ในวันแย่ๆ ssก็ทำให้มีรอยยิ้มได้
มีนาคมปีก่อนแม่ผมป่วยเข้ารพ.ครับ แม่ผมตำน้ำพริกทำกับข้าวอยู่ดีๆ แกก็บอกว่าขาชาเลยมานั่งพัก ผม พ่อ กะหลานก็มานั่งนวดมือนวดเท้าให้แม่ สักแปปแม่บอกว่าแขนขวาไม่รู้สึกอะไรเลย ชาไปหมดทั้งซีกขวา พ่อผมก็จะพาแม่ผมไปนอนในห้อง แต่แม่ผมอยู่ดีๆ ก็พูดไม่รู้เรื่อง คือพูดไม่เป็นภาษาอ่ะครับ คล้ายเด็กหัดพูดแบะๆ ในใจผมตอนนั้นคิดว่างานเข้าแล้ว เลยพากันสามคนอุ้มแม่ผมขึ้นรถไปรพ.ไปถึงรพ.แม่ผมก็อาเจียน แพทย์ก็พาไปสแกนพบว่ามีเลือดออกในสมอง สาเหตุมาจากเส้นเลือดตีบ ความดันสูง ตอนนั้นผมเฝ้าแม่ผมอยู่ที่รพ.มีญาติ คนแถวบ้านมาเยี่ยมบ่อยมาก แต่แม่ผมจำใครไม่ได้เลย นางพยาบาลถามว่าผมคือใคร แม่ผมก็มองมาที่ผมแล้วก็เงียบ เหมือนไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี ตอนนั้นผมก็ได้แต่ทำเป็นยิ้มๆ ทั้งที่ในใจจุกอกมาก
คืนแรกที่ผมเฝ้าแม่ผมก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย เพราะต้องรีบพาแม่มารพ. น้ำไม่ได้อาบ ข้าวไม่ได้กิน แล้วกฏรพ.คือหลังสามทุ่มจะล้อกประตูห้ามคนเข้าออก ใครจะเยี่ยมก็ต้องเข้ามาก่อนสามทุ่ม ตอนนั้นผมหิวน้ำมาก ไม่มีน้ำกินก็ต้องแอบเข้าไปกินน้ำก็อกในห้องน้ำเอา แล้วมานั่งเฝ้าแม่ต่อ ผมไม่ได้นอนสามวันเต็ม เครียดมากช่วงนั้น ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ จนพี่คนป่วยรถล้มขาหักเตียงข้างๆ บอกผมว่านอนมั้งก็ได้ ผมก็ได้แต่ครับๆ แต่หลับไม่ลงจริงๆ
ระหว่างนั่งดูแม่หลับผมก็นั่งเล่นเนต เข้ามาอ่านss ไปเรื่อย ตอนนั้นผมยังไม่ได้สมัครสมาชิก ได้แต่ตามอ่าน เห็นชื่อยูสเซอร์หลายๆ คนในss ก็พอจำได้บ้างว่ามีใครดังๆ มั่ง ทีนี้ผมเข้าไปอ่านมู้นึง มีคนมาตั้งว่า"คิดถึงใครในss ที่ตอนนี้หายไปแล้วบ้าง" มีท่านนึงมาตอบสั้นๆ ว่า หวังเครมเจ้า ผมก็อ่านผ่านไปเพราะไม่รู้จัก จนท่านหวังเครมเจ้ามาโคว้ทตอบว่า "เดวๆ ตรูยังอยู่นะเว้ยยย
" ตอนนั้นผมขำมาก แบบเป็นรอยยิ้มครั้งแรกในหลายๆ วันเลย
หลังจากนั้นพอหมอมาดูอาการแม่ผม ก็ตัดสินใจว่าจะไม่ผ่า เพราะหมอบอกว่าเลือดที่ออกในสมองแม่ผมมันสามารถละลายเองได้ ไม่จำเป็นต้องผ่า ไม่ต้องทานยาสลายลิ่มเลือดด้วยซ้ำ แค่รอเวลาให้ร่างกายมันฟื้นฟูของมันเอง แต่ต้องพยายามควบคุมความดันกับเบาหวานให้นิ่ง
แม่ผมออกจากรพ.ก็ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องนอนติดเตียงไปสามสี่เดือน เพราะซีกขวาขยับไม่ได้เลย ค่อยๆ ทำกายภาพไป ผมต้องคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้แม่ แรกๆก็เหม็นมาก
หลังๆ เริ่มชิน จนกลายเป็นมือวางอันดับหนึ่งของบ้าน เวลาแม่ผมเริ่มปวด ทุกคนในบ้านจะเรียกผมก่อนเลย
ทุกวันนี้แม่ผมสบายดีแล้วครับ สามารถเดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ หมอนัดดูอาการทุกสองเดือน ตอนนั้นก็มีss นี่แหละ ที่อยู่เป็นเพื่อนผม ช่วยผมนั่งเฝ้าแม่ไปด้วยกัน ขอบคุณทุกคนจริงๆ นะครับ