[RE: ไปสิงคโปร์ มีอะไรมั้งที่ไม่ควรพลาดแนะนำหน่อยคับ]
สวัสดีครับ
ผมอยากจะแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน ซึ่งนอกจากความสนุกใน Universal Studios แล้วก็ยังมีสถานที่ต่างๆที่เหมาะแก่การผ่อนคลายอย่างเช่น ย่าน Marina Bay ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี และก็ยังมีสถานที่อื่นๆที่น่าสนใจให้เราไปเยี่ยมเยียนอีกด้วยครับ
ผมมักจะได้ยินคนรอบข้างบอกว่าสิงคโปร์ไม่มีอะไรให้เที่ยว เป็นประเทศที่น่าเบื่อ โดยเฉพาะอย่างผมที่ชอบเที่ยวตะลุยขึ้นเขา เดินป่า หรือล่องเรือแล้ว "อย่าไปเลย!" แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุครับ ผมก็เลยจัด Jetstar ไป-กลับทันที จากนั้นก็วางแผนหาที่เที่ยวโดยเริ่มจากเปิด Lonely Planet แล้วก็จองโรงแรม ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากและจบเร็วมาก (ระยะเวลาในการทำทริป) เพราะจริงอย่างว่าที่จำนวนสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมชอบมีไม่เยอะ แต่ข้อดีก็คือที่เที่ยวน้อยแต่เที่ยวได้เต็มอิ่มครับ สุดท้ายก็ขอให้กระทู้นี้ตอบคำถามด้วยตัวมันเองว่าทำไมผมต้องไป Singapore!
แพ็คกระเป๋า แลกดอลล่า ออกเดินทาง!
Day 1
EP 1: Superb Transportation
จากสนามบินสุวรรณภูมิ เรา 2 คนถึงสถามบิน Changi Airport เวลาบ่ายโมงตรงพอดี บรรยากาศของสนามบินที่นี่ไม่ค่อยต่างกับสนามบินดอนเมืองบ้านเราสักเท่าไหร่ เว้นเสียแต่ว่าใหญ่กว่าและทันสมัยกว่าเท่านั้นเอง แต่สิ่งที่ผมกำลังมองหาเป็นอันดับแรกก็คือ Sim Card ของ Singtel โดยที่เราสามารถใช้ Internet ได้ 4GB แถม Facebook, WhatsApp, LINE และ WeChat ก็ยังใช้ได้ไม่จำกัด ยังไม่หมดเท่านั้น ยังให้เราโทรภายในสิงคโปร์ได้ถึง 500 นาทีและส่ง SMS ได้ 100 ครั้ง แถมโทรออกต่างประเทศได้ 100 นาทีอีกด้วย คุ้มกว่าโปรบ้านเราอี้ก! ซึ่งเราสามารถหาซื้อได้โดยสะดวกจากร้านแลกเปลี่ยนสกุลเงินภายในตัวสนามบิน ลืมบอกไปว่าที่ผมบรรยายสรรพคุณมานี้เป็นโปรโมชั่นสำหรับการท่องเที่ยวแค่ 5 วันเท่านั้น โดยราคาอยู่ที่ $15 (370 บาท)
หลังจากได้ Sim Card มาแล้ว ผมก็ขึ้น Sky Train ไปยัง Terminal 3 เพื่อนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมือง ซึ่งรถไฟที่นี่คล้ายกับ MRT บ้านเราครับ จะต่างกันก็ตรงที่เค้าจะไม่ใช้เหรียญโดยสารแต่จะใช้บัตรกระดาษแทนถ้าเราซื้อเป็นเที่ยวต่อเที่ยว แต่ผมไม่อยากเสียเวลาก็เลยซื้อบัตรแบบเติมเงิน EZ-link (คล้ายบ้านเราอีกนั่นแหละ) อย่างพวกตั๋ว One-day, Two-day, และ Three-day pass ผมมองว่าไม่คุ้ม เพราะเราไม่ได้ใช้ต่อวันเยอะขนาดนั้นครับ เอาแค่ไป Marina Bay ไปกลับรอบเดียวก็หมดวันแล้วครับ แต่ EZ-link จะมีมาให้แค่ $7 และถ้าเราจะเติมต้องเติมขึ้นต่ำ $10 เพราะงั้นวันสุดท้ายถ้าเงินหมดก็ให้ซื้อเที่ยวต่อเที่ยวเอาครับ
จากรถไฟฟ้าต่อด้วยรถเมล์จนถึงสถานีที่ใกล้ที่สุดแล้วลงเดินครับ สะดวกน้อยหน่อยแต่เทียบกับราคาโรงแรมที่ไกลออกมาหน่อยถือว่ารับได้เลยทีเดียว ในระหว่างเดินเท้าผมก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวฝีมือคนจีน-สิงคโปร์สักหน่อย ปรากฏว่าไม่ถูกปากผมสักเท่าไหร่ แต่ก็พยายามกินจนหมดครับ (ชามละ 100 บาท แง) จนแล้วจนรอดก็เดินถึงโรงแรมสักที
การเดินทางที่นี่ค่อนข้างสะดวกทีเดียวครับ ที่เห็นได้ชัดและประทับใจก็คือรถเมล์ โดยที่นี่รถเมล์จะมีระบบที่คล้ายกันกับที่ญี่ปุ่น คือใช้บัตรตัวเดียวกันกับที่ใช้นั่งรถไฟฟ้าเพื่อแสกนเข้าออกรถ ใครไม่มีก็จ่ายเงินสดได้ เวลารถมาถึงป้ายแล้วคนขับจะจอดในตัวชานชาลาเท่านั้นครับ เค้าเปิดและปิดประตูไวมากแทบไม่มีการรอผู้โดยสารเลย และที่เค้าทำได้แบบนี้ก็เพราะมีการจัดสรรค์ปริมาณรถตลอดเวลา บางสายก็มาทุก 5 นาที บางสายก็ 15 นาที (เคยรอนานสุดครึ่งชั่วโมง แหม่!) บนรถเมล์เราจะไม่ค่อยได้นั่งหรอกครับ เพราะเค้าจะให้ความสำคัญกับ คนพิการ คนแก่ คนท้อง หรือเด็ก หมายความว่าให้คนเหล่านี้ได้นั่งก่อน และด้วยหลายปัจจัยประกอบกันแล้วผมคิดว่ารถเมล์ที่นี่น่านั่งมาก สะอาด สะดวกและรวดเร็ว ถือว่าไม่ต่างกับรถไฟฟ้า
EP 2: Symbol of Singapore
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียนาฬิกา เอ้ย! เสียเวลา หลังจากเก็บสัมภาระที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางไปยังย่าน Marina Bay ด้วยรถเมล์ โดยตั้งใจไว้ว่าจะไปกินลมชมวิวบริเวณ Marina Barrage ตบท้ายด้วยชมบรรยากาศ Gardens by the Bay
เพียงอึดใจเดียวผมก็มาถึงสถานี Marina Bay Sands Hotel แล้ว โดยสถานีนี้จะตั้งอยู่บริเวณหน้าตัวโรงแรม Marina Bay Sands (ชื่อเดียวกับสถานีรถเมล์) หรืออีกชื่อก็คือ Jin Shan Lou ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก แถมยังมี Pool อยู่ชั้นดาดฟ้าให้บรรดาแขก VIP ขึ้นไปเล่น และชมวิวของ Marina Bay ได้แบบ 360 องศากันเลย ... แต่เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน (แฮะๆ) อย่างไรก็ตามระหว่างทางเราต้องขึ้นลิฟต์ไปชั้น 6 ของโรงแรม เพื่อเดินข้ามสะพานลอยทะลุไปยัง Gardens by the Bay ต้องบอกว่าบรรยากาศสวยงามที่หรูหราตลอดเส้นทางแบบที่ไม่ต้องเสียเงินสักบาท
Gardens by the Bay นั้นเป็นเป้าหมายหลักของวันนี้ก็ว่าได้ เพราะการมีชื่อเสียงเรียงนามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเร็วด้วยการจัดสวนอย่างมีระบบระเบียบ สวยงาม และโดดเด่นด้วยเจ้าเสาต้นไม้ยักษ์ใหญ่แบบเข้ากันได้อย่างดี ถึงเวลาแล้วที่ต้องเดินเล่นให้หนำใจ
ผมเดินไปเรื่อยๆ กินลม ชมวิว ผ่านไปทางเดินติดทะเล จนถึงแถวๆจุดชมวิวที่มองเห็น Marina Barrage ซึ่งเป็นเขื่อนที่สวยงามดูทันสมัย นอกจากนั้นวิวบนนี้ก็ยังมองเห็นโรงแรม Marina Bay Sands ได้ชัดแจ๋วแว๋ว หรือแม้แต่เจ้าชิงช้าสวรรค์ Singapore Flyer ก็ยังอยู่ในวิสัย บนนี้เหมาะแก่ปิกนิค วิ่งออกกำลังกาย และถ่ายรูป โดยปกติแล้วเราจะเห็นคนที่นี่เล่นว่าว (Kite Flying) ให้ดู (ลมแรง) ผมเองก็นั่งโยนรองเท้าเล่นตามอัธยาศัยเพราะไม่รู้ว่าต้องซื้อว่าวที่ไหน โดยส่วนตัวเล่นว่าวครั้งล่าสุดก็สมัยประถมต้น
เดินลงมาข้างล่างก็ยังมองเห็นโรงแรม Marina Bay Sands ตั้งครึ่งลำส์ เห็นว่าสูงถึง 636 ฟุต แหนะ
ผมเดินต่อไปเพื่อหาของกินแถว Satay by the Bay ซึ่งจะว่าไปมันก็เหมือนศูนย์อาหารที่ขายสเต๊ะเป็นหลักซึ่งมีให้เราเลือกสรรค์หลากหลายมากทั้ง ไก่ หมู เนื้อ ปลา แกะ (ทั้งหมดนี้เอามาทำสเต๊ะได้หมด) จ่ายไป $7 ได้มาลอง 10 ไม้ ซึ่งที่พอถูกปากผมก็จะมีแค่หมูสเต๊ะเท่านั้น ผมสังเกตุรอบๆ ดูเหมือนว่าหลายๆคนจะชอบดื่มน้ำอ้อย (Sugar Crane) ซึ่งขายดีมาก เพียงแก้วละ $3 เท่านั้น ผมนี้รีบต่อคิวเลยครับ ... ปรากฏว่ารถชาติแย่กว่าบ้านเราอีกครับ
พูดถึงน้ำอ้อยแล้ว ต้องไปลองที่ประเทศลาวเท่านั้นครับโดยเฉพาะวังเวียง โดยเราสามารถหาทานได้ทั่วไปตามริมทางเดินถนน ผมให้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศลาวเลยแล้วกัน เพราะกินน้ำอ้อยทีไรก็นึกถึงแต่น้ำอ้อยจากลาว แต่สำหรับสิงคโปร์แล้ว สัญลักษณ์ของประเทศนี้ก็คงไม่พ้นโรงแรม Marina Bay Sands ที่ตั้งตระหง่านมองจากทางไหนก็เห็น ไม่ใช่สิงโตหรอกคร้าบ! ถ้าไปดูรูปถ่ายสวยๆตาม Internet ที่เกี่ยวกับสิงคโปร์ก็จะเห็นโรงแรมติดอยู่ในภาพอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ แม้แต่ไปยืนอยู่แถว Merlion ก็สามารถมองเห็นโรงแรมได้โดยง่าย (Package บน Sim Card ของผมก็ไม่เว้น)
EP 3: The Gardens at Night
ตกดึกผมก็จะย้อนกลับไป Gardens by the Bay เพื่อชมการแสดงแสงสีเสียงรอบ 3 ทุ่ม โดยระหว่างทางก็จะมีวิวน่ารักๆแบบสะท้อนน้ำสะเทือนใจให้มองดูอย่างเพลิดเพลิน
ก่อน 3 ทุ่มผมก็พยายามมองหามุมต่างๆเพื่อถ่ายภาพ ซึ่งบริเวณนี้คนเยอะมากครับ ทุกคนก็จะพยายามจับจองที่ของตัวเองแล้วนอนราบลงไปกับที่นั่ง แม้แต่บนพื้นก็ไม่เว้น เพื่อมองการแสดงบางอย่างของเหล่าต้นไม้ยักษ์ทั้งหลาย
จบการแสดงรอบสุดท้ายของ Gardens by the Bay แล้วก็รู้สึกว่ายิ่งใหญ่และน่ารักในเวลาเดียวกัน การเล่นแสงสีให้เข้าจังหวะกับเพลง การสื่ออารมณ์ของต้นไม้ยักษ์แต่ละต้นออกมาน่าประทับใจมากครับ ในค่ำคืนนี้เชื่อว่าหลายๆคนคงกลับบ้านอย่างมีความสุข
EP 3.1: Price Tag
ผมเดินออกจาก Gardens by the Bay แล้วเดินลงถนน Bayfront Ave เพื่อกลับโรงแรมด้วย MRT สถานี Bayfront
พอลงสถานีปลายทางก็ต้องต่อรถเมล์กลับบ้านอีกเที่ยวนึงซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกลำบากยากเย็นอะไร โดยก่อนถึงโรงแรมก็แวะซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อหาของกินก่อนนอน และก็ไม่ลืมที่จะมองหาขนมปัง ชีส แฮม เผื่อกินพรุ่งนี้เช้าก่อนตะลุยเที่ยว
ผมชอบซุปเปอร์มาเก็ตที่นี่ตรงป้ายราคา (Price Tag) ซึ่งจะเป็นแบบ Digital หมด เวลาจะปรับเปลี่ยนราคาก็ไม่ต้องเมื่อยปริ้นท์มาแปะใหม่ แทนที่จะจ้างพนักงานมาปรับป้ายราคา
ถึงตรงนี้ผมก็ขอขอบคุณนะครับที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้นี้ ติชมอย่างไรผมยินดีครับ เพื่อจะได้ปรับปรุงในกระทู้ต่อๆไปครับผม
:)
ติดตามกระทู้ของ Why Singapore?!: ทำไมต้องสิงคโปร์ | DAY 2『The Variety Day』 ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ
https://pantip.com/topic/36652821
ติดตามกระทู้ของ Why Singapore?!: ทำไมต้องสิงคโปร์ | DAY 3『Universal Studios』ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ
https://pantip.com/topic/36656127