เจอเหตุการณ์ระหว่างกลับที่พัก
เมื่อสักสี่ทุ่ม ผมขับรถกลับหอ เจอมอไซด์ล้มอยู่ ผมเองก็ชะลอๆดู เห็นชายหญิงกำลังดึงรถขึ้นมา ทีแรกเข้าใจว่าที่ล้มเพราะถนนลื่น รถที่ตามหลังก็ชะลอๆด้วย เลยขับต่อ จนมาถึงสี่แยกบางขุนนนท์ ก็เจอชายกำลังยืนโวยวายข้างรถเก๋งสีขาวซึ่งตอนหลังมารู้ว่าเป็นคู่กรณี เพราะเขาโมโหที่รถเก๋งไปเบียดมอไซด์จนล้ม แล้วพยายามจะหนี (อันนี้ผมไม่เห็นตอนชนนะ เพราะเจอตอนที่รถมันล้มแล้ว ตามที่บอกข้างต้น) ผมเลยจอดรถฟัง เพราะอยู่เลนที่ผมจะเลี้ยวขวาด้วย
สักพักด้วยความอยากรู้ ก็ขับไปจอดข้างหน้าตรงที่กลับรถ แล้วก็ลงมาดู ชายมอไซด์ดูท่าเดือดดาลมากจริงๆ พยายามจะเอาเรื่องที่ผู้หญิง(น่าจะวัยกลางคน) มัวแต่เล่นมือถือ ซึ่งน้องผู้หญิง(แฟนสาว)ที่ซ้อนท้ายเขาเห็นมาอย่างนั้น จนไปเบียดมอไซด์ที่กลับรถและพยายามเบี่ยงหลบให้แล้ว ผู้ชายเขาบอกว่ารถเก๋งขับมาเร็วและเบรคกะทันหัน ส่วนรถเก๋งก็พยายามบอกว่าตอนนั้นไม่ได้เล่นมือถือแล้ว ฝ่ายมอไซด์ก็เลยจะให้ตำรวจจัดการ สักพักกู้ภัยก็มาทำแผลให้ และเอาผู้หญิงไปโรงบาล ส่วนตำรวจก็มาตอนท้าย แต่เนื่องจากเรื่องมันเกิดอีกท้องที่หนึ่ง (เส้นแบ่งเขตคือคลองบางกอกน้อย) ก็เลยให้ไปจอดข้างทางก่อน ส่วนผมก็ร่ำลาแล้วก็ขับกลับหอไป
จริงๆผมไม่อาจช่วยอะไรน้องผู้ชายได้เลย นอกจากบอกแค่ว่าเห็นมอไซด์ตอนล้มแค่นั้น (จุดที่มอไซด์ล้มดันไม่มีไฟส่องด้วย แต่อาจมีกล้องซึ่งหวังว่าน่าจะเป็นพยานสำคัญช่วยมอไซด์ได้) พอมาถึงไฟแดง ก็เจอเหตุการณ์นี้ต่อ (คืองงว่ามอไซด์ขับแซงผมตอนไหนไม่รู้ คิดว่ารถเพิ่งดึงขึ้นมาคงยังขับต่อไม่ไหว) ผมทำได้แค่รับฟังเท่านั้นจริงๆ ถ้ารถผมมีกล้องหน้า แล้วบันทึกเหตุการณ์นั้นได้พอดี ทุกอย่างคงจะได้บทสรุปเร็วกว่านี้
โชคดีที่น้องผู้หญิงไม่เป็นอะไรมาก เป็นแค่แผลจากโดนท่อรถ (ไม่รู้เจ็บส่วนอื่นด้วยไหม เห็นเอาขึ้นรถกู้ภัยไป) ส่วนน้องผู้ชายก็หวังว่าคงจะได้รับค่าเสียหายที่เป็นธรรมสมเหตุสมผลจากคู่กรณีซึ่งดูทรงแล้วเหมือนจะยังไม่ยอมรับผิด
สุดท้ายนี้อยากจะบอกพี่เพื่อนน้องทุกท่านว่า ขับรถกลางคืน ไม่ว่าจะถนนใหญ่หรือในเมือง ขับสัก 40 คือดีงาม ตามองทาง ยิ่งแถวไหนไม่มีไฟทางยิ่งต้องระวัง ทั้งคนทั้งรถทั้งสุนัข อย่าเล่นมือถือเลยจะดีที่สุด ถึงที่หมายดีแล้วจะเล่นให้จุกไม่หลับไม่นอนก็ยังได้
เพื่อความสบายใจของผู้อื่นและตัวท่านเอง
เลยมาแบ่งปันเรื่องที่เจอ ซึ่งน่าจะเป็นอุทาหรณ์ในการใช้ถนนได้เป็นอย่างดี ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ