หลายวันก่อนแม่ผมบอกให้ไปทำบุญกับขอทานหรือคนพิการอ่ะครับ แล้วจะมีลูกค้าเยอะขึ้นพอดีแม่ผมไปดูดวงมา
แล้วผมบอกแม่ว่าจะไปทำให้วันนี้ครับ พอดีเมื่อช่วงเย็นผมทักไปหาแม่ว่าจะบอกว่าผมไม่เห็นเลยไม่ได้ทำแต่แม่ผมพึ่งมาตอบว่า
เพราะลูกไปทำบุญให้วันนี้เลยยุ่งลูกค้าเต็มร้านเลย ผมควรจะบอกแม่ไหมครับว่ายังไม่ได้ทำ

ท่านมาถาม แสดงว่าท่านอยากบอก ฉะนั้นบอกเลย

ท่านมาถาม แสดงว่าท่านอยากบอก ฉะนั้นบอกประจวบ

ไม่ต้องทำอะไรครับ เออออห่อหมกตามๆเค้าไป
ทำทานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันครับไว้วันหลังก็ได้ ผมว่าแม่ท่านคิดดีนะ
สร้างแรงใจ และความเชื่อมั่นที่เรียกว่าศรัทธาได้ด้วย


แต่ถ้าให้ไปบนศาลเจ้า ขอนู่นนี่กับต้นไม้ ศาลพระภูมิ อันนี้ ก็เหมือนกันไม่ต้องทำแล้วบอกว่าทำมันก็ได้

ผมก็คิดว่าจะทำวันหลังอ่ะครับ แต่คือแม่ผมเข้าใจไปแล้วเลยไม่รู้ว่าจะบอกดีไหม

บอกไปว่าตังทำบุญเอาไปซื้อเกมในสตีมแล้ว

ก็สละเวลาไปทำสิครับ
เรื่องแค่นี้เอง ทำให้ท่านแม่สบายใจไม่ได้รึไง

อะไรที่แม่มีความสุข รีบทำให้ไปเถอะครับ

ลองมองในมุมที่โตขึ้น จะรู้ว่าอะไรเป็นความสุขของครอบครัว

ก็เฉยๆไว้ฮะ ทำก็ดี ไม่ทำก็ได้ ไม่มีใครรู้

รู้ที่สุดคือตัวเรา แต่ถ้าเราไม่สบายใจก็ไปทำ จะได้หมดห่วง

ทำทานไว้เพื่อปลดทุกข์แบบที่กำลังเป็นอยู่เนี่ยแหละครับ


ไม่ต่างอะไรจากเรื่องเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลเลย ใช้ชีวิตแบบเดิมๆจะเปลี่ยน100ชื่อก็ไม่มีผล แต่ถ้ามันเป็นความสบายใจของคนรอบข้าง หรือแม้แต่ตัวเรา เปลี่ยนก็ได้ ไม่เป็นอะไร

หลายๆอย่างที่น่าจะดูงมงาย แต่ถ้าทำแล้วคนรอบข้าง คนที่เรารักและตัวเราเองไม่เป็นทุกข์ ก็ทำฮะ

แต่ถ้าอย่างเกินกว่าเหตุ ต้องย้ายบ้าน กาลากิณีเกาะติด อันนั้นอะเราทุกก็ไม่ต้องทำ


ผมโดนมาเยอะ แม่ผม ไร้สาระตามประสาคนแก่อย่างบ่อย เชื่อเรื่องผีสางมาตลอด
พอสอนเล่นแท็บเล็ตเท่านั้นแหละ

ทุกวันนี้ เข้าวัดยังไม่อยากจะเข้า 5555

ประเด็นของ จขกท. คือแม่เขาคิดว่าจขกท.ไปทำมาแล้วครับ แต่ความจริงจขกท.เขายังไม่ได้ไปทำ เขาเลยคิดว่าจะบอกแม่ยังไงดีงี้มากกว่านะ

ถ้าเอาให้แม่สบายใจว่าก็พูดโกหกแม่ไปให้ท่านสบายใจก็ได้ แต่ถ้าทำแล้วไม่สบายใจก็ค่อยไปทำบุญทีหลังเอา

ถ้ายังไม่ถามมากก็ไม่ต้องบอก แล้วค่อยหาเวลาไปทำบุญทีหลัง

บางทีการโกหก ถ้ามีเจตนาที่ดี
ผมว่าก็ไม่ต้องคิดเรื่องบาปอะไรหรอกครับ

เหมือนกฏหมายไทยแหล่ะ
อยู่ที่วิจารณญาณของเจ้าหน้าที่


เรื่องเล่าบางเรื่องในศาสนา
ยังมีการหลอกเพื่อช่วยคนบางคนเลย


ท่านเห็นไอ้นั่นมั้ย
.... ตั้งแต่ท่านมา เรายังไม่เห็นใครเลย


ใช่สิ ก็ท่านที่ว่า มาทีหลังคนที่มันหนีไปแล้วไง

ก็เฉยๆถ้าท่านไม่ถามอีก แล้วรีบไปทำ

ทำไงก็ได้ให้แม่เราสบายใจครับ เวลาท่านกังวล มันจะกระทบกับงานเราไปด้วยครับ

บอกท่านตามตรงครับ
บอกไปว่ายังไม่ได้ทำ เพราะไม่ได้เจอ เราไม่ได้หนีหรือหลีกเลี่ยง
เพราะเจตนาบริสุทธิ์ของเราที่จะทำเมื่อพร้อม ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ท่านรู้สึกดีกว่าการพูดหลอกให้ท่านดีใจ

สำหรับผมมันก้ำกึ่งมาก ๆ เพราะแม่คุณเชื่อว่าคุณไปทำบุญแล้วการค้าขายจึงดี (โดยที่คุณยังไม่ได้ทำ)

- ถ้าคุณตามน้ำไปแม่คุณก็จะสบายใจมากในขณะเดียวกันก็เป็นการปลูกฝังศรัทธาแบบผิด ๆ ไปด้วย

- ถ้าคุณพูดความจริงคุณทำถูกต้องเลยที่ไม่โกหก แม่คุณก็จะหงุดหงิดนิด ๆ และศรัทธาในการทำบุญก็จะเริ่มสั่นคลอน

ถ้าผมต้องเลือกจริง ๆ ผมเลือกข้อหลังครับ แม้ว่าในระยะสั้นจะทำให้แม่ไม่สบายใจไปบ้างแต่ในระยะยาวเค้าจะไม่งมงายหลุดไปกับศรัทธาที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเค้าครับ

เพราะศรัทธาแบบนี้คือหนึ่งในเครื่องมือที่ห่มเหลืองหลายจำพวกใช้เพื่อลาภยศ เป็นศรัทธาที่ควรถูกทำลายครับ

ปล. ผมเชื่อในผลการกระทำนะแต่ไม่เชื่อในการทำบุญแบบไม่ลืมหูลืมตาครับ

สำหรับผม "บอกครับ" บอกชัดเจนด้วยว่า ที่ขายดี ไม่ใช่เพราะทำบุญ

คีย์เวิร์ดอยู่ที่ "พอดีแม่ไปดูดวงมา" ซึ่งถ้าคุณแม่ของท่านเชื่อว่า เพราะทำบุญจึงทำให้ลูกค้าเยอะ ก็จะเชื่อต่อไปว่า คนที่ดูดวงให้คุณแม่ของท่าน ดูดวงแม่น ซึ่งจริงๆแล้วไร้สาระมากและมั่วสนิท

ทำบุญให้คุณแม่สบายใจ ทำได้ครับ แต่ทำบุญให้คุณแม่เชื่อว่าดูดวงแม่น เป็นผม ผมไม่ทำ

ปล.สมัยโบราณนานมา แม่ผมก็ดูดวงแบบนี้ล่ะ จากการเข้าทรงดว้ย ว่าผมจะไม่โดนเกณฑ์ทหารถ้าไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิง แม่ผมก็เชื่อสนิทใจ ปรากฎว่า "ทบ.1" แม่เลยกลับไปถาม ได้คำตอบแบบน่าภูมิใจมาก ตอบหน้าตาเฉยว่า "หลังจากดูดวงไป แม่เจอหน้าผมหรือคุยกับผมหรือเปล่าล่ะ ก็นั่นแหละ เพราะแม่เป็นผู้หญิงและมาคุยกับผม ผมเลยโดนเกณฑ์ทหาร"
กับอีกคนนึง อันนี้เป็นญาติห่างๆด้วย เข้าทรงเหมือนกัน บอกว่าหลังจากเกณฑ์ทหาร เขาคุ้มครองให้ผมได้ทำงานใน บก.ร้อย (ตรูก็เพิ่งรู้ ว่าเพราะสิ่งเหนือธรรมชาติ ไม่ใช่เพราะทั้งกองร้อยมีตรูใช้คอมพิวเตอร์เป็นคนเดียว -_-") หลังจากนั้นบอกว่า สมัครต่อสิ จะรุ่งเรืองในชีวิตทหาร...ปัจจุบัน ผมเป็นพนักงานบริษัทเอกชน

ตอบยาก แล้วแต่นิสัยแต่ละคน ส่วนตัวผมไม่เชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมจะบอกไปตรงๆว่าไม่ได้ทำครับ
แต่ถ้าแม่บอกให้เราไปทำ เราก็ไป เพื่อให้ท่านสบายใจในครั้งต่อไป

มีอะไรก็พูดไปตรงๆ สบายใจกว่า

ขายอะไรอ่ะครับ บางทีกิริยาท่าทางและอารมณ์ของแม่ค้าก็สำคัญนะ

ถ้าแม่ค้ายิ้มแย้ม อารมณ์ดี ก็ทำให้อยากกลับไปซื้ออีก แม่ท่านอาจจะคิดว่าท่านทำแล้วก็เลยอารมณ์ดี เป็นผลทำให้ค้าขายดีขึ้นก็ได้

ผมเจอบางร้านหน้าบูดอย่างกับตูด แถมพูดจาไม่ค่อยดีอีก ซื้อครั้งเดียวก็พอละ

ส่วนเรื่องทำบุญก็ทำเฉพาะคนพิการดีกว่าครับ ขอทานมิจฉาชีพมันเยอะ

ทำครั้งละน้อย ๆ ไม่ต้องมากก็ได้ ถือว่าทำเพื่อความสบายใจ