Uluru เป็นภูเขาสีแดงลึกลับ ในออสเตรเลีย
ที่เชื่อกันว่า เป็นสถานที่สำคัญของวิญญาณ
ตามตำนานอ้างว่า ภูเขานี้เป็นที่อยู่ของคนตาย
ในเผ่าอะบอริจิน แม้ว่าจะมีคำเตือนจากชาวบ้าน
แต่นักท่องเที่ยวก็มักจะเก็บหินก้อนเล็กๆ
ไปเป็นของที่ระลึก ว่ากันว่า ใครก็ตาม ที่ไปที่แห่งนี้
แล้วหยิบนำเอา ก้อนหินสีส้มๆ นี้ออกไปด้วย



จะต้องมีอันเป็นไป และพบแต่ความโชคร้าย
บางรายถึงขั้น เกิดหายนะถึงแกชีวิต ก็ยังเคยมี
อาจจะมองว่า เป็นเรื่องเหลวไหล งมงาย
แต่ก็แปลกนะครับ ที่ ในแต่ละเดือน แต่ละปี
จะมีกล่อง ไปรษณีย์ส่งกลับมายัง ออสเตรเลีย
หลายสิบกล่อง ภายในมีหินสีส้ม น้ำหนักส่วนใหญ่
9 กิโลกรัม ไปจนถึง 32 กิโลกรัม
โดยส่วนใหญ่จะระบุว่า ....
ช่วยนำก้อนหินเหล่านี้ กลับไปไว้ในที่ๆ
มันควรจะอยู่ด้วย และ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง
การส่งกลับมาคืนก็เพื่อแก้คำสาปที่ตัวเอง ได้ท้าทายไว้.





ที่มันดู ลึกลับ นั่นอาจเพราะ ตำนานของมันด้วยครับ
ตำนานของชาวอะบอริจินี กล่าวไว้ว่า
โขดหินอุรูลู เป็นภูมิประเทศเส้นทางแห่งความฝัน
บรรพบุรุษ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยจูคูร์ปา (ยุคแห่งช่วงฝัน)
ซึ่งเป็นพื้นพิภพกำลังก่อตัว ในยุคนั้น
บริเวณแถบโขดหินอุลูรู เป็นถิ่นของมนุษย์
ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้ และมนุษย์งูคาร์เป็ต



ครั้งหนึ่ง มนุษย์งูคาร์เป็ต ถูก มนุษย์งูพิษรุกราน
ซึ่งพวกมนุษย์งูพิษ เป็นศัตรูจากแดนใต้
และพวกมนุษย์ ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้
ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือมนุษย์งูคาร์เป็ต
ก่อนที่สุดท้าย มนุษย์ครึ่งงูพิษ
จะถูกลมพิษ เป่าจนถึงแกความตาย
วิญญาณถูกสาป ให้เฝ้าพื้นที่แห่งนี้ ไม่ได้ผุดได้เกิด




นอกจากนี้ยังมี ตำนานที่เล่ากันอีกว่า
มนุษย์ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้ นี้ได้ถูกศัตรูรุกราน
โดยการปล่อยหมาป่าดิงโก้ ออกมากัด
แต่โชคดี ที่มนุษย์ครึ่งกระต่ายหลบหนีได้
เพราะสามารถกระโดดได้ไกลกว่า และปัจจุบันนี้
ชาวอะบอริจินี เชื่อว่าร่างของมนุษย์ครึ่งงูพิษ
ถูกสาปให้กลายเป็นโขดหินอุลูรู
และรอยน้ำไหลที่ด้านหนึ่งของหินเป็นรอยเลือด
ส่วนรอยเท้ามนุษย์ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้นั้น
ที่ทิ้งไว้ขณะวิ่งหนีศัตรู ได้กลายเป็นช่องรูทั้งหลาย
ที่อยู่ ณ ใต้ฐานโขดหิน นั่นเองครับ.
...

ตำนานและความเชื่อ​มีอยู่ทุกที่