ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 7850
ที่อยู่: กทม
โพสเมื่อ: Mon Dec 18, 2017 11:20 pm
กลุ่มก๊าช.. พลังงานลึกลับ...เมื่อปี 1940 .. กับบุคคลลึกลับ.. " มันคืออะไรกันแน่ " !??




The Mad Gasser of Mattoon
The Mad Gasser of Mattoon  มีชื่อเรียกหลายชื่อครับ
เช่น นักวางยาแปลกหน้า(The Anesthetic Prowler), 
นักวางยาชา(The Mad Anesthetist), 
ผีวางยาThe Phantom Anesthetist,
The Mad Gasser of Roanoke และMad Gasser
(ผมขอเรียกว่าคนบ้าแห่งแมททูนนะครับ)
.


The Mad Gasser of Mattoon  เป็นชื่อเรียก
เหตุการณ์ลึกลับ ที่เกิดขึ้นที่เมือง Botetourt 
มลรัฐเวอร์จิเนียในช่วงกลางเดือน 1940 ที่จู่ๆ
ก็มีชายลึกลับรูปร่างหน้าตาประหลาด
ส่วนใหญ่ ชายแปลกหน้าจะใส่ชุดสีดำ
และใส่หมวกแก๊บในมือ มีวัตถุประหลาด ?
เหมือนถังสำหรับ ฉีดยาฆ่าแมลง
และมันจะพ่นก๊าซประหลาดใส่ชาวเมืองนี้หลายราย

โดยคนที่สูดกาซนี้ เกิดอาการป่วย แบบหาสาเหตุไม่ได้
จากนั้นเหตุการณ์เหล่านี้ ก็เริ่มลามไปยังแมนทูนเมืองเล็กๆ
ในรัฐอัลลิมอยส์ที่มีพลเมืองประมาณ 16,000 คน
และประชาชนหลายคนก็เหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เหมือนกัน

จนกระทั้งบัดนี้ ก็ยังไม่มีใครสามารถ
ให้คำตอบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั้นคืออะไร ? 
และทำไมมันถึงเกิดขึ้น ? แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เหตุการณ์นี้ก็ส่งผลให้ เมืองแทนทูน ได้รับเกียรติ
มีชื่อปรากฏอยู่ในบันทึกโลกของเรื่องปริศนา
ที่หาคำตอบไม่ได้ตลอดกาล !??????



และต่อไปนี้คือ เรื่องราวเหตุการณ์
ที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแมททูน ?
เริ่มแรกๆ คนบ้าแห่งแมททูน ออกอาละวาดที่เมือง 
โบเททอร์ท (Botetourt) มลรัฐเวอร์จิเนีย ก่อนนะครับ
โดยเวลาที่มัน ออกอาละวาด คือตอนกลางคืน
ในช่วงเวลา 2 อาทิตย์ ในฤดูหนาว
ระหว่างเดือนธันวาคม 1933 เดือนมกราคม 1934  
ที่ชาวเมืองเคยประสบกับเหตุการณ์พ่นก๊าซลึกลับ
(บางคนถูกพ่นถึง 3 ครั้งในคืนเดียว)
ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย แบบที่ชาวเมืองแมททูนประสบมาแล้ว
เช่น ปวดศีรษะ อาเจียน เป็นอัมพาตชั่วคราว ฯลฯ
นอกจากนี้หลักฐานที่เกิดเหตุก็มีเช่น
รอยเท้าของสตรี ที่เดินไปเดินมา แล้วขาดช่วง อย่างลึกลับ
และวัตถุ ที่มีความมันเหมือนน้ำมัน
กลิ่นออกเอียน ๆ อยู่ใกล้ๆ รอยเท้าสตรีลึกลับนี้



เหตุการณ์ครั้งแรก น่าจะเริ่ม
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 1933 เวลา 10:00 น.
เมื่อนาง Huffman รู้สึกว่า ได้กลิ่นประหลาด
ที่อธิบายไม่ได้ ว่าเป็นกลิ่นอะไร
ซึ่งเมื่อเธอ สูดดมกลิ่นนั้น ก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ
และเวลา 10:30 กลิ่นนั้นก็กลับมาอีกครั้ง
คราวนี้เธอแจ้งตำรวจ และต่อมาเวลา 1:00 น.
กลิ่นนั้นก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้สมาชิกทั้งหมดในบ้าน
ทั้งแปดคน ของนางก็ได้รับผลกระทบ จากก๊าซนี้ไปด้วย
พวกเขาปวดหัวคลื่นไส้ ใบหน้าบวม คอหอยตีบ
จนเกือบไม่หายใจ โดยเฉพาะนาง Huffman 
ร่ายกายของเธอชาจนขยับไม่ได้หลายสัปดาห์

ในตอนแรกนั้นไม่ค่อยมีใครสนใจเรื่องนี้มากนัก
แพทย์ท้องถิ่น ลงความเห็นว่า อาจเกิดจาก
ความตื่นกลัวเรื่องก๊าซมากกว่า (กลัวเกินเหตุ)



เหยื่อรายถัดไปเกิดขึ้นที่ Cloverdale 
ในวันที่ 24 ธันวาคม Clarence Hall และครอบครัว
ที่ประกอบด้วย ภรรยาและลูกสองคน
กลับมาบ้าน หลังจากที่ไปโบสถ์มา เวลา 9:00 น.  
พวกเขาก็ได้กลิ่นประหลาด เป็นกลิ่นหวานๆ
จนทำให้พวกเขาคลื่นไส้ หลังเหตุการณ์นี้
ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ พบว่าก๊าซส่วนใหญ่
ปรากฏร่องรอยเป็นกระจุก บนกระจกใกล้ๆที่เกิดเหตุ
สันนิษฐานว่ามีใครบางคนพ่นสารอะไรสักอย่างเข้าบ้าน



เหตุการณ์ที่สามเกิดขึ้นเมื่อ 27 ธันวาคมที่ Troutville 
เมื่อ Kelly และแม่ของเขา อ้างว่าพวกเขา
ได้กลิ่นประหลาด และมีอาการคลื่นไส้
เหมือนเหยื่อรายก่อนหน้า และสี่และห้า รายถัดไป
เกิดขึ้นในเดือนใหม่คือวันที่ 10 มกราคม
เกิดมีเหตุการณ์ที่แต่ละราย ได้กลิ่นประหลาด
และมีอาการประหลาดหลังได้กลิ่นนั้นเช่นกัน
นอกจากนั้น ยังมีรายงาน โจมตี
ของคนบ้าแมททูนหลายราย !!!!
.
วันที่  16 มกราคม 1934 ที่ Bonsack 
นาย F. Duval ถูกชายหญิงที่นั่งบนรถโจมตีด้วยก๊าซ
.
วันที่ 19 มกราคม ที่ Cloverdale 
นาง Campbell โดนกลิ่นประหลาด
.
วันที่ 21 มกราคม ที่ Cloverdale 
นายและนาง Howard Crawford  
โดนกลิ่นประหลาดเล่นงานหลังกลับบ้าน
.
วันที่ 22 มกราคม ที่ Carvin’s Cove 
ทั้งสามบ้านในระยะสองไมค์ถูกเล่นงานด้วยกลิ่นประหลาด
.
วันที่ 23 มกราคม ที่ Pleasantdale Church นาง RH Hartsell
.
วันที่ 28 มกราคม ที่ Cloverdale 
นายและนาง Ed Stanley และแขกสามคน
โดนเล่นงานด้วยก๊าซเช่นกัน
.
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ Nace 
นายและนาง Scaggs และผู้ใหญ่อีก 5 คน 
ได้รับผลกระทบการก๊าซประหลาด
.
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ Lithia JG Schafer 
ถูกโจมตีตอนหิมะตก ตำรวจได้ค้นพบหิมะ
ที่มีลักษณะด่างดำกลิ่นหวานหอม ๆ
แปลกๆ บริเวณที่ที่เกิดเหตุ เมื่อตรวจสอบ
พบว่าเป็นกำมะถันสารหนู และคราบน้ำมัน
ซึ่งเป็นส่วนประกอบของยาฆ่าแมลง
.


ดูเหมือนว่า คนบ้าแห่งแมททูน
จะเบื่อ ที่จะออกอาละวาด ที่วอร์จิเนีย
มันเลยย้ายที่อยู่ไปที่ แมนทูนเมืองเล็กๆ
ในรัฐอัลลิมอยส์ทแทน ทั้งๆ ที่เว้นระยะนานถึง 10 ปี
.
 เหตุการณ์เกิดขึ้น ที่แมนทูนเกิดขึ้นครั้งแรก
เมื่อปลายฤดูร้อนในปี ค.ศ. 1944 เริ่มจาก
ในคืนวันที่ 31 สิงหาคม Mattoon 
ชายชาวเมืองแมททูนคนหนึ่ง รู้สึกตัวไม่สบาย
เขาตื่นนอน ขึ้นตอนเช้ามืด พร้อมกับรู้สึก
ไม่ค่อยสบายจนลุกขึ้นมา ด้วยความลำบาก
เขาลุกไปอาเจียนในห้องน้ำ เขาสงสัยว่า
เขาไม่สบาย เพราะภรรยาลืมเปิดแก๊สทิ้งเอาไว้
จึงได้สอบถาม เธอว่า เธอเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน
และจะลุกไปตรวจดู แต่แล้วเธอก็ไม่สามารถเอาอะไรได้
เพราะจู่ๆ ร่างกายเธอเกิดอ่อนเปลี้ย
ไม่มีแรงเหมือนเป็นอัมพาตขึ้นมาเฉยๆ
.
ในเวลาไล่เลี่ยกัน อีกด้านหนึ่งของเมือง
นาง awakened ตื่นขึ้นมาเนื่องจากได้ยินเสียง
บุตรสาวคนเล็กของเธอ กำลังสำลักอยู่ในห้องติดกัน
เธอพยายามจะลุกไปดู แต่ไม่สามารถ
ขยับเขยื้อนได้เหมือนในกรณี Mattoon
.


ในคืนถัดมา เหตุการณ์เช่นคืนนี้ก็เกิดขึ้นอีก
โดยเกิดเมื่อเวลา 5 ทุ่ม เมื่อนางเบิร์ท เคียร์นีย์
ตื่นขึ้นที่ห้องนอน เนื่องจากได้กลิ่นอะไรสักอย่าง
ที่ เอียนและคลื่นไส้ เวลาผ่านไปกลิ่นนี้
ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้า
เธอเริ่มไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายท่อนล่างได้
ด้วยความตกใจเธอจึงส่งเสียงร้องให้เพื่อนบ้านช่วยเหลือ
แต่เมื่อ เพื่อนบ้านมาช่วยและตรวจสอบ
กลับไม่พบสิ่งปกติใดๆ ในบริเวณใกล้เคียง
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตรวจสอบ
ก็ไม่พบสิ่งปกติเช่นกัน และในเช้าวันต่อมา
นางเบิร์น จู่ๆ เกิดริมฝีปากไหม้ปากและลำคอแห้งผาก
คาดว่าเกิดจากก๊าซลึกลับที่เธอสูดดมในคืนที่ผ่านมานั้นเอง
.


อย่างไรก็ตาม คืนต่อมา ก็เกิดขึ้นกับ เบิร์ท เคียร์นีย์ อีกครั้ง
คราวนี้เกิดขึ้นพร้อมกับภรรยาของตัวเอง
โดยเกิดขึ้นเมื่อเวลาเที่ยงคืนครึ่ง เขาเห็นบุรษผู้หนึ่ง
รูปร่างผอมสูงกำลังยืนลับๆ ล่อๆ อยู่ภายนอกบ้าน
ตรงหน้าต่างห้องนอน พอเห็นเบิร์ทก็ผละหนี
และหายไปอย่างไร้ร่องรอย !????
\ถึงตอนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็กลายเป็นข่าวใหญ่
หนังสือพิมพ์แมททูนเจอร์นัล กาเซ็ตต์
ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ได้ประโคมหัวข่าว
อย่างตื่นเต้นว่า “เกิดเหตุคนบ้าอาละวาดพ่นก๊าซ”

และหลังจากหนังสือพิมพ์หลังข่าวนี้
เหตุการณ์ประหลาดในแทททูน
เกิดขึ้นมากมายเป็นระลอกคลื่น ดังนี้
                


ในคืนวันที่ 5 กันยายน นายและนางคาร์ล คอร์เดส
ได้กลับถึงบ้าน เวลาประมาณ 22.30 น.
ทั้ง 2 ข้างบ้านทางประตูหลัง จากนั้นนางคอร์เดส
จึงเดินไปเปิดล็อคประตูหน้า ขณะที่กำลังเปิดประตู
นางสังเกตเห็นเศษผ้าชื้นๆ สีขาวชิ้นหนึ่งตกอยู่ที่ประตู
จึงได้หยิบขึ้นมาดู โบกไปมา บริเวณใบหน้าตนเอง
และทันที่ ที่สูดกลิ่นจากผ้าชิ้นนี้เข้าไป
นางก็เกิดความรู้สึก เหมือนถูกดูดด้วยกระแสไฟฟ้าแรงสูง
ความรู้สึกนี้ แล่นไปจากร่างส่วนบน สู่ปลายเท้า
และย้อนกลับขึ้นไปหยุดอยู่ที่หัวเข่าทั้ง 2 ข้าง
ทำให้เกิดอาการอัมพาต รวมทั้งอาเจียนออกมาในทันที
จากนั้นเวลาเพียงไม่กี่นาทีใบหน้าและริมฝีปากไหม้
และมีเลือดไหลออกปาก จนในที่สุดนางก็ไม่สามารถพูดได้ชั่วขณะ

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าแปลกอย่างยิ่ง
ที่แม้ว่าอาการทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
และดูเหมือนจะหนักสาหัสเข้าขั้น แต่ทว่า
อาการลึกลับนี้ กลับหายไปเองจนสู่สถาวะปกติ
ในเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
.


เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงบ้าน ของนางและนายคอร์เดส
ร่องรอยที่พบ มีเพียงกุญแจผีดอกหนึ่ง
กับปลอก ลิปสติคเปล่าอันหนึ่งเท่านั้นเอง
ส่วนเศษผ้า ที่เป็นต้นเหตุได้ถูกส่งไปวิเคราะห์
ที่มหาวิทยาลัยแห่งอิลลินอยส์ และที่สำนักอาชญากรรมแห่งรัฐ
แต่ทั้งสองหน่วยงาน ไม่สามารถบอกได้
ว่าสารลึกลับที่อยู่บนชิ้นผ้านี้คืออะไร ???

ในช่วงเวลา 2-3 วันต่อมาได้เกิดเหตุการณ์
ทำนองนี้ขึ้นอีกหลายครั้ง ทั้งหมดล้วนมีรูปแบบเดิม ๆ
คือผู้ประสบเหตุมักถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
โดยเสียงจากภายนอกหน้าต่างห้องนอน หรือไม่ก็กลิ่นก๊าซ
เสียงที่ได้ยินก็เป็นเสียงแปลกๆ เช่นเครื่องพ่นก๊าซ
แต่มีบางรายก็ได้ยินเสียง จากการทุบกระจกหน้าต่าง
ส่วนตัวก๊าซ ผู้ประสบเหตุหลายคนยืนยัน นอนยัน
เลยว่าเป็นควันสีฟ้า อาการเกิดขึ้นได้แก่อาเจียน
เป็นอัมพาตชั่วคราว ริมฝีปากบวมหรือไหม้ ใบหน้าบวม
โดยระยะเวลา ที่แสดงอาการ จะอยู่ในช่วง
ระหว่าง 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง สุดท้ายคือ

เจ้าก๊าซลึกลับนี้ ก็ไม่ทิ้งรอยคราบหรือเศษผงใดๆ
ไว้ในที่เกิดเหตุแม้แต่นิดเดียว นอกจากนี้
ชายที่พ่นสารลึกลับนี้ หลายคน ก็ให้การตรงกันว่า
เป็นชายรูปร่างผอมสูงใส่เสื้อผ้าสีออกมืดๆ ดำ
ใส่หมวกแก๊ป และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย



การปรากฏเหตุการณ์ประหลาด ในเมืองแทนทูน
ยังเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ชาวเมือง
เริ่มจัดตั้งกลุ่มระวังภัย ออกตรวจตรา
ตามถนนสายต่างๆ ยามค่ำคืนมากขึ้น
แต่กระนั้นเหตุการณ์ประหลาดนี้ ยังเกิดเรื่อยๆ
อย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถจับผู้ก่อเหตุได้
จนมีหลายคน สงสัยว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์นี้
เป็นเรื่องจริงหรือเกิดจากสถาวะผิดปกติของคนกันแน่ ?



ในที่สุด เหตุการณ์ประหลาดครั้งสุดท้าย
ก็เกิดขึ้นคืนวันที่ 13 กันยายน
ที่บ้านของนางเบอร์ธา เบนซ์ แต่ครั้งนี้
แปลกกว่าครั้งก่อนที่ คนปล่อยก๊าซเป็น 
“สตรีแต่งชุดของบุรุษ” กำลังฉีดก๊าซเข้าไป
ที่หน้าต่าง ห้องนอนของเธอ และวันรุ่งขึ้น
นางเบอร์ธา ก็พบรอยรองเท้าส้นสูง
ของสตรีปรากฏที่พื้นดินใต้หน้าต่างห้องนอน
.


แน่นอนว่าเหตุการณ์ประหลาด ที่เกิดขึ้น
ที่เมืองแมททูน และ โบเทเทอร์ เคาน์ตี
ได้ทิ้งปริศนา ที่เป็นคำถามมากมาย
ที่ไม่เคย มีใครตอบได้ จะว่าไป เหตุการณ์ทั้งหมด
น่าจะเป็นผล มาจากภาวะจิตคิดไปเอง ของผู้คน
ที่เรียกว่าภาวะจิตคิดไปเอง
หรือโรคฮัททีเรียหมู่ (Mass hysteria)
เชิงนักสุขภาพจิตเรียกอาการนี้ว่า โรคอุปทานหมู่
เป็นการเชื่อมโยงการทำงาน ของกายกับจิต
เมื่อผู้ใดได้รับรู้เรื่องราว ที่มีความเชื่อ
ในเรื่องนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับ
ได้ยินบรรยากาศหรือเสียงที่รู้สึกสะท้อนใจ
มีความรู้สึกร่วมกัน ก็จะปลดปล่อยออกมา
การเกิดโรคดังกล่าวจะเกิดขึ้น กับคนใดคนหนึ่ง
ที่จิตใจไม่เข้มแข็งก่อน จากนั้นผู้ที่ได้เห็นภาพ
และมีจิตใจคล้ายคลึงกัน ก็จะเป็นตาม
ถือเป็นโรคติดต่อทางใจอย่างหนึ่ง
.


อีกสาเหตุที่เดาๆ กันก็คือก๊าซพิษหรือมลพิษ
จากอุตสาหกรรมพืชและโรงงาน ซึ่งมลพิษเหล่านี้
มีกลิ่นหวานๆ ถ้าคนสูดดมนานๆ
อาจมีอาการคล้ายกับเหยื่อรายก่อนหน้าได้
เพราะมีหลายเหตุการณ์ ที่พยานเห็นคนเกิดเหตุจะๆ  
แต่กลับไม่มีร่องรอยที่เกิดเหตุที่เป็นหลักฐาน
แต่ถ้าไม่ใช่โรคจิตล่ะ มันเกิดขึ้นเพราะใคร ? 
พวกโรคจิต ? สิ่งลึกลับนอกโลก ? หรือมนุษย์ต่างดาว ? 
ซึ่งตราบใดคำถามนี้ยังไม่มีคำตอบ เหตุประหลาด
ที่แมททูนก็ยังคงเป็นปริศนาลึกลับ จวบจนทุกวันนี้. !??
....


เข้าร่วม: 29 Nov 2007
ตอบ: 1111
ที่อยู่: อย่าเสือก เดี๋ยวเหงือกสั่น
โพสเมื่อ: Tue Dec 19, 2017 12:32 pm
[RE: กลุ่มก๊าช.. พลังงานลึกลับ...เมื่อปี 1940 .. กับบุคคลลึกลับ.. " มันคืออะไรกันแน่ " !??]
ท่านผู้ชื่นชอบเรื่อลี้ลับ เห็นมาโพสประจำ
0
0