก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเหยียดผิวเลย  


กดแผล่บให้ได้ครังเดียวเอง...

ทุกทีมมีช่วงเวลาที่ต้องอุด และต้องเปิดหน้าแลกทั้งนั้นครับ..
ขึ้นอยู่กับแผนของผู้จัดการทีมจริงๆ
1
0

เข้าร่วม: 07 Feb 2006
ตอบ: 12366
ที่อยู่: Theater of Dreams
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 11:24 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
TeerawutC พิมพ์ว่า:
Believe พิมพ์ว่า:
ผมเฉยๆนะ แต่ละทีมก็เล่นตามแนวทางที่ผู้จัดการทีมตัวเองถนัดนั้นแหละ

แต่บังเอิญชอบมีคนหลายๆจำพวกที่มายัดเยียดว่า ความคิดตนเองดีสุด เจ๋งสุด แบบนี้ถึงจะดี ถึงจะเป็นฟุตบอล ฯลฯ

อีกหลายหลายคำหรือประโยคที่จะสรรหามากดคนอื่นที่เล่นไม่เหมือนที่ตัวเองคิดให้ต่ำลง

ส่วนตัวมองว่ามันคือเกมกีฬา มีหลากหลายรูปแบบการเล่น ถ้าคุณทำแบบที่ว่ามาข้างบน คุณก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเหยียดผิวเลย  


กดแผล่บให้ได้ครังเดียวเอง...

ทุกทีมมีช่วงเวลาที่ต้องอุด และต้องเปิดหน้าแลกทั้งนั้นครับ..
ขึ้นอยู่กับแผนของผู้จัดการทีมจริงๆ  


ขอบคุณครับ แค่อยากให้แต่ละคนเข้าใจ nature ของกีฬาอ่ะ

เหนื่อยใจ 5555
0
0
เข้าร่วม: 28 Jan 2006
ตอบ: 447
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 11:48 pm
[RE]ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?
Carlitos-Lorenzo พิมพ์ว่า:
ก็เอาเหอะ นี่เรือเล่นเกมส์บุกแล้วแพ้ครั้งแรกจากทั้งฤดูกาลนะ

พูดยังกะว่ามีทีมที่เล่นอุดทีมไหนไม่แพ้หรือเก็บแต้มได้ตลอดงั้นแหละ

จะว่าไปไม่ค่อยเห็นแฟนเรือบ่นเลยนะ เรื่องบุกแล้วแพ้น่ะ

แต่ถ้าเล่นอุดแล้วแพ้นี่น่าจะเป็นปัญหากว่ามั้งครับ

 


บุกแล้วโดนไล่ ก็เวนเกอร์ไง
0
0
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 1413
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Tue Jan 16, 2018 11:50 pm
ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?
สไตล์ใคร สไตล์มัน
0
0
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 10088
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 12:31 am
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
ตั้งแต่เกิดมาดูบอลมาหลายยุคมาก ดูบอลโลก 98 เป็นครั้งแรก เห็นอิตาลีเล่นรัดกุมแบบคาเตนัคโช่ เห็นบราซิลใช้สไตล์แซมบ้าที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเยอะๆ ต่อบอลไปมา เห็นการเล่นแบบ ไดเร็คต์ฟุตบอลของอังกฤษที่เกือบเล่นงานอาร์เจนติน่าได้ เห็นบอลคอนโทรลของฝรั่งเศส ที่ยุคนั้นมันก็ครบเครื่องมากละนะ

พอมาดูในลีกเจอ Sexy football ของ กุลลิท ที่เชลซี

ป๋าก็เน้นการคอนโทรลเกมด้วย 4-4-2 เจอปืนโตบิวตี้ของเวนเกอร์ ตอนนั้นก็มีการถกเถียงกันว่าเกมรุกแบบไหนดีกว่ากันระหว่าง สไตล์บอลคอนโทรลไม่ยึดติดรูปแบบการเข้าทำขอแค่ทำประตูได้แบบของป๋า 1 2 3 ตูม เป็นประตูได้แล้วไม่ต้องเล่นมากจังหวะ กับ สไตล์ต่อบอลสายฟ้าแล่บ ถ้าหลังลอยนี้โกลล์แหกแน่นอนของเจ๊เวนเกอร์ กว่าจะได้ยิงนี่ต่อบอลกันไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง

จนมายุคที่กรีซได้แชมป์ด้วยเกมรับ แมนยูไนเต็ดก็เริ่มเปลี่ยนสไตล์มาเล่นรัดกุมเน้นการสวนกลับจากนักเตะที่เร็วมากสองสามตัวแล้วได้ผลด้วยแทบจะครองอังกฤษไปเลยช่วงนั้น

แล้วสไตล์ตั้งรับของมูริญโญ่ฟุตบอลแบบโคตรรัดกุมและสวนกลับ(ผมว่านี่เป็นแรงบันดาลใจให้ป๋ามาเล่นสไตล์ประมาณนี้เลยแต่มูริญโญ่รัดกุมกว่านักเตะนี่แทบจะเล่นตามสั่งเป็นหุ่นยนต์เลย)ที่ไปประสบความสำเร็จกับหลายที่

เห็นเป๊บใช้ Tiki Taka ก็ประสบความสำเร็จ

ทุกสไตล์ที่มีในโลกนี้ล้วนแต่เคยประสบความสำเร็จในยุคนั้นๆแล้ว มันอยู่ที่ทีมมากกว่าว่าเก่งขนาดไหนไม่ว่าระบบอะไรมันก็ประสบความสำเร็จได้ ผมเห็นลิเวอร์พูลพยายามเล่นเกมรุกสวยงามมาเป็น 10 ปีละ หลังยุคไดเร็คต์ฟุตบอลของอุลลิเย่ห์ ผมก็ยังไม่เห็นจะประสบความสำเร็จอะไรเท่าไหร่เลย ต่างกันอีกตอนที่ลิเวอร์พูลใกล้เคียงจะประสบความสำเร็จจริงๆดันเป็นสไตล์ที่เต็มไปด้วยแทคติคของราฟา เพราะงั้นหุบปากไปเลยเรื่องรุกหรือรับ ดีกว่ากัน สิ่งที่วัดว่าทีมไหนดีกว่าอีกทีมเขาวัดที่ผลงานทั้งนั้นแหละ ชนะ 4-3 หรือ 1-0 ก็ 3 แต้มเหมือนกัน ไม่มีใครเปลี่ยนเรื่องนีได้หรอก
Hong World 2.0
Nerf Raheem Stering to not world class
Nerf AWB just good defense cant be world class
Nerf Werner move to chelsea not good enough for LIV
เข้าร่วม: 07 Feb 2009
ตอบ: 6804
ที่อยู่: Underground
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 12:59 am
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
ก็แล้วแต่คนจะมองนะ ส่วนตัวก็แล้วแต่ ผจก

ตอนป๋าได้ UCL ก็อุดแหลกรอสวน เน้นเข้าทำไวถึงได้ประตู ผมดูแมนยูมาจะ 20 ปีละ

เห็นมาทุกสภาพ สิ่งเดียวที่แมนยูขาดไม่ได้คือ ความกระหายในชัยชนะ นั้นแหละที่ผมต้องกาาที่สุด
1
0
ลูกที่สวยที่สุดในรอบครึ่งทศวรรษ
เข้าร่วม: 11 Jan 2014
ตอบ: 6918
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 1:55 am
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
ตัดชื่อทีมทั้งหลายทิ้งไป ไม่มีแมนฯซิ แมนฯยู ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีม A B C แล้วคิดว่าถ้าเราดูทีมพวกนี้แข่ง เราอยากดูเกมแบบไหน นั่นแหละคำตอบจริงๆไม่เจือปนด้วยอคติและอีโก้
0
0
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 5247
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 5:22 am
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
ทีมใหญ่เจอกันเขาก็บุกแล้วกัน
ทีมเล็กเจอทีมใหญ่ก็ต้องอุดหวังแหละครับ
เป็นเรื่องธรรมดาของทีมเล็กๆ
0
0
เข้าร่วม: 12 Jan 2008
ตอบ: 2613
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 7:21 am
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
มันก็มีวันของมันแหละ

วันไหนบุกแทบตายไม่มีสกอร์ก็มี

วันไหนบุกครั้งเดียวยิงเป็นประตูก็มี

วันไหนอุดให้ตายไงก็โดนก็ยังมี

0
0
เข้าร่วม: 10 Oct 2013
ตอบ: 2544
ที่อยู่: แอนฟิลด์
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 8:27 am
[RE]ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?
ถ้าเลือกได้ แฟนบอลต้องการให้ทีมเล่นเกมบุกยุแร้ว
0
0
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 977
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 9:20 am
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
มันขึ้นอยู่กับสไตล์โค้ชและมุมมองมากกว่าครับ
ถ้าเป็นคนเล่นฟุตบอลตัวรับหรือกองหลังย่อมไม่อยากเสียประตูเยอะ มันแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่มี เช่นเดียวกันกับผู้เล่นตัวรุกซึ่งก็ต้องทำประตูเยอะๆเพื่อโชว์ความสามารถ
แต่ในปัจจุบันส่วนใหญ่ทีมเล็กเจอทีมใหญ่ ทีมเล็กก็ต้องอุดเพื่อ 1 คะแนนอยู่แล้ว เหมือนกับบอลเตะเหย้าเยือนแหละ ทีมเยือนก็ต้องอุดไม่อยากเสียประตูเพื่อกุมความจะได้เปรียบ
แต่บางทีมันก็มีความเห็นของแฟนบอลที่ว่า ทีมใหญ่เจอทีมใหญ่จะไปเล่นอุดทำไม ไม่วัดกันหมัดต่อหมัดไปเลย
คหสต ผมว่ามันก็จริงนะ ทีมใหญ่ด้วยกันแต่มาเล่นรถบัสใส่กันมันก็น่าเกลียดเกิน
0
0
เข้าร่วม: 19 Aug 2008
ตอบ: 4177
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 11:35 pm
[RE: ดีเบตบังเกิด … บุกแล้วแพ้หรืออุดแล้วมีแต้ม ?]
มีคนสองคน



1 ทำแล้วแต่ทำไม่ได้
2 ทำได้แต่ไม่คิดทำ

ผลลัพท์ออกมาเหมือนกัน สองคนนี้คุณจะเลือกคนไหน
0
0