เเมนยูได้เเต้มเดียว หรือ เสียสองเเต้ม จากแดงเดือด?
หลังจากจบศึกทีมชาติไป โปรเเกรมหนักที่รอคอยนัดต่อมาของยูไนเต็ด คือการที่เเมนยูต้องออกไปเยือนเเอนฟิลด์กับลิเวอร์พูล ซึ่งปกติไม่ใช่งานง่ายอยู่เเล้ว ยิ่งในสถานการณ์ที่ตัวหลักในทีมบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็น ปอกบา เเละสองรายล่าสุดจากทีมชาติอย่าง เฟลไลนี่เเละไบยี่ ความยากก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก ฉะนั้นการวางหมากในเกมส์นี้จึงสำคัญต่อมูริญโญ ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายว่า ถ้าตัวครบเเล้วจะไม่ได้เล่นเเบบนี้หรือเล่นดีกว่านี้ บางทีอาจจะเเย่กลับมาก็ได้ ไม่มีใครรู้ ในเมื่อเกมส์จบลงไปแล้ว เรามาดูกันว่าทั้งสองทีมวางหมากมาอย่างไร มีวิดีโอประกอบข้างล่าง
เริ่มที่ฝั่งเเมนยู มาในระบบ 4-2-3-1 โดยหลักก็ไม่เปลี่ยนอะไรมาก ที่น่าตกใจคือ ยังถูกจับไปเล่นปีกขวาเเทนมาต้า ซึ่งปกติฟดูกาลนี้ ยังจะต้องเล่นเเบคสะส่วนใหญ่
ส่วนทางฝั่งลิเวอร์พูลมาในระบบ 4-3-3 ใช้มิดฟิลด์ตัวกลาง สามคน มีเฮนเดอสัน ไวนัลดุม เเละชาน ส่วนสามตัวรุกข้างหน้า ก็เป็นคูตี้ ซาล่า เเละเฟอมิโน่ เนื่องจากมาเน่เจ็บจากทีมชาติ เข้าใจว่าถ้ามาเน่ไม่เจ็บการยืนอาจจะไม่ได้เป็นเเบบนี้
[fb-video]
https://www.facebook.com/NextManager/videos/1539273602819305/[/fb-video]
อันนี้เป็นวีดีโอที่วิจารณ์เเทคติคของทั้งสองทีม
โดยมีซับอังกฤษพร้อมภาพประกอบ ผมว่าน่าสนใจดี (ใครมีข้อน่าสนใจอะไร มาเเลกเปลี่ยนกันได้ในเม้น)
เริ่มมาก็เป็นFormationของทั้งสองทีม ที่ให้ไว้ในด้านบน เรามาเริ่มที่ยูไนเต็ด
ดูนาทีที่ 0.40 เเทคติคของยูไนเต็ด คือเมื่อยูไนเต็ดครอบครองบอล บอลจะขึ้นทางขวาสะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเล่นบอลยาว หรือผสมกับเล่นบอลเร็ว จะเน้นขึ้นทางขวา โดยในภาพ เมื่อเดเคอา เปิดบอลยาวขึ้นมาทางขวา เออเรร่ากับมาคิ จะคอยดักเล่นบอลสอง
ต่อมาเมื่อยูไนเต็ดพยายามที่จะสร้างเกมส์ขึ้นมา บ่อยครั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุหลักเพราะ มิดฟิลของทีมทั้งสามคน มาคิ มาติช เออเรร่า ยืนต่ำเกินไป ดูนาทีที่ 1.01 จะสังเกตได้ว่า ทั้งสามคนยืนต่ำมาก ไม่มีใครยืนในไลน์ระหว่างกองหลังกับกลางลิเวอร์พูลเพื่อเชื่อมเกมส์ขึ้นหน้าเลย โดยลิเวอร์พูลจะยืนเกมรับในระบบ 4-5-1 ด้วยการบีบพื้นที่โดยขยับมองหาเพื่อตัดบอลหรือทำลายในพื้นที่การส่งของคู่เเข่ง เมื่อคู่เเข่งไม่สามารถสร้างพื้นที่ในการส่งได้ ทีมลิเวอร์พูลจะขยับขึ้นหน้ากดดันไปเรื่อยๆ ดูนาทีที 1.21
เพราะฉะนั้น การครอบครองบอลเเมนยูสะส่วนมาก มันไร้ประโยชน์ เพราะไม่สามารถพาบอลขึ้นไปโจมตีในเเดนคู่เเข่งได้
เเละอย่างที่ได้บอกไปเกมส์นี้เเทคติคคือเล่นบอลยาวเป็นหลัก ยูไนเต็ดก็จะเล่นบอลยาวสะส่วนใหญ่ เเต่อย่าเข้าใจผิดว่า ทีมโยนยาวขึ้นหน้าไปเเเบบสะเปะสะปะ นั่นไม่ใช่ เเต่ทีมเล่นบอลยาวอย่างมีเเทคติค โดยเป้าหมายอยู่ที่ลูกากูเเละทางฝั่งขวาคือยัง หรือบางครั้งก็จะเน้นโยนไปทางริมเส้นด้านข้าง ดูตัวอย่างนาทีที่ 2.00 เดเตะบอลยาวขึ้นมาไม่ไกลนัก บริเวณนั้นเดไม่ได้เตะสะเปะสะปะขึ้นหน้า เเต่เพราะพื้นที่ตรงนั้นยูไนเต็ดได้เปรียบผู้เล่นที่จะเล่นสองต่อหนึ่ง หรือ นาทีที่ 2.21 เดมีเป้าหมายที่เล่นบอลยาวคือ ยังเเละลูกากู เเละ ตำแหน่งในทีมคนอื่นก็อยุ่ในตำแหน่งที่ดีเพื่อได้โอกาสเก็บบอลสอง
มาถึงส่วนสำคัญที่น่าสนใจของเกมนี้ หัวใจเกมรับของยูไรเต็ดเกมส์นี้ คล้ายกับ เกมส์รอบชิงที่เจออาเเจ๊กถ้าใครจำได้ นักเตะจะเล่นเเบบยืนตามโซน เเต่เมื่อผู้เล่นคู่เเข่งคนใดเข้ามาอยู่ในโซนตัวเองปุ๋บ จะถูกตามติดทันทีเเบบหนึ่งต่อหนึ่ง ไปไหนไปด้วย โดยที่นักเตะในทีมทุกคนจะต้องรับผิดชอบหน้าที่ที่จะต้องตามประกบเมื่อคู่เเข่งมาอยู่ในโซนของตนเอง ดูนาที่ที่ 3.04 มาติชเเละเออเรร่า จะพยายามจะตามประกบไวนัลดุมเเละชาน เพราะทั้งคู่เข้ามาอยู่ในโซนพิ้นที่ความรับผิดชอบ เเละมาคิก็จะไปประกบเฮนโด้ ลูกากูก็มีหน้าที่เเยกคู่เซ้นเตอร์ของลิเวอร์พูลออกจากกัน เพื่อยากเเก่การส่งบอลให้เเก่กัน
ต่อมานาทีที่ 3.25 จะเห็นได้ชัดว่า นักเตะยูไนเต็ดจะหมากนักเตะลิเวอร์พูลที่เข้ามาอยู่ในโซน นอกจากนั้น จะเห้นว่าเมื่อเออเรร่าขยับช่วยมาติชบีบพื้นที่ ยังที่เล่นปีกขวาก้ต้องขยับเข้ามาเล่นตรงกลางเพื่อทดเเทนตำแหน่งของเออเรร่าด้วยเเต่ก้ต้องไม่ไกลที่จะหลุดพิ้นที่ของตัวเอง
นาที่ที่ 3.47 เมื้อคูตี้อยู่ในโซนความรับผิดชอบของวาเลนเซีย วาเลนเซียก็ต้องขยับตขึ้นตามประกบด้วย เเม้จะต้องหลุดตำแหน่งก็ตาม โดยยังจะต้องไปแทนที่ตำแหน่งเเทน
มาดูทางฝั่งลิเวอร์พูล ว่าพยายามใช้เเทคติคอย่างไรในการทำลายเเทคติคของยูไนเต็ด
เริ่มด้วย
หนึ่ง ถึงเเม้ในไลร์อัพคูตี้จะยืนปีกซ้าย เเต่ดูเหมือนว่าคลอปจะให้เขาเล่นบทบาทเป็นตัวฟรีมีอิสระในการเล่นเเละสร้างสรรค์เกมให้ได้เปรียบในตำแหน่งมิดฟิลด์ พูดง่ายๆ ให้คูตี้สร้างจังหวะให้ทีมได้เปรียบผู้เล่นที่จะเล่นสี่ต่อสาม หรือสามต่อสอง ดูนาที่ที่ 4.22 เมื่อคูตี้เข้ามาอยู่ในโซนความรับผิดชอบของเออเรร่า ฉะนั้นเฮนเดอสันก็จะอยุ่ในตำแหนงทีว่าง ต่อมาก็คล้ายเดิม มาติชประกบไวนัลดุม เออเรร่าตามคูตี้ มาคิซึ่งเคยประกบเฮนโด้ก็มาประกบชาน ทำให้เฮนโด้ว่างอีกครั้ง หรือในบางครั้งเฟอมิโน่จะถอนตัวเองมาต่ำเพื่อหนีการประกบของวาเลนเซีย เเต่พอเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของเออเรร่า เขาก็จะถูกประกบโดยเออเรร่า ทำให้นักเตะลิเวอร์พูลที่เออเรร่าประกบอยู่ ว่างทันที่เเละสามารถสร้างการเล่นที่ได้เปรียบผู้เล่นได้
ดูนาที่ที่ 5.17 ตอนเเรกที่ประกบกันสามต่อสามในตำเเหน่งมิดฟิล พอคูตี้ถอยลงมาต่ำในตำเเหน่งมิดฟิลเพื่อหนีสมอลลื่ง โดยหลักต้องมีใครตามประกบ เเละ มันอยู่ในความรับผิดชอบของเออเรร่า เเต่เออเรร่าตามคนอื่นอยู่ ทำให้ไม่มีใครตามประกบคูตี้ ทำให้เขามีพื้นที่ว่างขึ้นมาทันทีเเละทำให้ทีมสร้างเกมรุกขึ้นมาได้
สอง นักเตะลิเวอร์พูล พยายามหนีการตามประกบในเกมรับของยูไนเต็ด เเละหมุนเปลี่ยนโซนกับเพื่อนในทีม เพื่อหนีการประกบ ดูนาทีที่ 6.00 เฮนโด้มาพยายามหนีจากโซนรับผืดชอบของมาคิ เมื่อปรากฎว่ามาคิหลุดไม่ได้ต่ามเฮนโด้ ทำให้เฮนโด้มีพื่นที่เล่นอย่างอิสระ เเละ ลิเวอร์พูลยังเล่น (Interchanging zones ) หมุนเปลี่ยนโซนกันของนักเตะ ฉะนั้น นักเตะเกมรับของยูไนเต็ดต้องสื่อสารกันให้ดี เพราะพวกเขาต้องตัดสินใจอย่างเดียวกันคือ ถ้าจะตามก็ต้องติดสินใจตามเหมือนกัน ถ้าจะเปลี่ยนไม่ตามก็ต้องไม่ตามเหมือนกัน
Interchanging zones หมายว่า (ถ้ามีคนใดคนหนึ่งซึ่งวิ่งเติมขึ้นหน้าอีกคนจะถอนมาเล่นเหมือนจะรับบอลเเทน หรือ ถ้ามีใครวิ่งไปทางซ้ายอีกคนจะวิ่งไปทางขวาเเทน) ดูชัดๆในนาที่ 6.20 เมื่อซาลาขึ้นมารับบอล ไวนัลดุมจะวิ่งสอดขึ้นมาเเทน ฉะนั้น ถ้านักเตะเกมรับเเมนยูไม่ตัดสินใจให้ดีหรือสื่อสารไม่ตรงกัน ไวนัลดุมที่สอดขึ้นมาจะหลุดทันที นาที่ที่ 6.40 เมื่อเฟอมิโน่ตรอปตัวเองลงมาต่ำ ตัวโมเรโน่ก็วิ่งสอดขึ้นไปสูง
รวมถึงการวิ่งในเเนวนอนด้วยในนาที่ที่ 6.55 เมื่อตารเมียนตัดสินใจไม่ดี ซาลา ก็มีที่ว่างทันที
ลิเวอร์พูล ยังพยายามที่จะให้มิดฟิลด์ดึงตัวประกบอย่างมาติชเเละเออเร่ราออกมาทางด้านข้าง เพื่อเปืดโอกาสพื้นที่ตรงกลาง เพื่อส่งให้กับกองหน้าที่ถอนลงมารับต่ำ ดูนาทีที่ 7.15 เมื้อมาติชเเละเออเรร่าถูกถ่างออก ทำให้ซาลาที่หนีมาเล่นตรงกลางมีพื้นที่ เพราะลอฟเลนสามารถส่งบอลไปให้ได้โดยไม่มีใครยืนขวาง หรือ ในจังหวะต่อมาที่ติปสามารถส่งให้เฟอมิโน่ได้อย่างง่ายดาย เพราะมาติชถูกถ่างออกไปเล่นด้านข้าง นอกจากนั้น ลิเวอร์พูลยังใช้การโอเวอร์โหลดผู้เล่นเข้าไปในพื้นที่เป้นอีกทางเลือกหนึ่ง ดูนาทีที่ 8.16 เมื่อยังตามประกบโมเรโน่อยู่ ขณะที่คูตี้ก็อยู่ในความรับผืดชอบของยัง ยังไม่สามารถขึ้นไปตามประกบคูตี้ได้ ฉะนั้น ไม่มีใครตามประกบคูตี้เลย เเต่ดีที่จังหวะนั้นเฮนโด้เลือกที่จะโยนยาว
สาม ลิเวอร์พูลใช้วิธีการให้นักเตะเลี้ยงฝ่าเข้าไปเมื่อมีพิ้นที่ เพื่อสร้างพิ้นที่ดึงดูดคู่เเข่งหลุดมาประกบตัวเองเเทน เเล้วตำเเหน่งเพื่อนก็จะว่าง วิธีการนี้เรียกว่า lokdribbel ในภาษาดัชช์ ซึ่งคูตี้ทำได้ดีมากในวิธีการนี้ ดูนาทีที่ 9.17 เมื้อคูตี้เลี้ยงฝ่าขึ้นมาก็ตึงตูดมาติชให้ทิ้งตัวประกบมาไล่เขาเเทน ทำให้ไวนัลดุมว่างทันที จังหวะต่อมาก็เช่นกัน คูตี้พยายามเลี้ยงขึ้นมาเเละดึงผู้เล่นคู่เเข่งทั่งสองคนขึ้นมา ทำให้ตำแหน่งเฟอมิโน่ว่างทันที่ เเต่โชคดีที่จังหวะนั้นล้ำหน้า
เเล้วทำไมเเผนลิเวอร์พูลถึงไม่ประสบความสำเร็จในการเจาะเกมรับยูไนเต็ดล่ะ ??? สาเหตุหลักเลย คือ การยืนตำแหน่งของนักเตะลิเวอร์พูลในสนาม มันไม่สมบูรณ์เเบบพอโดยเฉพาะครึ่งเเรก เมื่อคูตี้ขยับมาเล่นกลางปุบ ไม่มีใครเติมพื้นที่ที่ว่างทางฝั่งซ้ายได้เลย ดูนาที่ที่ 10.08 เมื่อคูตี้ เข้ามาเล่นด้านใน โมเรโน่ก็ขึ้นเติมช้าเกินไป
ในคลิปล้อเลียนใช้คำนี้ " Space as empty as my browser history when my mom needs the computer"เและอีกสาเหตุหนึ่ง คือ นักเตะลิเวอร์พูล ในบางเวลาไม่ตระหนักถึงเเทคติคในสถานการณ์นั้นเพียงพอ ยังมีข้อผิดพลาดอยู่ ดูนาทีที่ 10.56 ถ้าชานเลือกขยับสูงขึ้นมากว่านั้น เขาจะมีพื้นที่อิสระในการเล่นเกมอันตรายมากขึ้น ต่อมาก็คล้ายกันเมื่อเฟอมิโน่ได้รับบอล ซึ่งหันหลังให้ประตู ปกติก็ควรจะมีนักเตะเข้ามาคอยเชื่อมเพื่อเล่นบอลจังหวะเดียว เเต่ปรากฎว่าทั้งเฮนเดอสันเเละไวนัลดุมไม่ขยับเลย
ปล ท้ายที่สุดจะเรียกเเมนยูได้เเต้มเดียว หรือ เสียสองเเต้ม อะไร ก็เเล้วเเต่ก้ขอให้ดูบอลให้สนุก การลุ้นเเชมป์ในลีคเเละฟุตบอลถ้วยยังเปิดกว้างสำหรับทุกทีม
จบเล้ว
