03 November 2017 01:17 PM by jedi
จัดระเบียบสโมสรบอลไทย !!!


การเปิดตัวของ “จัมปาศรี ยูไนเต็ด” ที่เข้าไปเทคโอเวอร์ “ซูปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ” กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจและน่าสงสัยในหลายๆเรื่อง นี่คือกรณีศึกษาที่วงการฟุตบอลไทยต้องทำความเข้าใจและวางมาตรการรับมือ !!!

ข้อสงสัยปราการแรกสุดของหลายๆคนคือคำถามที่ว่า เปลี่ยนชื่อได้อย่างไร ? ย้ายสนามไปต่างจังหวัดได้หรือไม่ ?

เบื้องต้นจากที่ไปสืบข่าวหาความจริงมา “บริษัท ไทยลีก จำกัด” หรือ “ทีแอล” บอกว่าทำได้ครับ เนื่องจากระบบ “คลับ ไลเซนส์” ของทีมใน “ไทยลีก 1” และ “ไทยลีก 2” ระบุไว้ว่าบริษัทที่นำส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันต้องคงชื่อ ที่ตั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี

ระเบียบตรงนี้ระบุชัดและทำความเข้าใจได้ง่ายๆคือ “คลับ ไลเซนส์” มีรอบเวลา 2 ปี ช่วงระหว่าง 2 ปีจะเปลี่ยนแปลงถิ่นฐานหรือชื่อทีมคงทำไม่ได้ เช่นกรณีของ บีอีซี เทโรศาสน ที่อยากจะเป็น “โปลิศ เทโร” ตั้งแต่ฤดูกาลนี้ก็ยังไม่สามารถทำได้

แต่กรณีของ ซุปเปอร์พาเวอร์ฯ นั้น “คลับ ไลเซนส์” ที่ทำเอาไว้ครบกำหนดเวลา 2 ปีแล้ว ส่วน “คลับ ไลเซนส์” ตัวใหม่สำหรับฤดูกาล 2018-2019 ทางทีมได้ส่งรายละเอียดทีมใหม่คือ “จัมปาศรี ยูไนเต็ด” เข้ามาแทนเรียบร้อยแล้ว

ซุปเปอร์พาวเวอร์ฯ ได้ยื่นขอ “คลับ ไลเซนส์” มาตามกำหนดเส้นตายเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุรายละเอียดเป็นทีม “จัมปาศรี ยูไนเต็ด” เตะที่จ.มหาสารคาม เหลือเพียงขั้นตอนแค่ “ทีแอล” ไปตรวจสนามเท่านั้นว่าจะผ่านมาตรฐานหรือไม่

นี่คือข้อมูลเบื้องต้นของการเปลี่ยนแปลงจาก ซุปเปอร์พาวเวอร์ ไปเป็น จัมปาศรี ยูไนเต็ด ส่วน “คลับ ไลเซนส์” จะผ่านหรือไม่คงต้องลุ้นกันต่อไป รวมถึงประเด็นที่ว่าจะ “ไปรอด” หรือไม่นั้นคงเป็นอะไรที่ต้องลุ้นกันหนักหน่อย

คำถามที่น่าสนใจคือหลังจาก ซุปเปอร์พาวเวอร์ฯ ขายทีมให้ จัมปาศรี ยูไนเต็ด แล้วจะมีสโมสรไหนที่ทำต่อไม่ไหวแล้วต้องขายทีมหรือยุบสโมสรอีกหรือเปล่า ถึงตรงนี้ข่าวลือเยอะเหลือเกิน หลายทีมมีข่าวว่าไม่ไหวและเริ่มประกาศขายทีมกันแล้ว

ประเด็นนี้น่าสนใจไม่น้อยครับ คำว่าฟุตบอลไทย “ฟองสบู่แตก” ก็เรื่องหนึ่ง เรื่องความเหมาะสมของการขายทีมนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะ “รากเหง้า” ฟุตบอลไทยไม่ใช่เอกชนทั้งหมด แต่หลายทีมมาจาก “สมาคมกีฬาจังหวัด”

ผมสนใจประเด็นตรงนี้เพราะหากเป็นทีมของเอกชน ทำทีมเอง เสียเงินเอง สร้างทีมมาเองตั้งแต่การเป็น สมาชิกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หากทำไม่ไหว เจ๊ง จะขายทีมก็ทำไป ถือว่าเป็นการทำธุรกิจที่ไปไม่รอด ขายทีม เซ้งต่อ ถือเป็นเรื่องปกติ

แต่ทีมที่มาจากฝั่งของ “โปรลีก” ที่รากเหง้าเป็น สมาคมกีฬาจังหวัด เข้ามา “รวมลีก” กับ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ตรงนี้ควรต้องกำหนดบางอย่างให้ชัดเจน แน่นอนละว่าทำไม่ไหวอย่าฝืน แต่สิ่งสำคัญคือ “ห้ามย้ายถิ่นฐานเด็ดขาด”

ต้องเข้าใจครับว่าฟุตบอลไทยไม่ได้มีรากฐานที่มาเหมือนต่างประเทศ ทีมสโมสรที่เตะกันอยู่ทุกวันนี้มาจาก 2 ขา ขาหนึ่งเป็น สโมสรสมาชิก สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ทำทีมส่งแข่งมานานแล้วตั้งแต่ถ้วยพระราชทานและไทยลีก

ส่วนอีกขาหนึ่งมาจากทีมจังหวัดที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ สมาคมกีฬาจังหวัด ส่งเข้าร่วมแข่งขันใน “โปรลีก” กระทั่งมีการ “รวมลีก” กันระหว่าง ไทยลีก กับ โปรลีก ทีมของสโมสรและจังหวัดจึงมาเล่นในลีกเดียวกันและกลายเป็นความ “บูม” ของฟุตบอลไทยในที่สุด

แต่ก็นั้นละครับฟุตบอลไทยเราโตแบบกลวงๆ วันนี้หลายทีมเริ่มไปไม่ไหว ทีมจังหวัดหลายทีมทำท่าจะไม่รอด แล้วจะทำอย่างไรละทีนี้ บางทีมเลิกส่งแข่งก็จบไป แต่บางทีมที่หากลุ่มทุนมาทำทีมหรือขายทีมนี่สิน่าคิด

น่าคิดเพราะคิดว่าการที่รากเหง้าของสโมสรที่มาจาก สมาคมกีฬาจังหวัด มันหมายถึงทีมเป็นสมบัติของคนในจังหวัดนั้นใช่หรือไม่ โอเคละอาจจะขายทีมได้ เหมือนกับว่าบริษัทนี่เข้ามาทำแล้วไม่ไหวก็ต้องปล่อยสัมปทานให้บริษัทอื่นมาทำแทน

แต่การย้ายสนามแข่งหรือถิ่นฐานไม่ควรเกิดขึ้นกับทีมสโมสรที่มาจากการเป็น สมาคมกีฬาจังหวัด อันนี้ดูแล้วไม่เหมาะสมและไม่เข้าท่า เหตุผลมันอยู่ในตัวอยู่แล้วครับ นี่คือสมบัติและมรดกของจังหวัดนั้นๆ ไม่ใช่สิ่งที่ควรโยกย้ายออกจากถิ่นฐานเดิม

ที่ผ่านมาวงการฟุตบอลไทยไม่มีกฎระเบียบที่เป็นมาตรการชัดเจนที่จะห้าม การย้ายถิ่นฐานของทีมจังหวัดจึงเกิดขึ้นให้เห็น และปัญหาที่ตามมาคู่กันอีกอย่างคือ “สิทธิ์ทำทีม” ที่เถียงกันไม่จบว่าตกลงแล้วใครเป็นเจ้าของสิทธิ์กันแน่

ไหนๆวันที่ 22 ธ.ค.นี้จะมีการประชุมวิสามัญ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯเพื่อ “ปล่อยผี” ให้สโมสรที่ยังไม่ได้เป็น สมาชิก สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แบบถูกต้อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทีมที่มาจาก “โปรลีก” นั้นละได้มีการรับรองให้เป็นสมาชิกที่ถูกต้องแล้วก็จัดการสังคายนาใหญ่ไปเลยครับ

คุยกันให้เคลียร์ถึงกฎระเบียบการซื้อ-ขายทีมให้ถูกต้อง ข้อกำหนดต่างๆต้องชัด รวมถึง “สิทธิ์ทำทีม” เอาให้จบแบบเด็ดขาดเพราะอีก 2 ปีข้างหน้าจะมีการเลือกตั้ง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กันอีกแล้ว เคลีย์กันล่วงหน้าเลยจะได้แฟร์ๆ

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยุคนี้คิดใหม่ทำใหม่ไปแล้วหลายๆเรื่อง แต่เรื่องสำคัญของคำว่า “สโมสรสมาชิก” ต้องจัดระเบียบให้เรียบร้อยด้วย เพราะนี่คือรากฐานสำคัญที่จะต่อยอดไปอีกหลายๆเรื่องครับ

บับเบิ้ล
เข้าร่วม: 01 Jan 2009
ตอบ: 573
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Nov 03, 2017 3:08 pm
จัดระเบียบสโมสรบอลไทย !!!
เหมือนเรื่องทีมประจำจังหวัดจะเคลียร์ไปแล้วนะครับว่าขายสิทธิ์ย้ายถิ่นฐานไม่ได้
0
0
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 9969
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Fri Nov 03, 2017 10:27 pm
[RE: จัดระเบียบสโมสรบอลไทย !!!]
ทีมปราสาททอง
0
0