วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2560



คริสตัล พาเลซ - สโต๊ค ซิตี้ ( 22:00 น. )
"ปราสาทเรือนแก้ว"ได้พาทริค ฟาน อานโฮลท์กับจอร์ดอน มัทช์หายเจ็บกลับมาแต่คอนเนอร์ วิคแฮมกับลี ชุง-ยองยังเดี้ยงไม่หาย

คริสเตียน เบนเทเก้อาจสตาร์ทตัวจริงหลังจากหายเจ็บเข่ากลับมาลงสำรองสุดสัปดาห์ก่อน

"ช่างปั้นหม้อ"อาจไม่มีเซอร์ดาน ชาคิรี่ที่ถูกเปลี่ยนตัวเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง(ต้นขาด้านหลัง)ในเกมกับไบรท์ตันเมื่อวันจันทร์

เจฟฟ์ คาเมร่อนยังกลับมาซ้อมเต็มรูปแบบไม่ได้หลังจากมีอาการกระทบกระเทือน
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : สโต๊ค ชนะ 2-1
เบน ฟรีคิก ฟันธง : 2-2


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ( 22:00 น. )
"ปีศาจแดง"ขาดเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่เจ็บอยู่ทั้งเอริค ไบญี่กับฟิล โจนส์ส่วนมาร์กอส โรโฮอาจไม่ถูกเสี่ยงใช้งานหลังเพิ่งกลับจากการเจ็บเข่าพักยาวมาลงสนามเมื่อกลางสัปดาห์

ซลาตัน อิบราฮิโมวิชยังไม่พร้อมสตาร์ทตัวจริงขณะที่กัปตันไมเคิล คาร์ริคเดี้ยงอยู่แต่เฮนริค มคิทาร์ยานจะกลับมามีชื่อในทีม

"เดอะ ซีกัลส์"ไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเสมอสโต๊คเมื่อวันจันทร์

เบราม คายาลจะเดินทางมากับทีมด้วยหลังฟื้นจากอาการขาหักแต่น่าจะไม่ได้ลงเล่น
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2-0
เบน ฟรีคิก ฟันธง : ผี ขยี้ 3-0


นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด - วัตฟอร์ด ( 22:00 น. )
"สาลิกาดง"ไม่มีไอแซ็ค เฮย์เด้นติดโทษแบนหลังจากรับใบเหลืองใบที่ 5 ในเกมบุกแพ้แมนฯ ยูไนเต็ด

พอล ดัมเมตต์ยังเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงแต่มิเกล เมริโน่หายเจ็บแผ่นหลังพร้อมลงสนาม

"แตนอาละวาด"ได้กีโก้ เฟเมเนียพร้อมลงเล่นแม้ถูกเปลี่ยนตัวในเกมชนะเวสต์แฮมเพราะตะคริวขึ้น

เซบาสเตียน โพรเดิลพร้อมลงตัวจริงนัดแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมแต่ทีมยังขาดนักเตะอยู่ 5 รายรวมถึงทรอย ดีนี่ย์ซึ่งติดโทษแบน
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : 1-1
เบน ฟรีคิก ฟันธง : 1-1


สวอนซี ซิตี้ - เอเอฟซี บอร์นมัธ ( 22:00 น. )
"หงส์ขาว"ต้องรอทดสอบความฟิตแทมมี่ อับราฮัมมีอาการเจ็บแผ่นหลังรบกวนจากเกมกับเบิร์นลี่ย์สุดสัปดาห์ก่อน

วิลฟรีด โบนี่พร้อมลงตัวจริงนัดแรกนับตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายนแต่ลีออน บริตตันเจ็บโคนขาหนีบ

"เดอะ เชอร์รี่ส์"ไม่มีเจอร์เมน เดโฟกองหน้าจอมเก๋าเจ็บน่อง

กัปตันไซม่อน ฟรานซิสติดโทษแบนเนื่องจากใบแดงในเกมกับฮัดเดอร์สฟิลด์สุดสัปดาห์ที่แล้ว
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : บอร์นมัธ ชนะ 2-0
เบน ฟรีคิก ฟันธง : เชอรี่ สองโคก 2-0


ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ - เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ( 22:00 น. )
"ไก่เดือยทอง"ได้เอริค ลาเมล่าลงเล่น 60 นาทีให้ทีม U23 (รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี) สัปดาห์นี้แต่ยังไม่น่าจะได้ลงให้ทีมชุดใหญ่

วิคเตอร์ วานยาม่ากับโทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ยังเจ็บแต่คีแรน ทริปเปียร์กับเบน เดวิสน่าจะกลับมาได้

"มวยโลก"ไม่มีนาเซอร์ ชาดลี่เจ็บสะโพกอดเจอทีมเก่า

เจมส์ มอร์ริสันกับเคร็ก ดอว์สันก็ลงไม่ได้เพราะเจ็บเอ็นร้อยหวายและเข่าตามลำดับ
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : สเปอร์ส ชนะ 2-0
เบน ฟรีคิก ฟันธง : ไก่ ใสๆ 4-1


ลิเวอร์พูล - เชลซี ( 00:30 น. )
"หงส์แดง"มีโอกาสสูงที่จะได้โฌแอล มาติปกลับมาหลังจากพลาดไป 2 นัดเพราะเจ็บต้นขา

อดัม ลัลลาน่าอาจได้ลงนัดแรกนับตั้งแต่เจ็บต้นขาช่วงปรี-ซีซั่นแต่เอ็มเร่ ชานมีปัญหากล้ามเนื้อต้องรอทดสอบความฟิต

"สิงห์ไฮโซ"ได้วิคเตอร์ โมเซสกลับมาหลังจากหายไป 6 สัปดาห์ด้วยอาการเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง

มิชี่ บาตชูอายี่, ชาร์ลี มูซอนด้า และเคเนดี้ยังเดี้ยงอยู่หมด

เกร็ดน่าสนใจ
- เจอกัน 5 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล ไม่แพ้เลย ( ชนะ 2 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ , เสมอ 3 ที่แอนฟิลด์ )

- เชลซี ไม่แพ้ 5 นัดติดต่อกันในการมาเยือนแอนฟิลด์ในพรีเมียร์ลีก ( ชนะ 2 , เสมอ 3 )

- นี่คือการเจอกันครั้งที่ 55 รวมทุกรายการนับตั้งแต่ขึ้นปี 2000

- "หงส์แดง" ชนะมา 3 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ขึ้นปี 2017

- "เรด แมชีน" เล่นในบ้านยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้และเสียประตูในพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ลูกเดียวให้กับ เบิร์นลี่ย์

- โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก 12 นัดทำไป 9 ประตู ตอนอยู่ เชลซี ลง 13 นัดทำได้ 2

- เชลซี ชนะในลีกมา 3 นัดติดโดย 2 นัดหลังไม่เสียประตู

- 15 จาก 23 ประตูในลีกที่ "สิงห์ไฮโซ" ทำได้มาจากนักเตะสแปนิช

- อัลบาโร่ โมราต้า ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 11 นัดมีส่วนร่วมโดยตรงกับ 12 ประตู ( ยิง 8 , แอสซิสต์ 4 )

- ตั้งแต่ อันโตนิโอ คอนเต้ มาเป็นเจ้านาย เอแดน อาซาร์ ทำประตูในพรีเมียร์ลีกไป 16 นัดซึ่งต้นสังกัดคว้าชัยได้ทั้งหมด
มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1
เบน ฟรีคิก ฟันธง : 2-2

หงษ์สิงมันๆหน่อย

น่าจะเสร็จหงส์
หรือเสมอ