เรื่องหลอนจากที่ทำงาน ตอนที่ 1
ก่อนอื่นผมขอโทษสิ่งที่มองไม่เห็นที่คุ้มครองที่ทำงานผมอยู่นะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าท่านมีจริงหรือไม่ แต่ผมไม่ได้คิดจะลบหลู่นะครับ สิ่งที่จะเล่า ผมจะเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ
มาเริ่มกันเลย
บริษัทของผมตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยครับ ชื่อถนนค่อนข้างจะขึ้นชื่อในเรื่องรถติด ลองโบก TAXI ให้มาแถวนี้สิครับ เรียกสิบผมว่ายังไม่มีคันไหนมาเลย
ตอนแรกที่ผมเข้ามาทำงานยังไม่ค่อยมีใครกล้าเล่าให้ผมฟัง คงเห็นว่าผมเป็นคนไอทีละมั้งครับ แต่หลังๆ มานี่พอสนิทกันเลยได้ฟังเรื่องราวเยอะขึ้น
ก็แทนที่มันจะเป็นเรื่องดี แต่มันทำผมหลอนน่ะสิครับ ยิ่งช่วงที่คนอื่นๆ เค้าหลับหมดแล้ว และผมดันต้องทำล่วงเวลานี่ เป็นอะไรที่ทำลายสมาธิของผมมาก
เรื่องแรกเป็นของน้องในแผนกนึงเล่าให้ฟังครับ น้องเค้ากับเพื่อนมักจะมาเช้า เนื่องจากหอพักอยู่ไกลจากที่ทำงานพอสมควร แต่ก็อย่างว่าแหละครับ คนที่มาเช้าหลายๆ คนก็ชอบงีบหลับ น้องคนนี้ก็เหมือนกันครับ แต่งีบไปได้ไม่นานก็รู้สึกเหมือนกับมีคนมาตบไหล่ทำให้ต้องสะดุ้งตื่น
ตอนแรกนึกว่าเพื่อนแกล้ง แต่เพื่อนไม่ได้อยู่ตรงนั้น เพื่อนอยู่อีกห้องนึง แต่มองเห็นกันได้ ที่แปลกก็คือ อาการแบบนี้จะเป็นตอนที่หลับในที่ทำงาน
น้องคนนี้ไม่ได้โดนคนเดียวนะครับ คนอื่นก็โดน จนมีคนมาบอกว่า เค้าเห็นคนใส่สไบสีเขียวเดินมาแล้วตบจากนั้นก็เดินทะลุกำแพงห้องหายไป
เรื่องราวของหญิงใส่สไบเขียวนี่ดังมากในแผนกนั้น คนไหนก็ตามที่หลับจะต้องโดนแบบนี้ทุกราย หลังๆ มานี่ไม่มีใครอยู่ในห้องช่วงพักอีกเลย เพราะกลัวตัวเองจะเผลอหลับ
เรื่องที่สองเป็นเรื่องของหัวหน้ากะคนนึงที่เลิกงานดึก แต่ด้วยกฏของบริษัทพนักงานทุกคนต้องไปสแกนนิ้วเลิกงานที่เครื่องทุกครั้ง ไม่งั้นต้องเขียนเอกสารยาวเหยียดเลย น้องคนนี้ก็เช่นกัน ตอนนั้นเป็นช่วงเกือบๆ เที่ยงคืน เครื่องสแกนนิ้วจะอยู่ถัดจากประตูทางเข้าแผนกไปไม่ไกล ตอนนั้นเค้าออกไปข้างนอกแล้วกลับเข้ามา เลยต้องเปิดประตูเข้าไปเพื่อสแกนนิ้ว ตอนนั้นน้องเค้าบอกว่าแค่สแกนนิ้วไม่ต้องเปิดไฟก็ได้มั้ง เลยฝ่าความมืดเข้าไป แต่ก็รู้ว่าเรื่องสแกนอยู่ตรงไหนโดยดูจากแสงไฟ ขณะที่เค้ากำลังจะยื่นนิ้วไปแตะที่เครื่อง ไฟทั้งแผนกก็ติดขึ้นมาโดยที่เค้ายังไม่ได้กดเปิดเลยด้วยซ้ำ เค้าบอกกับผมว่า เหงื่อนี่ผุดยังกะดอกเห็ด เค้าเลยพูดลอยๆ ไปว่า ไม่เป็นไรครับ ผมพอจะมองเห็นอยู่ จากนั้นก็โกยเลย หันกลับมามองอีกที ก็ไม่มีไฟดวงไหนเปิดเลยสักกะดวง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เค้าจะไม่พยายามกลับดึกหรือกลับมาสแกนนิ้วคนเดียวอีกเลย
เรื่องที่สามนี่เคยเล่าแล้วครับ แต่จะขอเล่าเผื่อใครที่ยังไม่เคยอ่าน
เรื่องมีอยู่ว่า เจ้านายของผมชอบมาทำงานเช้าครับ ชอบเดินขึ้นบันไดมากกว่าใช้ลิฟต์ วันนั้นก็เหมือนกัน แกเดินผ่านห้องนึงซึ่งเป็นห้องประตูกระจกมองเห็นด้านใน ในห้องนั้นแกเห็นผู้หญิงใส่เสื้อสีแดงอยู่ในห้อง ในใจแกคิดว่า ยังมีคนมาเช้ากว่าแกอีกเหรอ แต่เมื่อคิดไปคิดมา เฮ้ย เดี๋ยวนะ!!!.....ประตูห้องนั้นมันคล้องโซ่และล๊อคด้วยกุญแจไว้นี่นา แล้วผู้หญิงอยู่ในห้องนั้นได้ไง
จากนั้นเป็นต้นมา แกไม่เคยมาเช้าและไม่เดินขึ้นบันไดอีกเลย
เรื่องยังมีอีกนะครับ แต่ผมติดธุระ เดี๋ยววันหลังผมจะมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด รบกวนติติงได้นะครับ